FASHION

A Man’s Guide To Wearing Rings : รู้จักกับการใส่แหวนของผู้ชายอย่างไรให้ดูดี ครบทุกสไตล์ และรายละเอียด

By: HYENA December 18, 2017

ถ้าหากคุณเป็นคนที่สวมใส่เครื่องประดับอย่าง แหวน โดยที่ยังไม่ได้แต่งงาน  แต่คุณสวมใส่แหวนเพียงเพราะว่า มันเป็นหนึ่งในเครื่องแต่งกาย ที่ทำให้ดูมี Style และดูมีอะไรมากขึ้น แต่จริง ๆ แล้ว คุณรู้หรือไม่ว่า เครื่องประดับอย่างแหวนนั้น มันมีความหมายอะไรอีกหลายอย่างที่ซ่อนไว้ ซึ่งสามารถสังเกตได้จากนิ้วมือผู้สวมใส่อีกด้วย เพราะฉะนั้นแล้ว หากใครที่เป็นคนชอบใส่แหวนอยู่เป็นประจำแล้วล่ะก็ คุณควรจะแคร์ และรู้ที่มาที่ไปที่แท้จริงกันหน่อยดีกว่า

วันนี้เราจึงได้นำเอาเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างผู้ชาย กับแหวนที่มีมาอย่างยาวนาน รวมไปถึงความหมายในการสวมแหวน รวมไปถึงแหวนในแบบต่าง ๆ ว่ามันคืออะไรกันแน่ มาให้กับชาว UNLOCKMEN ทุกคนได้อ่านกัน รับรองว่า มันเป็นจะเป็นอีกหนึ่งความรู้ใหม่ ที่ใครหลาย ๆ คนอาจจะไม่รู้มาก่อนอย่างแน่นอน

Ring & Finger Symbolism

ในความเป็นจริงแล้ว แหวน นั้นเป็นที่รู้กันมาอย่างยาวนานหลายพันปีว่า มันไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องประดับธรรมดา ๆ เท่านั้น แต่แหวนยังมีหน้าที่สื่อสาร หรือเล่าเรื่องราวอะไรบางอย่าง ให้กับคนรอบข้างที่ได้พบเห็นรับรู้ถึงความหมายอีกด้วย ดังนั้น การใส่แหวนแต่ละแบบ หรือแต่ละนิ้วของแต่ละคนนั้น จึงมีความหมายเฉพาะเจาะจงที่แตกต่างกันออกไป

อย่างเช่นในอดีต ผู้ชายอย่างเรานั้น สวมใส่แหวนเพื่อเป็นการแสดงสถานะความมั่งคั่ง ความทะเยอทะยาน และความสัมพันธ์ ให้คนอื่น ๆ ได้รับรู้ โดยการสวมแหวนนี้ได้กลายเป็นวัฒนธรรม ที่สืบทอดต่อกันมาจนกระทั่งปัจจุบัน ซึ่งเห็นได้ว่า บรรดาคนที่มีเงินทองเหลือใช้ทั้งหลาย มักจะงัดแหวนออกมาใส่กันเวลาออกไปงานสังคม นั่นก็เพื่อแสดงความหมายแทนความมั่งคั่งร่ำรวย และทรัพย์สมบัติที่พวกเขาถือครองอยู่ในมือนั่นเอง

ผู้ชายหลายคนสวมแหวนอยู่ในมือ แต่ไม่ทราบความหมายที่แท้จริงของมัน ในขณะที่คนส่วนใหญ่จะรู้เฉพาะความหมายของแหวนแต่งงานเท่านั้น จริง ๆ มีแหวนอีกมากมายที่เราเห็นหลายคนสวมใส่อย่างเช่น Signature Ring หรือแหวนลายเซ็นที่จริง ๆ แล้ว ไม่ใช่ว่า ใครได้ที่จะหยิบมันขึ้นมาสวมใส่แบบสุ่มสี่สุ่มห้า

และที่ด้านล่างนี้ จะเป็นอีกหนึ่งความรู้ที่จะช่วยให้ผู้ชายทุกคนสามารถหยิบแหวนขึ้นมาสวมนิ้วได้อย่างถูกต้อง และมั่นใจ ด้วยหลักเกณฑ์การใส่แหวนบนนิ้วมือที่ถูกต้อง รวมไปถึง 5 กฎที่ทุกคนควรปฏิบัติตาม ถ้าหากว่าคุณกำลังสวมเครื่องประดับที่เรียกว่า แหวน อยู่ในมือ

Right Hand vs. Left Hand

ก่อนที่เราจะเจาะลึกลงไปถึงความหมายของการใส่แหวนในแต่ละนิ้วกัน เราจะมาดูกันที่ภาพรวมภาพใหญ่อย่างการใส่แหวนที่มือซ้าย และมือขวากันก่อนเป็นอันดับแรก

โดยทั่วไปแล้ว คนเรามักจะเข้าใจว่า การสวมแหวนบนมือซ้าย และมือขวานั้น มีความหมายแตกต่างกัน และเป็นสิ่งที่สามารถใช้ฟันธงความหมายได้แบบแน่นอน 100% อย่างเช่น เมื่อเห็นคนสวมแหวนที่นิ้วนางของมือซ้าย โดยส่วนใหญ่คนก็จะเข้าใจความหมายว่า คนคนนั้นแต่งงานแล้วในทันที

ซึ่งในความเป็นจริงมันไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป เพราะแหวนหมั้น หรือ แหวนแต่งงานนั้น มีความแตกต่างในเรื่องของการสวมใส่ไปตามท้องถิ่น และวัฒนธรรม เช่น ผู้ชายชาวอเมริกันจำนวนมากที่สวมแหวนแต่งงานไว้ที่นิ้วนางข้างซ้าย แต่สำหรับผู้ชายที่แต่งงานในโบสถ์อีสเทิร์น ออโธดอกซ์ ส่วนใหญ่จะสวมแหวนเอาไว้ที่นิ้วนางขวาแทน

ดังนั้น การสวมแหวนที่มือซ้าย หรือมือขวาจึงไม่ใช่เรื่องใหญ่อย่างที่ใครหลาย ๆ คนเข้าใจ คนเราสามารถตัดสินใจสวมแหวนที่นิ้วมือข้างใดก็ได้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม และการแสดงความหมายของแหวนวงนั้นให้ได้มากที่สุดเป็นพอ

โดยมือซ้ายของคนเรา มักเป็นตัวแทนของเรื่อง “จิตใจ” เพื่อด้านซ้ายมือของคนเราอยู่ใกล้กับหัวใจมากกว่า ส่วนมือขวาซึ่งเป็นมือที่หลายคนถนัด ไว้จับปากกาทำงาน จับของใช้งานทำนู่นทำนี่ จะเป็นตัวแทนในเรื่องของ “กายภาพ” ใช้บ่งบอกถึงอำนาจบารมี ยศถาบรรดาศักดิ์ แตกต่างจากการสวมแหวนด้านซ้าย ที่เป็นเรื่องของความเชื่อ หรือสิ่งที่เอาไว้ยึดเหนี่ยวจิตใจ อย่างแหวนมั่นที่เป็นตัวแทนคำสัญญา หรือความศรัทธาในความเชื่อต่าง ๆ ในแต่ละคน

 

The Little (Pinky) Finger.

การสวมแหวนที่นิ้วก้อยถือเป็นทางเลือกแรกของคนที่อยากจะสวมใส่แหวน โดยที่ไม่ต้องการสื่อความหมายอะไรออกมาให้คนภายนอกได้รับรู้ เพราะการสวมแหวนที่นิ้วก้อยนั้น ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องทั้งในเรื่องของศาสนา วัฒนธรรม หรือเรื่องของความเชื่อใด ๆ อย่างชัดเจน

ถึงแม้ว่าจะมีภาพยนตร์ หรือเรื่องเล่ามากมายที่แสดงให้เห็นว่า การสวมแหวนที่นิ้วก้อยนั้น จะมีนิยมในหมู่ของคนที่มีความเกี่ยวข้องกับองค์กร หรือเครือข่ายอาชญากรรม แต่มันก็ไม่ได้มีสิ่งจะมาเป็นหลักฐานยืนยัน รวมไปถึงการพิสูจน์อย่างชัดเจน

นอกจากนี้นิ้วก้อยยังเป็นนิ้วที่ถ้าหากใครสวมแหวนก็จะไม่โดดเด่นจนเกินไป จึงทำให้ไม่เป็นที่สะดุดสายตาของคนทั่วไปมากนัก เหมาะสมกับคนที่อยากใส่แหวน แต่ไม่ได้ต้องการจะโชว์ให้เห็นแบบจัง ๆ เรียกว่า ใส่ไว้เพื่อความสุขทางใจของตัวเองเฉย ๆ ก็ว่าได้

ในทางโหราศาสตร์บางตำราได้มีการเชื่อมโยงการสวมแหวนที่นิ้วก้อยเข้ากับดาวพุธ ซึ่งเป็นตัวแทนของสติปัญญา ความเฉลียวฉลาด และการโน้มน้าวจิตใจ มันจึงมีความหมายในทางโหราศาสตร์ในเชิงที่ว่า คนที่สวมใส่แหวนที่นิ้วก้อยนั้น เป็นคนที่มีสติปัญญา มีความกล้าแสดงออก และมีทักษะในการฟังที่ดี

The Fourth (Ring) Finger.

ในแถบอเมริกาเหนือ และอเมริกาใต้ รวมไปถึงหลาย ๆ ประเทศนั้น เชื่อว่าการใส่แหวนที่นิ้วนางนั้น หมายถึงคนที่มีคู่ หรือแต่งงานแล้ว แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น แหวนที่จะบ่งบอกว่าคนไหนมีคู่ หรือผ่านการแต่งงานมาแล้วหรือไม่นั้น แหวนที่นิ้วนางจะต้องเป็นแหวนที่ประดับด้วยอัญมณี หรือเป็นแหวนที่ใช้ในพิธีแต่งงานเท่านั้น

ส่วนแหวนเรียบ ๆ อย่างเช่น แหวนเงิน แหวนโลหะต่าง ๆ ที่ไม่ได้มีการประดับอัญมณี ถ้าหากสวมใส่ไว้ที่นิ้วนางมันอาจจะไม่ได้หมายความว่า คนดังกล่าวนั้น มีเจ้าของแล้วเช่นกัน

การที่คนส่วนมากเข้าใจว่า นิ้วนางข้างซ้ายนั้นเป็นสัญลักษณ์ของการถือคำมั่นสัญญา และความรักก็เพราะว่า คนเรามีความเชื่อกันว่า เส้นเลือดแดงใหญ่ที่นิ้วนางนั้น จะเดินทางไปยังหัวใจของเราโดยตรง นั่นจึงเปรียบเสมือนตัวแทนของหัวใจ และหมายถึงพันธะนิรันดร์

ในทางโหราศาสตร์การสวมแหวนที่นิ้วนางยังถูกเชื่อมโยงกับดวงอาทิตย์ ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของแสงให้กับสิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลก ดังนั้น มันจึงเป็นตัวแทนของการริเริ่ม ความคิดสร้างสรรค์ และความงดงามสว่างสไวอีกด้วย

The Middle Finger.

นิ้วกลางเป็นนิ้วที่ใหญ่ และยาวที่สุด ดังนั้น ใครที่สวมแหวนนิ้วกลางจึงดูทำให้ดูโดดเด่น และแปลกตาเป็นพิเศษ และที่ยิ่งไปกว่านั้น การที่สวมแหวนนิ้วกลาง ยังอาจจะก่อให้เกิดอุปสรรคในการใช้มือหยิบจับสิ่งของได้มากที่สุดอีกด้วย ดังนั้น คนส่วนใหญ่จึงไม่ค่อยจะนิยมสวมใส่แหวนที่นิ้วกลางเท่าไหร่

บางคนที่สวมใส่แหวนที่นิ้วกลางก็อาจจะสวมมันไปโดยที่ไม่ได้คิดอะไรมากนัก เพราะการสวมแหวนที่นิ้วกลางนี้ เป็นการสวมแหวนที่คนมีลักษณะนิสัยค่อนข้างตรงไปตรงมาไม่ซับซ้อนมักจะทำกัน

อีกทั้งยังเป็นตัวสื่อความหมายถึงความแข็งแกร่ง และตรงไปตรงมา ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะที่มีในผู้ชายส่วนใหญ่อีกด้วย ดังนั้น เราจึงเห็นผู้ชายสวมแหวนที่นิ้วกลางมากกว่า ผู้หญิง

เนื่องจากตำแหน่งนิ้วกลางถูกวางเอาไว้ในตำแหน่งที่สมดุลระหว่างซ้าย และขวา มันจึงถูกเชื่อมโยงเข้ากับดาวเสาร์ในทางโหราศาสตร์ ที่เป็นตัวแทนของความเรียบง่าย ตรงไปตรงมา และความมีสมดุลมโนธรรม รู้จักเรียงลำดับก่อนหลังได้เป็นอย่างดี นิ้วกลางจึงเป็นอีกนิ้วหนึ่งที่ผู้ชายที่ต้องการแสดงออกถึงความเป็นกลาง คนชอบตัดสินมักสวมใส่กัน

The Index (Pointer) Finger.

ตามสัญชาติญาณ และการแสดงออกของมนุษย์นั้น นิ้วชี้ถือว่ามีบทบาทมากที่สุดในบรรดาทุกนิ้วเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นการชี้ตำแหน่ง กดปุ่ม หรือแม้แต่หยิบจับสิ่งของนิ้วชี้จะต้องโผล่ขึ้นมาให้ใครต่อใครได้เห็นอยู่เป็นประจำ

ดังนั้น การสวมแหวนที่นิ้วชี้ จึงเป็นที่นิยมมากในอดีต เนื่องจากสามารถบ่งบอกสถานะความมั่งคั่งของผู้ใส่ได้ ในแถบทวีปยุโรปในสมัยก่อนนั้น บางประเทศถึงกับห้ามคนชนชั้นที่ไม่ได้มีฐานะมากนักสวมใส่แหวนที่นิ้วชี้นี้เลยก็มี

แหวนที่คนจะนำมาสวมใส่ที่นิ้วชี้ส่วนใหญ่ จึงเป็นแหวนที่บ่งบอกถึงบารมี อย่างเช่น แหวนประจำตระกูล แหวนยศ แหวนที่มีราคาแพง หรือแหวนอะไรก็ตามที่เมื่อชี้นิ้วไปทางไหนเมื่อคนเห็นแล้วต้องระสึกน่าเกรงขาม พูดง่าย ๆ ว่า เป็นแหวนที่แสดงความเป็นตัวตนของผู้ใส่ออกมาอย่างชัดเจน ซึ่งตรงกันข้ามกับผู้ที่ใส่แหวนที่นิ้วก้อยอย่างสิ้นเชิง

ทางด้านโหราศาสตร์ก็ยังบอกเอาไว้อีกด้วยว่า คนที่สวมแหวนที่นิ้วชี้นั้น เปรียบเสมือนกับดาวพฤหัสที่มีขนาดใหญ่ หมายถึงการแผ่ขยายพลังอำนาจ มีพลังแห่งการปกครอง ดังนั้น ว่ากันว่า ผู้ชายคนใดที่ใส่แหวนที่นิ้วชี้ จะเป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง กล้าสั่งการ มีความเป็นผู้นำ แถมยังดูโดดเด่นดูดีได้ แม้ว่าแหวนที่สวมใส่จะเป็นแหวนเงินเรียบ ๆ หรือ แหวนโละหะก็ตาม

The Thumb.

อย่างที่เรามักสังเกตกันได้ในภาพยนตร์ หรือคนที่ดูมีความเป็นเจ้าสัว โดยส่วนใหญ่มักจะนำแหวนมาสวมใส่ที่นิ้วโป้งกัน ถึงแม้ว่ามันจะเป็นการสวมแหวนที่ออกจะประหลาดสักเล็กน้อย แต่การสวมแหวนที่นิ้วโป้งนั้น มันมีความหมายที่สื่อให้คนภายนอกได้เข้าใจว่า คนดังกล่าวนั้น เป็นคนที่ร่ำรวยเงินทอง และมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์มาตั้งแต่ยุคโบราณ

นอกจากนี้ การสวมแหวนที่นิ้วโป้งยังเป็นทางเลือกที่ดีอีกทางของคนที่ชอบการสวมแหวนมาก ๆ หลาย ๆ นิ้ว มันจะช่วยถ่ายเทสมดุลไม่ให้ดูเยอะเกินไปถ้าหากกระจายแหวนออกมาใส่ที่นิ้วโป้งบ้างก็จะดี

การสวมแหวนที่นิ้วโป้งยังเป็นสื่อแทนของคนที่มีมิตรมาก เพราะมันแสดงออกถึงคนที่ชอบการสังสรรค์  และมิตรภาพได้อีกด้วย และที่ว่ากันว่า คนที่ใส่แหวนที่นิ้วโป้งคือคนที่เป็นเจ้าสัวรวยอื้อซ่านั้น ก็เพราะว่า ในสมัยอดีตหากใครที่จะใช้ทอง หรือสิ่งมีค่ามาทำแหวนสวมนิ้วโป้งได้ จะต้องใช้วัถุดิบมากกว่าแหวนที่ใช้สวมนิ้วอื่น ๆ เนื่องจากนิ้วโป้งมีขนาดใหญ่ที่สุด นั่นจึงเป็นที่มาของการตีความว่า สวมแหวนนิ้วโป้งคือ รวย

การสวมแหวนที่นิ้วโป้งในทางโหราศาสตร์ถูกวางตำแหน่งเอาไว้ที่ระหว่างกลางของดาวศุกร์ และดาวอังคาร จึงเป็นตัวแทนของความแข็งแรง อุดมสมบูรณ์ และความมั่นใจในความยิ่งใหญ่ของตัวเอง  จึงไม่แปลกใจที่เห็นผู้ชายบางคนที่ดูฟู่ฟ่า และมีสังคมกว้างขวาง จะสวมแหวนเอาไว้ที่โป้งของพวกเขา

The 5 Rules of Wearing Rings.

Rule #1: Every Ring Sends a Message.

แหวนที่คุณใส่นั้นเป็นอาจแสดงสัญลักษณ์บางอย่าง เช่นแหวนรุ่นกองทัพเรือ กองทัพบก กองทัพอากาศ แหวนรุ่นสถาบันอันทรงเกียรติ ซึ่งบ่งบอกถึงยศถาบรรดาศักดิ์ เกียรติยศอันภาคภูมิ และความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในตำแหน่งทางการเมือง หรือราชการ

ถ้าคุณไม่ได้ผ่านสถาบันเหล่านั้นมา แต่อยากแสดงสัญลักษณ์บางอย่าง แหวนที่มีรูปแบบแตกต่างกันนั้น ก็สามารถแสดงถึงอำนาจ หรือความร่ำรวยได้เช่นกัน อย่างในบางประเทศ แหวนทองวงใหญ่กับอัญมณีเลอค่าเม็ดเป้งก็เป็นตัวแทนให้เห็นถึงความร่ำรวยได้อย่างชัดเจน

หรือการที่คุณกำลังคุย ๆ กับใครสักคนอยู่ แล้วเกิดปิ๊งขึ้นมา ถ้าคุณเห็นเขาหรือเธอสวม แหวนหมั้น หรือแหวนแต่งงานอยู่แล้วล่ะก็ มันก็บ่งบอกอย่างชัดเจนได้เลยล่ะว่าคุณควรสานสัมพันธ์แค่ไหนให้ไม่เกินขอบเขต

โดยทั่วไปแล้ว เรามักจะไม่สังเกตว่าคนอื่น ๆ รอบข้างจริง ๆ แล้วก็กำลังจับตามองแหวนบนนิ้วของคุณอยู่เช่นกัน ถึงพวกเขาจะไม่พูดอะไรถึงมัน แต่เชื่อเถอะว่าเราจะถูกสแกนรายละเอียดมือของเราแม้เพียงแว๊บเดียวที่ได้สนทนากับใครสักคน เพราะฉะนั้นให้ระวังเรื่องนี้ดี ๆในบางสถานการณ์ เช่น การสัมภาษณ์งาน การทำธุรกิจกับคู่ค้าหัวโบราณ หรือแม้กระทั่งการเดินทางไปต่างประเทศ เพราะบางครั้งเราอาจจะถูกเช็คจากคนทั่ว ๆ ไปแบบไม่รู้ตัว ซึ่งบางทีแหวนของคุณก็จะถูกตีความในแบบที่ต่างไปจากที่คุณอยากให้เป็น

นอกจากนี้ ในบางประเพณีของบางศาสนา อย่างกฎของการแต่งานแบบออโธดอกซ์ ของยูเครนนั้น มีการกำหนดให้ใส่แหวนแต่งงานที่มือข้างขวา อาจจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ที่จริงการใส่แหวนแต่งงานมือขวานั้น สร้างปัญหาให้กับการสนทนาเมื่อได้พบปะทำความรู้จักกับคนใหม่ ๆ อยู่บ่อย ๆ เลยทีเดียว เนื่องจากเข้าใจผิดคิดว่าเป็นคนที่ยังโสด และไม่มีเจ้าของ

Rule #2: Be Confident

ถ้าคิดจะมีออฟชั่นเป็นแหวน คนแมน ๆ แบบเราก็ควรจะเซลฟ์กับมัน ถ้าใส่แล้วรู้สึกไม่มั่นใจก็ไม่ต้องฝืน อาจจะลองใส่เล่น ๆ ในบ้านให้ชินกับน้ำหนัก และความรู้สึกของการสวมแหวนเสียก่อนก็ได้

แล้วก็เริ่มใส่ต่อหน้าคนใกล้ตัว ดูว่าพวกเขาสังเกตเห็นมันไหม แล้วพูดถึงมันว่าอย่างไร พยายามทำความคุ้นชินกับคอมเม้นท์ของพวกเขาก่อนที่จะเริ่มใส่ออกไปนอกบ้าน

อีกอย่าง คุณควรรู้เรื่องราวของแหวนที่คุณสวม เตรียมตัวตอบคำถามเล่าเรื่องราวพวกนั้นเอาไว้ได้เลย เช่น เป็นแหวนของครอบครัวที่ส่งทอดสืบต่อกันมาตั้งแต่ราชวงศ์ถัง หรือ เป็นแหวนที่ซื้อตอนไปเที่ยวยุโรปเมื่อฤดูร้อนปีก่อน มันเลยเป็นแหวนที่ช่วยให้คุณจำช่วงเวลาที่แสนวิเศษของทริปนั้น หรือเรื่องราวของแหวนวงนี้มีที่มาอย่างไรก็ว่าไป

และไม่ว่าเรื่องราวของแหวนที่คุณใส่อยู่นั้น มันจะมีความเป็นมาอย่างไร แหวนที่คุณใส่นั้นก็สามารถเป็นจุดสตาร์ทของบทสนทนาที่ออกรสได้แน่นอน เพราะฉะนั้นอย่ามองข้าม

Rule #3: Maintain Proportion to Your Hands.

ถ้ามือใหญ่ ก็ควรจะใส่แหวนที่ใหญ่หน่อย ส่วนผู้ชายที่มือเล็กก็ควรเลือกแหวนให้สมส่วนกับขนาดของมือ และขนาดของนิ้วด้วยเช่นกัน หากคุณมีนิ้วเล็ก ก็ควรเลือกความหนาของเนื้อแหวนให้พอดี พวกแหวนที่หนา ๆ อาจจะเหมาะกับคนที่มีนิ้วใหญ่ล่ำมากกว่า คนที่นิ้วเล็กสั้น ที่อาจจะดูตลก หรือแปลกตาอยู่ในบางที

ในบางกรณีที่คุณต้องรับแหวน เช่นแหวนรุ่น หรือแหวนแก๊งอะไรก็ตาม ให้เลือกไซส์ที่เหมาะกับนิ้วของคุณจริง ๆ แต่ถ้าไม่มีจริง ๆ คุณอาจจะเก็บไว้ หรือนำไปแก้ไซส์ก่อนที่จะสวมใส่ก็ได้ อาจะเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่ง

Rule #4: Balance the Ring(s) With Other Jewelry.

จะใส่แหวนหลายวง หรือใส่กับเครื่องประดับอย่างอื่น ก็ควรจะจัดสรรให้สมดุล สลับบางวงไปใส่อีกข้างบ้าง อย่ายัดทุกวงไว้ข้างเดียวกัน เช่น ถ้าใส่แหวนแต่งงานกับนาฬิกาที่มือซ้ายแล้ว ก็ใส่อีกวงที่มือขวาจะดีกว่า

Rule #5: Match Metals.

อันนี้ไม่ยาก และไม่ได้มีกฎตายตัวอะไร แต่การแมทช์เนื้อโลหะของแหวนให้ดูดีบนนิ้วของคุณ มันก็มีระบบของมันอยู่นิดหน่อยบ้างเหมือนกัน

ปกติผู้ชายเราก็จะใส่แค่แหวนที่มีเนื้อสีเงินไม่ก็สีทอง ถ้าคุณไม่มีที่ชอบเป็นพิเศษก็แค่ดูให้เหมาะกับสีผิว ถ้าผิวโทนเย็น คือจะสังเกตเส้นเลือดตรงข้อมือเป็นสีโทนน้ำเงิน แปลว่าคุณเหมาะกับแหวนสีเงินมากกว่า แต่ถ้าคุณมีผิวโทนร้อน หรือเห็นเส้นเลือดเป็นสีเขียว ก็แปลว่าแหวนทองจะดูดีกว่าบนมือของคุณ

ปกติแล้วเราก็ควรเลือกสีโลหะแหวนให้แมทช์กับออฟชั่นอื่น เช่น นาฬิกา หรือหัวเข็มขัด เพราะถ้าทั้งหมดเป็นโทนเดียวกันก็จะยิ่งดูดี และลงตัวมากขึ้น

ถ้าคุณทำตามนี้ภาพรวมคุณก็จะดูดีได้แบบง่าย ๆ แต่ถ้าคุณมั่นใจมากพอ คุณจะแหกกฎเหล่านี้ แล้วทดลองอะไรที่แหวก ๆ แปลกใหม่ตามสไตล์แฟชั่นของคุณดูบ้างก็ได้ไม่ใช่เรื่องผิดอย่างแน่นอน

Is There a Maximum Number of Rings to Wear?

ปกติแล้วนิ้วหนึ่งก็ควรจะใส่แหวนแค่วงเดียว แล้วจะใส่ข้างละ 2-3 วงถือว่าเป็นจำนวนมากที่สุดที่ยังสามารถจะดูดีอยู่ได้ แต่ทางที่ดีที่สุดคุณควรใส่แค่วงเดียวที่บ่งบอกสถานะ สัญลักษณ์ หรือความเป็นคุณมากที่สุด เพราะการใส่แหวนแค่วงเดียวจะยิ่งทำให้แหวนที่คุณใส่ดูโดดเด่นยิ่งขึ้น เรียกง่าย ๆ ว่าใช้หลักการมินิมอลแต่ดูดีอะไรทำนองนั้น

ปกติแล้วผู้ชายอย่างเรามักจะเลือกแหวนวงที่สำคัญที่สุดมาสวมใส่ อาจจะเป็น แหวนแต่งงาน แหวนรุ่น หรือแหวนประจำตระกูล เพราะคุณภาพ และความหมายของแต่ละวงนั้นสำคัญกว่าปริมาณ ของแหวนธรรมดา ๆ ที่เห็นขายอยู่ก็ซื้อมาใส่เต็มทุกนิ้วจนล้นนิ้ว ล้นมือก็ตามไม่มีความหมายอะไร

ท้ายที่สุดไม่ว่าคุณจะตัดสินใจเลือกแหวนวงไหนมาประดับไว้บนนิ้วมือของคุณ ถ้าหากว่าคุณได้ลองทำตามกฎ และคำแนะนำง่าย ๆ ที่เราได้นำมาให้อ่านกันในวันนี้ รับรองเลยว่า ไม่มีพลาดการใส่แหวนของคุณนั้น จะไม่เป็นอะไรที่ดูขัดใจ หรือขัดตาใครอย่างแน่นอน แถมอาจจะทำให้คุณดูดี และดูเป็นคนที่มีความรู้ความเข้าใจในการสวมใส่แหวนมากขึ้นอีกด้วย

SOURCE

HYENA
WRITER: HYENA
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line