Entertainment

“4 KINGS” เรื่องราวของเด็กช่างกลที่ให้แง่คิดมากกว่าแค่เรื่องต่อยตี

By: JEDDY June 3, 2022

กลับมาเป็นกระแสที่พูดถึงอีกครั้งสำหรับภาพยนตร์เรื่อง “4 KINGS” ที่นำเสนอเรื่องราวของบรรดาเด็กอาชีวะในยุค 90’s ที่ประกอบไปด้วย อินทรอาชีวศึกษา , เทคนิคบุรณพนธ์ , กนกเทคโนโลยี และ เทคโนโลยีประชาชื่น (ในภาพยนตร์ปรับชื่อเป็นประชาชล) เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่าหากบรรดาเด็กช่างกลต่างสถาบันเจอหน้ากันเมื่อไหร่ก็จะยกพวกซัดกันยับเกือบจะทุกที ซึ่งมันเป็นปัญหาที่คาราคาซังแก้ไขไม่หายมานานหลายสิบปี แถมยังไม่มีใครรู้ด้วยว่าต้นกำเนิดแนวคิดแบบนี้มันเริ่มมาจากใครเป็นคนแรก? 


“4 KINGS” นำแสดงโดยนักแสดงมากความสามารถมากมาย เช่น เป้ อารักษ์ (ดา อินทร), ณัฏฐ์ กิจจริต (โอ๋ ประชาชล), จ๋าย ไททศมิตร (บิลลี่ อินทร), ภูมิ รังษีธนานนท์ (รูแปง อินทร), D Gerrard (ยาด เด็กบ้าน), ทู สิราษฎร์ (เอก บุรณพันธ์) และ โจ๊ก อัครินทร์ (มด ประชาชล) เป็นต้น ทั้งหมดได้มารวมตัวบนเรื่องราวที่ถูกผูกปมไว้นับตั้งแต่ต้นเรื่อง

แม้ภาพยนตร์จะถูกโปรโมตด้วยการชูโรงฉากยกพวกตีกันของเหล่าบรรดานักศึกษาต่างสถาบัน แต่เอาเข้าจริง ๆ แล้วมันกลับไม่ได้มีเรื่องเหล่านั้นเยอะอย่างที่คิด แต่เน้นนำเสนอมุมมองการใช้ชีวิตซะมากกว่า พร้อมทั้งยังให้ข้อคิดไว้ใช้เตือนสติได้ดีทีเดียว


ผลลัพธ์ความรุนแรงคือหายนะ

ความรุนแรงมีแต่สร้างความสูญเสีย คำนี้ดูเหมือนว่าจะใช้ได้จริงอยู่เสมอ ในภาพยนตร์เราจะเห็นได้ว่าการยกพวกไปตะลุมบอนนอกจากจะเจ็บตัวกันเองแล้ว บางครั้งคนทั่ว ๆ ไปที่ไม่ได้เกี่ยวข้องก็ต้องมาซวยรับลูกหลงจากความรุนแรง เรื่องแบบนี้มันไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในภาพยนตร์เท่านั้นแต่ในชีวิตจริงก็มีข่าวให้เห็นบ่อย ๆ มีตั้งแต่ได้รับบาดเจ็บ หรือถึงขึ้นเสียชีวิตเลยก็มี

สิ่งที่เกิดขึ้นมันบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าความรุนแรงไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์อะไรไปมากกว่าผลเสีย


มิตรแท้ไม่ทิ้งกันยามลำบาก

แม้ว่าเหล่าบรรดาเด็กช่างกลจะดูเถื่อนและอันตรายในสายตาคนทั่วไป แต่ถ้าใครสามารถซื้อใจพวกเขาได้รับรองได้ว่าคุณจะได้ใจกลับมาเกิน 100% แน่นอน อาจจะเพราะมาจากแนวความคิดที่ปลูกฝังให้มีความรักเพื่อนมากเป็นพิเศษของโรงเรียนอาชีวะ 

ในภาพยนตร์เราจะได้เห็นซีนที่แสดงความรักของพวกพ้องตลอด โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่เลวร้ายและยากลำบากสุด ๆ พวกเขาก็ไม่มีวันทิ้งกันไปไหน พร้อมลุยในทุุก ๆ สถานการณ์ 


กล้าทำ กล้ารับผิดชอบ

การเป็นนักเลงไม่ได้มีความหมายถึงความก้าวร้าวเพียงอย่างเดียว ในทางกลับกันก็ยังหมายถึงการกล้ารับผิดชอบในสิ่งที่ทำด้วยเช่นกัน สิ่งเหล่านี้ได้สะท้อนออกมาใน 4 KING ที่กล้ายอมรับผลการกระทำของตนเอง แม้จะเป็นเรื่องราวที่ชวนหนักใจมากก็ตาม 


ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร

เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเสมอในชีวิตของคนทุกคน ในบางครั้งก็เริ่มต้นจากศัตรูก่อนจะเปลี่ยนเป็นมิตรภาพ และในบางครั้งก็เริ่มต้นจากมิตรภาพแต่จบลงด้วยการเป็นศัตรู ดังนั้นการทำสิ่งดี ๆ ให้กับคนรอบข้าง และการหมั่นรักษามิตรภาพจึงเป็นเรื่องที่ควรคำนึกถึงเสมอ 


ในส่วนของภาพรวมของภาพยนตร์จัดได้ว่าดูได้แบบเพลิน ๆ อาจจะไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นและหวือหวาขนาดนั้น ส่วนนักแสดงที่บทบาทโดดเด่นส่วนตัวยกให้เป็น D Gerrard, โจ๊ก อัครินทร์ และจ๋าย Taitosmith สิ่งที่พวกเขาสื่อสารออกมาทำให้เรารู้สึกอินได้ไม่ยากเลย แต่การที่คุณจะเข้าใจเรื่อง 4 KINGS ได้ดีกวาปกติคุณก็ควรจะต้องทราบเรื่องราวและวัฒนธรรมของบรรดาชาวอาชีวะมาบ้าง ไม่อย่างนั้นอาจจะทำให้คุณเอ๊ะในหัวได้รัว ๆ เหมือนกัน

สรุป 4 KINGS เป็นภาพยนตร์ที่ดูง่าย ดูเพลิน เหมาะสำหรับการรีแลกซ์ เพราะฉะนั้นการจะชมเรื่องนี้ให้สนุกก็แค่อย่าคิดอะไรมากเท่านั้นเองครับ

JEDDY
WRITER: JEDDY
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line