DESIGN

#ArtistRoom : FATMIKE ห้องทำงานอันเงียบสงัด เพื่อสะบัดจิตวิญญาณ Punk Rock ของเด็กหนุ่ม

By: GEESUCH February 20, 2023

ทุกคนเคยเป็นกันมั้ย ? อินกับเพลงของโปรดิวเซอร์คนนึงมาก ๆ ชอบงานศิลปะของ Illustrator คนนั้นจัง หรือตกหลุมรักศิลปินสักคนอย่างถอนตัวไม่ขึ้น ถึงขนาดอยากรู้ ! อยากรู้ว่าห้องทำงานของเขามันหน้าตาเป็นแบบไหน ห้องอันเป็นขุมพลังที่ก่อเกิดเป็นกระบวนการคิดในการสรรค์สร้างงานสุดสร้างสรรค์นั้นคืออะไรกันแน่นะ  

Artist Room คือคอลัมน์สุดเอาแต่ใจสำหรับแฟนคลับทุกคนในบรรทัดก่อน ที่ UNLOCKMEN ชวนศิลปินในแต่ละสาขาที่น่าสนใจ ขอให้เขาเปิดประตูห้องแห่งแรงบันดาลใจของตัวเอง ให้เราเข้าไปคุยกันถึงกระบวนการในการคิด ลงมือ แก้ไข และจบงานให้ฟัง เพื่อให้ชาว UNLOCKMEN ทุกคน (รวมถึงเราคนเขียนเอง) สามารถ UNLOCK ทุกกำแพงที่ชื่อว่า ‘การตันทางไอเดีย’ พร้อมมีพลังในการสร้างสรรค์งานอย่างแข็งขันต่อไปในทุก ๆ วัน    

แฟลตสีครีมในย่านศาลายา ถูกรายล้อมไปด้วยเสียงจอแจของเหล่าเด็ก ๆ ในสนามบาส-พื้นที่ส่วนกลางที่ทุกคนคุ้นตากันดี ถัดจากนั้นไปนิดหน่อย มีแว่วเสียงเพลงจีนรำมวยไทยเก๊กหรือแอโรบิค ซึ่งเราไม่แน่ใจนักว่าเป็นอย่างไหนของกลุ่มอากงอาม่า ซึ่งอยู่ตรงหน้าของน้ายามที่กำลังรอให้กะของตัวเองหมดลงไปพร้อมกับมาม่าในถ้วยพอดี … ในห้องหนึ่งของตึกที่ว่านี้ ชายหนุ่มอายุ 30 ต้น ๆ กำลังวาดความฝันของตัวเอง ผ่านภาพวาดในทางตรงกันข้ามกับการมีชีวิตอยู่อย่าง ‘หัวกะโหลก’ และนั่นคือ Artist Room ห้องแรก ของศิลปินที่ชื่อว่า FATMIKE บิว-ศุภฤกษ์ แซ่โง้ว (จากนี้เราจะขอเรียกเขาด้วยชื่อ AKA. ศิลปินเพื่อความกระชับ) ห้องทำงานที่ศิลปะถูกขับเคลื่อนจากเสียงเพลงซึ่งดังก้องในห้องทุกคืน   

บิว-ศุภฤกษ์ แซ่โง้ว (FATMIKE)

* เนื่องจากว่าเราเคยคุยกับ FATMIKE อย่างละเอียดแล้วในโปรเจกต์ UNLOCKMEN X ARTIST (กดอ่านได้เลย) จึงจะไม่ขอเกริ่นความเป็นมาของเขาให้ยืดยาว แต่จะขออาศัยจังหวะนี้เข้าเรื่องที่เราอยากรู้ที่สุดเกี่ยวกับเขา และเป็นหัวใจของคอลัมน์นี้อย่างกระบวนการทำงานของ FATMIKE กันเลย *


อ๊ะ ๆ ก่อนไปดูห้องแห่งแรงบันดาลใจของศิลปินที่เราเกริ่นเอาไว้เสียยืดยาว UNLOCKMEN ขอเพิ่มความสนุกให้กับการ Debut คอลัมน์ Artist Room ด้วยการทำ Art Challenge ให้ FATMIKE ทำงานศิลปะ 1 ชิ้นภายในเวลาจำกัดที่ 1 ชั่วโมง ตามโจทย์ข้างล่างที่ถูกคิดขึ้นจากคาแรคเตอร์ดีไซน์ของเขา แล้วเดี๋ยวมาดูกันว่าในอีก 1 ชั่วโมงต่อจากนี้จะเป็นยังไง 

“ถ้าอีก 1 ชั่วโมงคุณกำลังจะตาย ศิลปะชิ้นสุดท้ายของ FATMIKE บนโลกนี้จะมีหน้าตาแบบไหน ?”


Section 1 : เปิดห้องทำงาน 

ULM : ห้องทำงานในอุดมคติของ FATMIKE ต้องมีหน้าตาแบบไหน 

FATMIKE : ต้องมีทุกอย่างที่เกี่ยวกับเพลง เกี่ยวกับดนตรีที่เราชอบอยู่รอบ ๆ CD / Artwork / โปสเตอร์ มันจรรโลงใจและรู้สึกดีมากเลยนะ เปิดเพลงฟังไปด้วย ดู Artwork ข้างในไปด้วย “แผ่นวงอะไร ผลิตปีไหน” แล้วก็คิดงานไปด้วย สิ่งเหล่านี้มันช่วยในการทำงาน มันช่วยสร้าง mood รู้สึกว่าเราอยากอยู่ในที่แค่นี้แหละ ที่ที่มีแต่ของพวกนี้ ของแต่งบ้านไม่จำเป็นเลย ขอแค่ทุกอย่างมันมี Story คุณค่ามันอยู่ที่คนชอบ อยู่ที่เรื่องราว

ULM : ใช้ ‘ห้อง’ ในการคิดงานและลงมือทำงานในที่เดียวกันเลยรึเปล่า

FATMIKE : เราเป็นคนคิดงานได้ตลอดทุกที่เลย ยกตัวอย่างนะ เดินเจอป้ายหมูกระทะก็คิดได้แล้ว ถ้าเป็น FATMIKE ย่างคีบเนื้อคนอยู่ก็เท่ดีนะ คิดเสร็จก็เอามาทำต่อที่ห้องนี้

ULM : ถ้างั้นพูดถึงในห้องบ้าง มีมุมโปรดสำหรับใช้ในการคิดไอเดียมั้ย 

FATMIKE : ที่โต๊ะทำงานแหละครับ นั่งแล้วมันจะรู้สึกถึงความจริงจังปน ๆ อยู่ บวกกับมันมีอาร์ตเวิร์คของเรา ที่กอง ๆ อยู่ด้วย ช่วยส่งผลให้ได้ไอเดียกระฉูดแบบไม่รู้ตัว

อาร์ทเวิร์คของวง SELF STRENGTH ที่ออกแบบโดย FATMIKE

FATMIKE Artwork

สติกเกอร์ FATMIKE Artwork

ULM : แล้วเป็นคนชอบทำงานที่ไหนมากกว่ากัน ในห้องตัวเองหรือว่าข้างนอก

FATMIKE : ถ้าความชอบจริง ๆ ชอบทำที่ห้องดีกว่า มันจะมีความเงียบ มี space ของเรา แล้วสมาธิมันจะเกิด งานก็จะออกมาดี เนี้ยบ แต่ถ้าเป็นงานเผาทำที่ไหนก็ได้ 555 เป็นเรื่องจริงนะ ที่บ้าน บนรถ ได้หมด แต่ถ้าเป็นงานที่อยากวาดมาก ๆ ก็ต้องเป็นที่นี่เท่านั้น ต้องเงียบ ต้องสมาธิ แล้วงานที่ออกมาก็จะ อื้มม นี่แหละ !

ULM : สภาพแวดล้อม / สภาพสังคมที่อยู่รอบห้องทำงานปัจจุบันมีผลต่อการสร้างงานของ FATMIKE ขนาดไหน 

FATMIKE : มีผลนะ เพราะมันเป็นสภาพแวดล้อมที่เรียลมาก ค่อยข้างดิบและตรงไปตรงมา ซึ่งค่อนข้างตรงกับสิ่งที่ FATMIKE พยามจะนำเสนอตลอด นั่นคือ “ชีวิตที่ไม่จำเป็นต้องเพอร์เฟค”


Section 2 : กระบวนการทำงาน 

ULM : FATMIKE เป็น Illustrator ประเภททำงาน ‘กลางวัน’ หรือ ‘กลางคืน’  

FATMIKE : ยิ่งมืดยิ่งเงียบยิ่งดี ส่วนเราจะเปิดเพลงอะไรก็ไม่เกี่ยวแล้ว เพราะโฟกัสมันดีที่สุดแล้วในตอนกลางคืน บางทีก็ทำตอนตี 4-5 แล้วค่อยนอน จริง ๆ ตอนกลางวันก็ทำงานได้นะ แต่ flow อาจจะตะกุกตะกักกว่าหน่อย ถ้ากลางคืนจะไหลเลย ยิ่งมีเบียร์สักแก้วนะ ชิลจัด 

ULM : ทีนี้อยากรู้ Process ในการทำงานหน่อย ตั้งแต่เริ่มคิดไปจนจบงานเลย แต่เข้าใจว่า FATMIKE รับงานคอลแลบดีไซน์ให้แบรนด์ต่าง ๆ ด้วย นั้นช่วยเล่างานฝั่งลูกค้าให้เราฟังก่อน 

FATMIKE : สำหรับฝั่งลูกค้า สมมติได้โจทย์มา มี activity อะไรประมาณไหน ผมก็จะเอาไปคิดก่อนว่ามันควรมีกี่ตัวละครและกี่คาแรคเตอร์ในงานนั้น ก็จะร่างขึ้นมาก่อนแล้วค่อยส่งกลับไปให้เขาดู สมมติร่างให้มี 2 คนคุยกันประมาณนี้ หรืออยากให้แน่นเต็มเฟรม อยากให้มีอะไรเพิ่มไหม background หรืออยากให้มีแค่คาแรคเตอร์เดียวเลย

ULM : มีเคล็ดลับส่วนตัวอะไรในการจัดการกับ Deadline ให้ทันส่งลูกค้ามั้ย  

FATMIKE : ตัดการขอเลื่อนเดดไลน์ออกไปก่อนเลย เราจะไม่ขอเลื่อน อย่างไรมันก็ต้องเสร็จน่ะ คิดไอเดียก่อนเลยวันนั้นสมมติเหลือวันเดียว คิดตอนกลางวัน ทำตอนกลางคืน ถ้าคิดไม่ออกก็พักได้แต่แค่แปบเดียว พักแค่ตอนเมื่อย แต่ถ้างานส่วนตัวเรา คิดไม่ออกก็ไปพัก ซึ่งแตกต่างจากงานลูกค้าที่หากมันผ่าน concept แรกมันก็ไม่มีอะไรให้คิดแล้ว แต่ถ้าตันจริง ๆ ส่วนมากก็จะนอนก่อนนะ (แต่ก็ได้ไม่นาน) พอตื่นขึ้นมาสมองมันจะ fresh เหมือนสมองได้ reset ขึ้นมานิดหนึ่ง ฝืนหาเรฟอย่างไรมันก็ไม่เวิร์คถ้ามันตันจริง ๆ

ULM : นั้นช่วยเล่า Process ในการทำงานส่วนตัวต่อเลย

FATMIKE : เริ่มจากตั้งคำถามว่า “ในตอนนั้นเรามีอะไรที่อยากทำหรือเปล่า?” เช่น ช่วงนี้อยากเล่นสเก็ตบอร์ด ก็เอาเรื่องสเก็ตบอร์ดเข้ามาอยู่ใน FATMIKE ถ้าอินเรื่องข่าวอยู่ ก็จะเป็นอีก mood หนึ่งไป แล้วถ้ามันไม่มีอะไรจะเขียนจริง ๆ ก็จะแปลงภาพจากชีวิตประจำวันของเราเนี่ยแหละมาเป็นผลงาน เช่น เราอาบน้ำ ก็วาดเป็น FATMIKE อาบน้ำร้อนในนรก มันเหมือนเราอยากเห็น FATMIKE ใช้ชีวิตประจำวันของตัวเองด้วยเหมือนกัน 

ULM : ก็คือเจออะไรในชีวิตประจำวันก็แปลงให้ไปอยู่ในโลกของ FATMIKE เลย

FATMIKE : ก่อนจะแปลงไปในโลกของ FATMIKE ก็ต้องรีเสิร์ชก่อน หาเรฟก่อน สมมติอยากให้มันอาบน้ำ อยากให้มันอาบท่าไหน อาบอย่างไร อาบฝักบัวไหม หรือถ้าอยากให้มันอยู่ในนรกก็ให้อาบในกระทะทองแดงไหม จากนั้นก็หาเรฟแล้วตบไอเดียให้เข้าที่แล้วเปิดคอมลุยเลย ส่วนวิธีการเวลาหาเรฟจะหาเป็นท่าทางของ skeleton ว่ามันประมาณไหน เพราะเราไม่ได้เรียน anatomy เราไม่ได้รู้เรื่องอะไร ก็ไว้ดูว่าถ้านอนนั่งจะมีท่าทางประมาณไหน ทำให้ต้องเปิดเรฟบ่อยมาก

ULM : อันนี้อยากรู้มานานละ นอกจากโครงกระดูกมนุษย์แล้ว มีสนใจอยากวาดโครงกระดูกอื่น ๆ บ้างมั้ย

FATMIKE : ผมเคยวาดไปรูปหนึ่งเป็นนกที่เป็นโครงกระดูก ชื่อ ‘Work From Hell’ เป็นกระดูกอีแร้ง เรฟก็ต้อง เสิร์ช anatomy ของสัตว์ แต่ก็มีเดาบ้าง ไม่ใช่ว่าจะต้องเป๊ะกระดูกคอสามท่อนขนาดนั้น ก็ตัดทอนไป แต่ก็ไม่อยากผิดสเกลมากเกินไปนะ ไม่อย่างนั้นถ้าเกิดรูปมันไปถึงกรมอนุรักษ์สัตว์หรืออะไรอย่างนี้ เขาจะบอกว่าแปลก ๆ ไหม เพนกวินหรือนก นี่คิดจริงจังนะ คือเราให้เกียรตินก ให้เกียรติกับสิ่งที่เราวาด อยากให้อยู่ในท่าที่สง่าที่สุด ไม่อยากให้ดูติ๊งต๊องเกิน มันดูไม่ให้เกียรติเท่าไร

ULM : แล้วโครงกระดูกคนเอามาจากคนตายจริง ๆ เลยไหม

FATMIKE : ถ้าคนตายจริงก็เกรงใจนะ

ULM : ขอทริคในการจัดการกับ Deadline ในการทำงานส่วนตัวหน่อย ดูจะเป็นอะไรที่ควบคุมยากกว่างานลูกค้าที่เดดไลน์ชัดเจนมาก ๆ  

FATMIKE : ถ้าเป็นงานตัวเองแล้วไอเดียตันก็จะพักเลย ไปฟังเพลง ไปเล่นเกม แต่มันจะไม่ร้อนรนเท่าไหร่เพราะเป็นงานตัวเอง เราอยากให้เป็นสิ่งที่ดีที่สุดก่อน แต่จริง ๆ งานลูกค้าก็ทำให้เป็นสิ่งที่ดีที่สุดนะ ในช่วงเวลาที่จำกัดนั้นน่ะ แต่ถ้างานของเรา เราลองวาด ลองทำใหม่ได้ ลบใหม่ได้ มีเวลารีเซ็ตมันได้ตลอดเวลา ทิ้งได้นานกว่า พักได้นานกว่า แต่ก็จะตั้งเป้าอยากให้อาทิตย์หนึ่งมีหนึ่งงานถึงสองงาน

งานตัวหนึ่งจะใช้เวลาวันสองวันต้องจบได้ จะนานตรงไอเดียเฉย ๆ บางทีก็ 3 วันรวมคิด อาจจะคิด 2 วัน แล้ววันที่ 3 ถึงจะลงมือทำจริง แล้วก็อาจจะมีพักสักวันหนึ่งแล้วเก็บไอเดียไป แต่ถ้าไอเดียมาก่อนก็วาดได้ก่อน ถ้าไม่มาก็ไม่เป็นไร รอได้ วิธีการจัดการเดดไลน์เหรอ คือส่วนมากจะเป็นคนร้อนใจเองถ้าทำไม่เสร็จ อยากให้มันจบ คืนนี้ต้องจบ จบก่อนไม่สวยไม่เป็นไร ไม่สวยก็ทิ้ง แต่ต้องเสร็จ

ULM : ส่วนใหญ่งานที่ทิ้งจะเกิดขึ้นจากเหตุผลอะไร ไม่ถูกใจอะไร 

FATMIKE : น่าจะเป็นที่อารมณ์ของงานมันไม่ได้ แต่เอาจริง ๆ ถ้ามันขาดไปสักอย่าง เช่น ท่าทางของกระดูกขาดไปมันก็ไม่ได้แล้ว จุดเด่นมันไปแล้ว อย่างอื่นก็ไม่ต้องพูดถึง เละ ทำใหม่ดีกว่า

อย่างงานล่าสุด ถ้าดูในไอจีผม มันจะมีงานที่ผมอัปแล้วก็หายไป เพราะว่าผมลบ เป็นรูป FATMIKE อยู่ในคุกแล้วชูกุญแจขึ้นมา แล้วจริง ๆ งานนี่ทำสีด้วยนะไม่ใช่มีแค่ขาวดำอย่างที่ผ่านมา อันนี้มาจากการที่ผมลองเส้นวิธีการใหม่ เป็นเส้นที่วาดโดย AI ซึ่งมันจะเป็นเส้นที่คนทำคาแรคเตอร์ทำแบบนี้เยอะนะ แบบเส้นเนี้ยบ ๆ ใส่เงา ใส่สี พอดูแล้วมันไม่ใช่เราเลย มันสวยนะ ความรู้สึกผมก็ชอบด้วยนะ แต่เรารู้สึกว่าใครวาดก็ได้รูปนี้ แค่มีหน้าของโครงกระดูกใครก็วาดได้แล้ว สีอย่างนี้ใครก็ทำได้ นี่คือที่ผมคิดส่วนตัว ก็เลยคิดว่ามันไม่ใช่ ก็ลบทิ้งเลย ไม่จัดเก็บด้วย 

งานที่ถูกลบทิ้งของ FATMIKE #1

งานที่ถูกลบทิ้งของ FATMIKE #2

ULM : แล้วงานของ FATMIKE ที่จะผ่านและไม่ถูกทิ้งแน่นอนล่ะ จะเป็นงานแบบไหน ? 

FATMIKE : มันต้องดิบ ต้องไม่เป๊ะ ต้องเละกว่านี้ จริง ๆ วิธีคิดของรูปเมื่อกี้ถือว่าได้อยู่นะ ถ้าเปลี่ยนเป็นมีแค่สีขาวดำ เส้นเละเทะ ไม่ตรงไม่มีอะไรเป๊ะเลยก็น่าจะใช้ได้ FATMIKE มัน Punk มันต้อง Punk ต้องสุด Punk มันต้องกระแทก ต้องเละ เส้นไม่ต่อกันก็ไม่ต้องต่อ เส้นไม่ตรงก็ไม่ต้องตรง ระบายสีหลุดออกมาก็หลุดสิ นี่คือ FATMIKE แล้วพอมันหลุดจากความรู้สึกแบบนั้นไป มันเลยดูขัด แต่ เคยมีหยวน ๆ เหมือนกันนะ ใช้สีแดงดำขาว เขียวดำขาว ผมว่ายังได้อยู่ แต่ถ้าขาวดำก็คือ Pure Punk ของ FATMIKE เลย

ULM : แสดงว่าจริง ๆ ใช้สีก็ยังเป็นงานของ FATMIKE ได้อยู่ แล้วต้องเป็นสีแบบไหน

FATMIKE : ผมคิดว่าสีมันต้องออกไปทางโทนร้อน แดง ส้ม เหลือง ที่มันอาจจะช่วยเติมงานให้ดูเดือด ดูร้อนขึ้นมาได้


Section 3 : Playlist Of Work By FATMIKE

ULM : ตอนทำงานฟังเพลงแบบไหน มี Playlist สำหรับใช้ฟังในตอนทำงานรึเปล่า 

FATMIKE : ฟังครับ Playlist ทำงานของผมต้องมีแบบที่อารมณ์เป็น Punk Rock แบบสับ ๆ beat ไว ๆ ฟังแล้วโยก ๆ เลยสักลิสต์หนึ่ง แล้วก็จะมีที่เป็นแบบ flow สบาย ๆ อีกสักลิสต์หนึ่ง

วิธีการใช้ฟังก็จะแบ่งกันตามนี้ ที่เป็น Punk Rock ก็ต้องใช้บิลด์อารมณ์กับงานที่ต้องการความมันส์ ต้องไฟลุก เป็นวงต่างประเทศได้หมดเลย หรือถ้าวงไทยก็จะประมาณ The Yers ก็ได้ อย่าง Side Project ของ พี่ ‘อู๋ ยศทร’ Torrayot นี่ ชอบมาก เมทัล หนัก ๆ ว้ากมาเลยก็ไม่ติด

แต่ถ้าเป็นความตายหรืองานที่ถามหาความเศร้า ความหม่น ก็จะใช้อีกลิสต์หนึ่ง เป็นเพลงแบบวง Cigarette After Sex หรืออย่างวง Zweed n’ Roll มันก็ดิ่งอยู่นะ 

โปสเตอร์ของวง Neckdeep วง Pop Punk ชื่อดังจากอังกฤษ

โปสเตอร์ของวง Torrayot / เป็น Side Project ของ ‘อู๋ ยศทร’ นักร้องนำของวง The Yers

ULM : ย้อนกลับไปคำพูดที่ว่า “ชอบทำงานในห้องเราเอง เป็น Space เงียบ ๆ” แล้วเปิดเพลงทำงานไม่ขัดสมาธิเหรอ 

FATMIKE : อย่างที่บอกไปว่าเปิดเพลงอะไรก็ไม่เกี่ยวแล้ว ผมฟังจนมันเหมือน The Ghost ไปแล้ว คือมันไหล ไม่รู้สึกมันรุนแรงอะไรแล้ว ฟังให้แค่รู้สึกดี


Section 4 : ในวันที่แพชชั่นอ่อนแรงลง

ULM : ถ้าวันนึงเกิดหมด Passion ในการทำศิลปะขึ้นมาเราจะจัดการตัวเองยังไง

FATMIKE : ก็ต้องกลับมาที่ mindset ตัวเองล้วน ๆ เลย ต้องมานั่งคิดก่อนว่าทำแล้วมันได้อะไรไหม รู้สึกดีอยู่ไหม ถ้ารู้สึกดีแต่หมดไฟก็ค่อย ๆ ทำไปไม่ต้องเร่ง ไม่ต้องรีบร้อนอะไร ไม่ต้องพยายามทำให้ใครรู้สึกดีกับงานเราแล้วก็ได้ ต้องเปลี่ยน mindset ว่าทำเพื่อแค่เยียวยาตัวเราน่าจะดีขึ้น

ULM : แล้วเคยเจอวันที่หมด Passion กับ FATMIKE มั้ย

FATMIKE : ถ้า FATMIKE ยังนะ ส่วนมากจะมีแค่เมื่อย ไม่มีที่อยากเลิก ไม่เคยเหนื่อยใจเลย เหนื่อยร่างกายอย่างเดียวล้วน ๆ ถ้าเหนื่อยจนทำไม่ไหวก็ปล่อยไปสัก 2-3 วันก่อน เดี๋ยวก็กลับมาทำเองโดยออโต้อยู่ดี เพราะว่าตอนนี้เราก็อยากส่งต่องานของเราให้ไปกระแทกคนอื่น ให้คนอื่นมี react ที่สนุก 

แต่ถ้าถึงวันนั้นจริง ก็อาจจะทำแบบที่บอกไปในบรรทัดก่อน ทำเพื่อเยียวยาแค่ตัวเอง ทำให้ตัวเองพอ ก็อาจจะง่ายขึ้นในการทำงาน เพราะตอนนี้เราคิดเพื่อตัวเองประมาณ 70% คิดเพื่อคนอื่นประมาณ 30% อยู่ ถ้าไม่คิดถึงคนอื่นเลยงานน่าจะดิบมาก ๆ ถ้าตามใจตัวเองคงทำแบบอาร์ตจัด ๆ เดธเมทัลให้สุดไปเลย ไม่ต้องสื่อสารอะไรแล้ว อยากเห็นภาพที่รุนแรงก็ทำออกมาแค่นั้น แต่ตอนนี้ยังอยากให้เด็ก ผู้ใหญ่ หรือใครก็ตามที่เห็นแล้วรู้สึกดีก่อน


ก่อนคำถามสุดท้ายจะถูกปล่อยออกไปในบรรทัดก่อนหน้านี้ FATMIKE ก็เอาชนะชาเลนจ์ที่ UNLOCKMEN วางไว้ให้ตอนต้นทันเวลาและสำเร็จพอดี เย้ ! และเราก็ต้องขอออกตัวอย่างแรงเลยว่า งานชิ้นนี้ทำให้เรายิ่งสนใจในตัวของศิลปินคนนี้มากขึ้นไปอีก พร้อมกับสงสัยถึงอนาคตอันไกลหรือใกล้ว่าเขาจะพาโครงกระดูกเพื่อนซี้ของตัวเองไต่จากนรกขึ้นไปได้ไกลขนาดไหนกันนะ  

‘BYE’ Artwork By FATMIKE (2023)

“ให้ชื่อภาพนี้ว่า BYE มันคือการที่ FATMIKE บอกลาเราที่เป็นผู้วาด ซึ่งร่วมทุกข์ ร่วมสุขมาโดยตลอด รวมถึงทุก ๆ คนที่ซัพพอร์ตเพื่อกลับนรก ซึ่งจริง ๆ FATMIKE มันไปแล้วนะ ที่เป็นท่านี้ในรูป เพราะมันอยากกลับมาบอกลาทุกคนก่อนไป ประมาณว่า เอ้ยลืมว่ะ ! ต้องบอกลาก่อน แต่ไม่ต้องเศร้านะ เดี๋ยวเจอกันใหม่ในนรก”

“แต่เรามองว่าการตายของ FATMIKE ไม่ใช่จุดจบ เดี๋ยวมันชดใช้กรรมในนรกเสร็จก็ขึ้นมาบนโลกใหม่ สนุกใหม่ แล้วก็อาจจะวนกลับไปป่วนในนรกใหม่อีกครั้งก็ได้”


ติดตามผลงานของ FATMIKE : https://www.facebook.com/fatmikebkk

GEESUCH
WRITER: GEESUCH
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line