VISIT: ART GROUND ตลาดนัดศิลปะที่อยากให้ทุกคนได้ไปสัมผัส

หากพูดถึงงานอาร์ตหลายคนก็อาจจะมองว่าเป็นเรื่องเข้าใจยาก บางคนคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัวถ้าไม่ใช่ผู้คนที่ทำงานในสายงานที่เกี่ยวข้อง ภาพในหัวเกี่ยวกับงานอาร์ตหรือเทศกาลงานเกี่ยวกับศิลปะ อาจจะต่างกัน แต่ในวันนี้ทาง
UNLOCKMEN จะขอพูดถึงงานที่เราได้ไปเข้าร่วมมาในวันศุกร์ ที่ผ่านมากับ ART GROUND ที่ จัดโดย คุณด้วง ดวงฤทธิ์บุนนาค ผู้อำนวยการบริหารพื้นที่สุดอาร์ต ‘เดอะแจมแฟคตอรี่’ (The Jam Factory) ร่วมด้วย คุณนนทวัฒน์ เจริญชาศรี ครีเอทีฟ ไดเร็คเตอร์ และ คุณสิริมา ไชยปรีชาวิทย์ หรือ ผ้าป่าน บรรณาธิการบริหารนิตยสาร ‘เดอะ แจม แฟคทอรี่’ (The Jam Factory)

ถ้าพูด The Jam Factory พื้นที่ของคนรักศิลปะ ด้วยพื้นที่สวยงาม ที่มีบรรยากาศริมแม่น้ำ โดยพอเราไปถึง คุณดวงฤทธิ์ บุนนาคก็กล่าวถึงจุดประสงค์ของการจัดงานในครั้งนี้ว่าอยากให้มันเกิดคอมมูนิตี้สร้างสรรค์งานศิลปะของคนรุ่นใหม่ ที่ได้มาดูงานศิลปะในทุกแขนง ได้การมีการพบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนกันโดยตรงระหว่างคนที่ชอบงานศิลปะกับศิลปิน ไม่ว่าจะเป็นศิลปินรุ่นเก่าหรือรุ่นใหม่ โดยบรรยากาศเหมือนตลาดนัดศิลปะสบายๆ

“ผมมองว่าสังคมเมืองตอนนี้ด้วยความเร่งรีบ เหนื่อยล้า ทำให้เรามองข้ามงานศิลปะไป จริงๆ แล้วศิลปะเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะบอกว่าตัวเราเป็นใคร เป็นจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง ‘อาร์ตกราวด์’ (ART GROUND) เป็นความตั้งใจ จากการที่ผมได้เห็นอาร์ต แฟร์ มาทั่วโลก ผมชอบรูปแบบงานที่สามารถซื้อขายงานศิลปะกันได้ในราคาไม่แพงมาก คนเสพงานศิลป์ก็ได้งานที่ดีในราคาย่อมเยา ศิลปินหน้าใหม่ก็มีกำลังใจที่จะสร้างผลงาน เมื่อขายงานได้ เขาก็อยู่ได้ด้วยศิลปะที่เขาทำ ไม่ว่าจะคุณจะเป็นใคร เป็นนักดนตรี เป็นคนเขียนภาพ  ผมเชื่อว่าถ้าทุกคนมีศิลปะในชีวิตประจำวัน สังคมก็ จะดีขึ้น เพราะศิลปะมีผลกับความคิดการแสดงออกที่ดี ฟังดูอาจไม่น่าเชื่อแต่สองอย่างนี้เป็นเรื่องเดียวกันได้”    ผู้อำนวยการบริหารพื้นที่อาร์ตกราวด์ กล่าว

ART GROUND เป็นการเปิดพื้นที่ให้ศิลปินรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ได้มามีพื้นที่แสดงผลงานกัน โดยในงาน ART GROUND ก็ได้แบ่งเป็นอีก 5 โซนด้วย คือ ART NOW คือทางบริเวณด้านหน้าเลยที่ได้นำเอาศิลปินที่มีชื่อเสียงในด้านต่างๆ 14 ศิลปิน มารวมกัน ได้แก่ โลเล-ทวีศักดิ์ ศรีทองดี, โน้ต-กฤษดา ภควัตสุนทร, ปอม ชาน-ธัชมาพรรณ จันทร์จำรัสแสง, รักกิจ ควรหาเวช, เล็ก เกียรติศิริขจร, มะลิ จุลเกียรติ, เตย-สุทธิภา คำแย้ม, จี๊ป-ภาสินี คงเดชะกุล, ตั้ม-วิศุทธิ์ พรนิมิตร, กนิษฐรินทร์ ไทยแหลมทอง, กนกนุช ศิลปวิศวกุล, จิรายุ คูอมรพัฒนะ, ตุลยา ตุลย์วัฒนจิต และ มานิตา ส่งเสริม

ต่อมาก็จะเป็น ART FOUND ด้วยรูปแบบเป็นโปร่งสบายของของงานคล้ายๆ ตัวยูสองชั้นที่อัดแน่นไปด้วย ศิลปินหน้าใหม่ จากที่ต่างๆ มารวมกัน มีศิลปะมากมายหลายแขนงมาก เรียกได้ว่า พิมพ์ เพ้นท์ ปั้น ภาพถ่าย อะไรมีหมด ตรงกลางมีเบาะให้นั่งกันชิวๆ ด้วยเรียกได้ว่าหลังจากการทำงานที่เหน็ดเหนื่อยได้มาเดินพักผ่อนดูงานศิลปะ พูดคุยกับศิลปิน เดินเลือกซื้องานศิลปะ กับบรรยากาศแบบนี้เรียกได้ว่าหายเหนื่อยเลยจริงๆ

ใครบอกจะเป็นงานแสดงงานศิลปะอย่างเดียวงานนี้เขามีสอนกันด้วยกับ ART HOW ที่ได้มีการเปิดสอนกันในงานด้วยเห็นว่าเขามีการเวิร์คช็อปกระบวนการถ่ายภาพด้วยแสงธรรมชาติด้วยแต่น่าเสียดายที่ทางเราไม่ได้ไปในวันนั้น แต่ในวันสุดท้ายที่เราได้ไปเที่ยวชมงานอีกวันก็ได้พบกับ The Archivist สตูดิโอที่ทำงานทางด้านงานภาพพิมพ์ silkscreen ที่มาให้ได้ทดลองพิมพ์กันเลยแบบสดๆ ได้ด้วยตัวเอง นอกจากได้ความรู้แล้วยังได้ผลงานกลับบ้านด้วย

นอกจากเต็มอิ่มกับงานศิลปะแล้วในงานยังมี ART SOUND ที่มาสร้างความสุขด้วยเสียงดนตรีอีกด้วย เวทีใต้ต้นไม้ใหญ่ตรองลานโล่ง กับศิลปินมากมาย ที่พร้อมขึ้นเวทีช่วงเย็นตลอดทั้ง 3 วัน ไม่ว่าจะเป็น จินตะ มูฟวิ่ง แอนด์ คัท ยูธ บรัช  เล็ก สุรชัย กิจเกษมสิน และอีกมากมาย ส่วนใครหิวก็บอกเลยมี FOOD TOWN ร้านค้ามากมาย ใครชอบสไตล์ Food Truck ก็มีเรียกได้งานนี้ครบครัน

ภาพบรรยากาศงานโดยรวมดีมากเลย ได้ดื่มด่ำกับงานศิลปะเต็มอิ่ม  ได้มีเจอศิลปินมากมายอีกมีข้อสงสัยอะไรในตัวงานก็ถามได้เลยเต็มที่ ถ้าเป็นคนที่ทำงานศิลปะหรืองานสร้างสรรค์ ผมว่าน่าจะได้แรงบันดาลใจดีๆ กลับไปไม่ใช่น้อย
เราจะได้เห็นคนรุ่นใหม่ๆ มาดูงานศิลปะ บางคนมาเป็นครอบครัวเลยก็มี พ่อแม่พาลูกๆ มาดูงานศิลปะ มันเป็นภาพที่สวยงาม นี่เลยเหมือนไม่ใช่แค่งานแสดงศิลปะ มันกลายเป็นชุมชนสร้างสรรค์ขนาดใหญ่ ที่ถึงแม้มันจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ส่วนผมก็คิดว่ามันน่าจะเป็นช่วงเวลาดีๆ สำหรับทุกคน

ก่อนกลับเราก็ได้ถามความรู้สึกถึงงานนี้กับพี่โลเล ทวีศักดิ์ ศรีทองดี ที่ขนเอาสมุดสเก็ตงานส่วนตัวมาให้ได้ลองเปิดดูนั่งพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน

“รู้สึกสนุกโดยส่วนตัวนะครับ ผมเองก็ได้เจอน้องๆ ที่ได้ทำงานในด้านนี้หลายๆ สไตล์ครับ มีทั้งกราฟฟิคดีไซน์ นักออกแบบ ไทโปกราฟี คือทุกแบบเลย มีทั้งดนตรีด้วย เราก็จะนึกถึงงาน mainstream  พวกแบบที่เรารู้จักชื่อเลย แต่งานนี้บางงานผมก็ไม่รู้จักชื่อ บางอันก็เริ่มคุ้นงาน  ปกติผมก็ชอบดูงานเด็กๆ อยู่แล้ว ผมว่าน้องๆ หลายคนก็จะกลายเป็นอีกรุ่นหนึ่งที่ขึ้นมาเป็นรุ่นใหม่ ค่อนข้างชัดเจนมาก “

มาถึงนักออกแบบสาว มานิตา ส่งเสริม กันบ้าง งานแรกที่ทำให้รู้กันสำหรับผมก็น่าจะเป็นหน้าปกหนังสือ SUM ด้วยงานที่โดดเด่น ด้วยตอนนี้เธอกำลังชอบงาน typewriter art ทางเราก็ได้เข้าไปพูดคุยกับเธอถึงความรู้สึกเกี่ยวกับงานครั้งนี้ในฐานะศิลปินรุ่นใหม่ เธอเล่าว่า
“จริงๆ แล้วเราเป็นกราฟิกดีไซน์เนอร์มากกว่า ส่วนใหญ่คนก็ยังมองว่างานออกแบบมันเป็นคนละเรื่องกับงานศิลปะ พอมีงานแบบนี้ คนก็ได้เข้ามาถามแบบ คิดอะไรทำไมถึงเรียงตัวอักษรแบบนี้  เพราะว่าจริงๆ ส่วนตัวไม่ได้แสดงอะไรอย่างนี้บ่อย คือเราก็เป็นคนไม่ค่อยได้พูดเก่ง พออย่างนี้มันเหมือนพอมีคนที่ชอบงานของเรา เขาก็เขามาคุยเข้ามาถามเลย ใกล้กันมากขึ้นมากๆ ถามแบบละเอียดเลยก็มี บางคนแบบมาบอกว่าปลื้มงานซึ่งเราก็รู้สึกดีค่ะ”

และคนสุดท้ายที่เราได้พูดคุยด้วยคือ ผ้าป่าน สิริมา ไชยปรีชาวิทย์ เกี่ยวกับการจัดงานในครั้งนี้คือมันไม่ใช่แค่การขายงานศิลปะ ที่ประสบความสำเร็จคือการที่ศิลปินขายงานได้ แต่มันคือการที่ทุกคนแฮปปี้ ทุกคนยิ้ม และเกิดเป็นคอมมูนิตี้ร่วมกันมากกว่า เพราะไม่ว่าจะโซนไหน มันคือการรวมกลุ่มของคนรักศิลปะด้วยกันทั้งหมด คือทุกคนสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับศิลปินชอบได้ มีการแลก contact กัน คนนี้เป็นเพื่อนกับคนนี้แนะนำให้รู้จักกันแบบนี้ ศิลปินบางคนแลกงานกัน เธอคิดว่าอันนั้นมันน่ารักที่สุดแล้ว เธอบอกว่าถึงแม้วันแรกยังจะยังมีนๆ วุ่นๆ ในการเตรียมงาน แต่พอมาในวันที่ 2 ผ่านไป ทำให้เข้าใขคำว่าหายเหนื่อยเป็นปลิดพริ้ว คือมันแบบทุกคนยิ้ม ทุกคนหัวเราะแล้ว ได้ตรงนั้นเต็มมาก ได้พลังกลับคืนมาเยอะมาก

ไม่ต้องกลัวครับสำหรับคนที่น่าเสียได้พลาดงานในครั้งนี้ ผ้าป่าน บอกเราว่ามีอีกแน่นอน การพักผ่อนอาจจะมีหลายอย่างแต่สำหรับผมคิดว่าการมางานที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มความอบอุ่นแบบนี้ ก็น่าจะเป็นการพักผ่อนในอีกรูปแบบหนึ่งและยิ่งได้เจอศิลปินกับผลงานศิลปะมากมาย ทำให้เราได้เรียนรู้อะไรมากขึ้นเกิดเป็นคอมมูนิตี้ที่ดี สำหรับใครที่อาจจะมองว่าศิลปะเป็นเรื่องไกลตัว อยากลองมาสัมผัสกับตัวเองมากๆ จริงๆ แล้วศิลปะนั้นเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของทุกคนก็ได้เพียงแต่เราไม่ได้สังเกตมันก็เท่านั้น สามารถติดตามข่าวได้จาก TheJamFactoryBangkok ครับ