เข้าใจได้เลยว่าทำไมหนังเรื่องนี้มันถึงไวรัลทันทีที่ Netflix ปล่อยภาพนิ่งเมื่อต้นเดือนก่อน เอาจริง ๆ ถ้าแค่มีคนมาเล่าเรื่องย่อให้ฟังแบบยังไม่เห็นภาพอะไรเลย ประมาณว่า ‘ทราย’ สาวอีสานบ้านทุ่งที่ไปทำงานบัญชีในกรุงเทพ กับ ‘เอิร์ล’ ผัวฝรั่งในบริษัทเดียวกัน บึ่งรถกลับมาเยี่ยมบ้านเกิดอีกครั้งในช่วงเวลาพายุใหญ่ประจำฤดูกำลังจะถล่มต่างจังหวัด แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันรอคอยพวกเขาอยู่ นั่นคือฆาตกรต่อเนื่อง กับศพของเกือบทุกคนในคืนนั้น จบ. อีพิคมาก ! อีสานกายะก็มีแล้ว อีสาน Hip-Hop ก็มาแล้ว มาคราวนี้บ้านเรามี ‘อีสานฆาตกรรม’ ที่หมายถึงหนังไทยชอง Mystery & Suspence แคปเจอร์ภาพวัฒนธรรมความเป็นคนอีสานเอาไว้ โดย ‘วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง’ ที่เซตติ้งคือทุกอย่าง “Setting is god !” อย่าเรียกว่ารีวิวเลยละกันนะ เพราะคงไม่ได้ใส่ fact อะไรมากเท่าไหร่ ยิ่งความดีงามของผู้กำกับผู้ส่งหนังเข้าเทศกาลเมืองคานส์คนแรกของไทย การวิเคราะห์หนังเรื่องล่าสุดของเขาอ้างอิงกับหนังไอคอนิกเรื่องก่อน ๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เราขอพูดถึงสิ่งที่ชอบไม่ชอบเพียว ๆ ไปเลย ให้เข้าใจง่ายดีเด้อ อีสานเซอร์เรียลสไตล์ เมอร์เด้อเหรอ คือหนังอีกเรื่องที่เป็นเหมือนสนามเด็กเล่นของผู้กำกับ ส่วนตัวเราชอบอารมณ์ของเรื่องนี้มาก บ้านไม้เก่า
กลับมาเป็นกระแสที่พูดถึงอีกครั้งสำหรับภาพยนตร์เรื่อง “4 KINGS” ที่นำเสนอเรื่องราวของบรรดาเด็กอาชีวะในยุค 90’s ที่ประกอบไปด้วย อินทรอาชีวศึกษา , เทคนิคบุรณพนธ์ , กนกเทคโนโลยี และ เทคโนโลยีประชาชื่น (ในภาพยนตร์ปรับชื่อเป็นประชาชล) เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่าหากบรรดาเด็กช่างกลต่างสถาบันเจอหน้ากันเมื่อไหร่ก็จะยกพวกซัดกันยับเกือบจะทุกที ซึ่งมันเป็นปัญหาที่คาราคาซังแก้ไขไม่หายมานานหลายสิบปี แถมยังไม่มีใครรู้ด้วยว่าต้นกำเนิดแนวคิดแบบนี้มันเริ่มมาจากใครเป็นคนแรก? “4 KINGS” นำแสดงโดยนักแสดงมากความสามารถมากมาย เช่น เป้ อารักษ์ (ดา อินทร), ณัฏฐ์ กิจจริต (โอ๋ ประชาชล), จ๋าย ไททศมิตร (บิลลี่ อินทร), ภูมิ รังษีธนานนท์ (รูแปง อินทร), D Gerrard (ยาด เด็กบ้าน), ทู สิราษฎร์ (เอก บุรณพันธ์) และ โจ๊ก อัครินทร์ (มด ประชาชล) เป็นต้น ทั้งหมดได้มารวมตัวบนเรื่องราวที่ถูกผูกปมไว้นับตั้งแต่ต้นเรื่อง แม้ภาพยนตร์จะถูกโปรโมตด้วยการชูโรงฉากยกพวกตีกันของเหล่าบรรดานักศึกษาต่างสถาบัน แต่เอาเข้าจริง ๆ