Airlab อีกหนึ่งผลผลิตเพื่อคนรักการถ่ายภาพ โดย ชาติฉกาจ ไวกวี

คุณคิดว่าความรักความชอบจะพาเราไปถึงจุดไหนได้บ้าง สำหรับบางคนอาจจะคิดว่าแค่ได้ทำสิ่งที่ชอบก็เพียงพอแล้ว ไม่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่ามันจะพาเราไปไกลแค่ไหน เรามีความเชื่ออย่างหนึ่งว่าไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่ชื่นชอบการเล่นดนตรี ชอบวาดภาพ ชอบเขียนหนังสือ ชอบการออกแบบ ชอบทำอาหาร ชอบถ่ายรูป และอื่นๆ อีกมากมาย สิ่งเหล่านี้อาจจะพาคุณไปถึงจุดไกลเกินที่จะคาดเดาได้ และอาจนำความสำเร็จต่างๆ ในชีวิตเข้ามาหาคุณ แค่เพียงคุณตั้งใจ และลงทุนลงแรงไปกับมันให้มากพอ

การถ่ายภาพถือเป็นส่ิงที่หลายคนให้ความสำคัญ เพราะนอกจากจะเป็นส่ิงที่คอยบันทึกความทรงจำ และความประทับใจให้เราได้นึกถึงอยู่เสมอ ยังต่อยอดเป็นช่องทางทำมาหากินให้ผู้ที่รักการถ่ายภาพเป็นชีวิตจิตใจได้ด้วย มีคนอยู่หนึ่งคนที่เราคิดว่าเขาน่าจะเป็นตัวอย่างในเรื่องของการทำสิ่งที่รักให้กลายเป็นสิ่งที่สามารถเลี้ยงชีพของเขา และนำพาความสำเร็จมายังเขาได้ “แอ๊ะ-ชาติฉกาจ ไวกวี” ช่างภาพ/ผู้กำกับ/อาจารย์พิเศษ ที่มีผลงานสร้างชื่อมากมาย และอีกหนึ่งหน้าที่ใหม่ของเขาก็คือการเป็นเจ้าของร้านล้าง-อัดภาพฟิล์มที่มาแรงที่สุดในขณะนี้ AirlabBKK วันนี้ UNLOCKMEN จะพาคุณไปรู้จัก Airlab ให้มากขึ้น ผ่านตัวตนของชายคนนี้ที่ทำทุกอย่างโดยอาศัยมาจากพื้นฐานของความรัก สถานที่แห่งนี้ก็เช่นกัน

จุดเริ่มต้นของ Airlab ไม่ได้มาเพราะกระแสของการถ่ายภาพ แต่มาจากความรักที่บ่มเพาะว่าเป็นเวลานานจนอยากแบ่งปันประสบการณ์ที่มีให้กับผู้อื่น

“เราถ่ายรูปตั้งแต่ ป. 4 เรียกว่าเกินครึ่งชีวิต มันเริ่มจากสมัยเด็กๆ บ้านเรามีปัญหาคุณพ่อคุณแม่ล้มละลาย และติดคุก สิ่งเดียวที่เราทำได้ก็คือการตั้งใจเรียน เรียนให้เก่งที่สุด เราก็มีข้อแม้กับแม่ ซึ่งตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าแม่อยู่ที่ไหนนะ เราก็บอกเขาว่าถ้าได้ที่หนึ่งเราขอกล้องตัวนึง สุดท้ายเราก็สอบได้ที่หนึ่งจึงได้กล้อง kodak set มา ถ่ายมาเรื่อยๆ ไม่รู้ด้วยว่าชอบหรือไม่ชอบ ตอนนั้นคิดแค่ว่าถ้าเราไปเที่ยวไหนเราควรมีรูปถ่ายกลับมา ช่วง ม. ปลาย เราก็ถ่ายรูปให้กับเพื่อนๆ จนกลายเป็นตากล้องประจำแก็ง พอเข้ามหา’ลัย ก็ตัดสินใจเข้าลาดกระบัง เอกถ่ายภาพ หลังจากจบเราก็ไปเป็นช่างภาพให้กับนิตยสาร MTV Trax ทำมาตั้งแต่ปี 3 เลย ปี 4 ก็ได้ไปเป็นอาจารย์พิเศษที่เอแบคสอนโฟโต้ แต่แน่แหละชีวิตวัยรุ่นเราก็รู้สึกว่าต้องทำตัวมีปัญหาเบื่อโลก สุดท้ายก็ตัดสินใจไปเป็นช่างภาพที่ญี่ปุ่น ก็เป็นช่างภาพดนตรี คนที่เราได้ถ่ายมาตอนนั้นก็คือ Paul McCartney ซึ่งน้อยคนที่จะรู้ จากนั้นเราก็กลับมาเรียนป.โท ด้าน fineart การเรียนรู้งานด้านเพียวอาร์ตก็บ่มเพาะให้งานของผมไม่พูดเรื่องความสวยงามแล้ว กลายเป็นการบันทึกสมมติฐานของผมในงานนั้นๆ แทน”

ห้องอัดล้างฟิล์ม และร้านขายของมือสองที่เป็นของชาติฉกาจเอง

การจะทำให้  Airlab เป็นร้านล้าง-อัดภาพฟิล์มที่มีความเป็นมืออาชีพมากที่สุดก็ต้องอาศัยการลองผิดลองถูก ทดลองทำทุกสิ่งที่สามารถทำได้ในการถ่ายภาพ

“งานตัวล่าสุดที่เราทำให้กับแบรนด์รองเท้าแบรนด์หนึ่ง เราถ่ายฮิวโก้ด้วยกล้องอายุเกิน 150 ปี ที่ภาพฟิล์มจะปรากฎบนกระจก ที่เราเรียกกันว่า wet plate เป็นกรรมวิธีโบราณประมาณ 200 ปี ที่ใช้ถ่ายตั้งแต่ ร.4 ความยากคือการผสมสารเคมี เพราะเป็นเทคนิคโบราณที่เกือบจะหมดไปจากโลกแล้ว แต่สุดท้ายงานตัวนี้มันได้ใช้เป็นบิลบอร์ด เหมือนกับว่าเราได้ทลายกำแพงระหว่าง fine art และ commercial ความยากก็อยู่ที่การต้องวัดแสงให้แม่นมาก แก้ไม่ได้ ถ่ายได้ครั้งเดียว ก็เป็นอีกขั้นหนึ่งของการเป็นช่างภาพของเรา เราก็อัดภาพทำทุกอย่างเอง เราถึงจำเป็นที่จะต้องมีห้องมืดเป็นของตัวเอง Airlab มันก็มาจากคำว่า แล็บของแอ๊ะ เพราะเรากำลังจะทำเรื่องที่แล็บอื่นทำไม่ได้”

กล้องถ่ายภาพอายุกว่า 150 ปี และภาพฟิล์มกระจกฮิวโก้

ภาพฟิล์มกระจกฮิวโก้

ภาพฟิล์มกระจกเพชรา เชาวราษฎร์

การสร้างสตอร์รี่คือสิ่งสำคัญ นอกจากภาพถ่ายจะเป็นการบันทึกเรื่องราวที่สำคัญในชีวิต การให้มืออาชีพเป็นคนดูแลภาพเหล่านั้นก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อย

“เด็กๆ ก็มาใช้บริการเรื่องการล้างฟิล์มกันเยอะมาก เกินคาดเลย เหมือนเราก็มาในจังหวะที่ถูกต้อง อาจจะพูดว่าเรื่องฟิล์มมันเป็นกระแสก็ได้ ถ่ายเวดดิ้งยังใช้ฟิล์มเลย มันก็เริ่มกลายเป็น business ที่น่ารักขึ้นมา เฮ้ย! เราต้องมานั่งตอบปัญหาในแฟนเพจใช่ไหมวะ เราต้องบิ้วยอดใช่ไหม คือมันก็สนุกไปในแบบของมัน ต้องทำร้านกาแฟใช่ไหมวะ เพราะล้างรูปมันต้องใช้เวลาในการรอ เดือนนึงเราอาจจะทำ talk ครั้งนึง มันก็เลยกลายเป็น community ขึ้นมาครับ”

“ผมก็พยายามบอกน้องๆ ตลอดว่ากล้องใช้อะไรก็ได้ เพราะไม่งั้นมันก็จะมีแบบสายลึกเข้ามา อารมณ์แบบถ้าเราแต่งตัวเราไม่ใส่กางเกงตัวนี้เราจะไปออกงานไม่ได้เหรอก็ไม่ใช่ ถ้าทำแบบนั้นสุดท้ายเราก็เป็นหนี้กันไปจากความเท่ของตัวเอง ความสุขต้องไม่เหนื่อยนะเราคิดแบบนั้น”

“Airlab มันอยู่ใกล้รถไฟฟ้า เดินคุยกันมานิดเดียวก็ถึงแล้ว ผมคิดว่าหน้าหนาวที่นี่น่าจะดีมากเลยล่ะ” ชาติฉกาจพูดด้วยน้ำเสียงที่เรารู้สึกได้ถึงความสุข

ภายในบริเวณของ airlab และ Waikawee Studio 

นอกจาก Airlab จะมีห้องมืดที่สามารถเช่าล้างอัดภาพได้แล้วนั้น ยังมีสตูดิโอกลางแจ้งในชื่อ Waikawee Studio ที่เป็นกระจกรอบด้านไว้ถ่ายงาน และให้เช่าสตูดิโอถ่ายในอนาคตอีกด้วย

ภาพถ่ายจากสตูดิโอกระจกแสงธรรมชาติ

ห้องมืดระดับคุณภาพมาตรฐานสากลที่เปิดให้เข้ามาใช้บริการเช่าล้างฟิล์มและเปิดสอนล้างฟิล์ม 

ผลงานภาพถ่ายฟิล์มที่มาริโอ้เป็นคนล้างรูปด้วยตัวเอง 

เชื่อหรือยังว่าความรักในสิ่งๆ หนึ่ง สามารถพาเราไปยังจุดที่หลายคนอาจเรียกว่าประสบความสำเร็จได้จริงๆ แค่เพียงเราลงมือทำ อยากทำต้องทำให้สำเร็จ อย่ามัวแต่ฝันว่าจะมี ถ้าสุดท้ายคือการนั่งอยู่กับที่และไม่ลงมือทำอะไรเสียที หากคุณได้ลองทำตามใจตัวเอง เลิกกลัวสิ่งที่มันยังมาไม่ถึง คุณอาจเป็นหนึ่งคนที่ประสบความสำเร็จได้ไม่ต่างจากเขาคนนี้แน่นอน

AirLab BKK

บริการล้างฟิล์มทุกชนิดเเละทุกขนาดใหญ่สุดที่ขนาด 8×10 เเสกนฟิล์มไฟล์คุณภาพสูงรวมไปจนงานระดับมืออาชีพ เเสดงงานเเละโฆษณา, ห้องมืดอัดรูปให้เช่าล้าง อัดขยาย มาตรฐานสากล, สตูดิโอเเสงธรรมชาติ ยาว15เมตร กว้าง11เมตร สูง10เมตร ให้เช่า ถ่ายภาพนิ่ง mv รายการ เเละหนัง, ครอส เรียน ถ่ายภาพเเละผลิตวิดิโอ ตั้งเเต่เบสิคจนระดับทำงานจริงสายอาชีพ และรับถ่ายภาพบุคคลเเบบโบราณด้วยฟิล์ม

Facebook : https://www.facebook.com/airlabbkk/timeline

Instagram : https://instagram.com/airlabbkk/