Content writer งานที่เป็นที่ต้องการมากในขณะนี้ สมัครด่วนที่ [email protected]
พูดถึงแบรนด์สัญชาติอังกฤษที่มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นมาตลอดระยะเวลา 90 ปีที่ผ่านมา คงต้องนึกถึงแบรนด์ เอ็มจี ที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1924 โดยชื่อ MG นั้นย่อมาจาก Morris Garages โดยปัจจุบันแบรนด์ เอ็มจี อยู่ภายใต้การดูแลของ เอสเอไอซี โดย เอ็มจี มีศูนย์กลางทางด้านการออกแบบ ฟังก์ชันการใช้งาน และการออกแบบด้านเทคนิคที่เมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ เอ็มจี เป็นแบรนด์รถยนต์อังกฤษที่ใช้เทคโนโลยีด้านวิศวกรรมตามแบบฉบับยุโรป โดยได้รับการสนับสนุนจาก เอสเอไอซี ทั้งในเรื่องการจัดหาวัสดุจากทั่วโลก รวมถึงการจัดการด้านซัพพลายเชนเกี่ยวกับส่วนประกอบของรถยนต์ ตลอดจนการจัดการด้านการควบคุมคุณภาพ รวมถึงบริการด้านอื่น ๆ เอ็มจี เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกจากรถยนต์ 2 ที่นั่งรุ่น MGB Roadster ที่เปิดตัวออกมาครั้งแรกในปี 1962 ในวันนี้ เอ็มจีผลิตรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเพื่อการจัดจำหน่ายไปทั่วโลก ล่าสุดบริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด และบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศเปิดตัว ALL NEW MG3 แฮทช์แบ็คหลากสีสันสดใส มิติใหม่ของความสนุกด้วยเอกลักษณ์ของ
คาราบาว สร้างบิ๊กเซอร์ไพรส์เอาใจ GEN Y ประกาศตัวขึ้นแท่นเป็นสินค้าระดับโลก แบรนด์ระดับโลก (The World Class Product, World Class Brand) ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่สุดเอ็กซ์คลูซีฟ Energy Drink ยอดนิยมจากประเทศอังกฤษสู่เมืองไทย “Carabao Can กลิ่น Green Apple” เครื่องดื่มรสชาติใหม่ดีไซน์สุดเท่ในรูปแบบกระป๋อง พร้อมจัดแคมเปญยิ่งใหญ่รับมหกรรมบอลโลก 2018 “สวัสดีบอลโลก ลุ้นโชคกับคาราบาว” เชียร์ทุกวัน ลุ้นทุกแมทช์ มอบรางวัลมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 14 มิ.ย.- 15 ก.ค.ศกนี้ นายเสถียร เศรษฐสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า เพื่อตอกย้ำการเป็นสินค้าระดับโลก แบรนด์ระดับโลกอย่างเต็มภาคภูมิ คาราบาวสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหญ่ในวงการอีกครั้ง เดินหน้ายกระดับแบรนด์ให้มีความทันสมัยมากขึ้น พร้อมเติบโตอย่างยั่งยืนในยุค 4.0 ด้วยการขยายฐานผู้บริโภคให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม ทั้งกลุ่มคนรุ่นใหม่ วัยทำงานและกลุ่ม Gen
นอกจากการดื่มด่ำบรรยากาศริมทะเลที่หัวหิน อีกหนึ่งพิกัดที่เราอยากให้คุณไปดื่มด่ำบรรยากาศ Rooftop พร้อมจุดชมวิวแห่งแรกและแห่งเดียวในหัวหิน คือ วานานาวา สกายบาร์ (Vana Nava Sky Bar) ที่พร้อมให้สัมผัสประสบการณ์ความอร่อยใหม่ “สกาย แจ๊ส บรั๊นซ์” (Sky Jazz Brunch) เติมเต็มมื้อสายวันอาทิตย์ให้ลงตัวด้วยอาหารสไตล์ละตินอันจัดจ้าน เคล้าดนตรีแจ๊ส บนห้องอาหารที่วิวสวยที่สุดในเมืองหัวหิน จัดเป็นประจำทุกเดือน ราคา 1,500 บาท รวมเครื่องดื่มหลากสไตล์แบบไม่อั้น อาทิ เบียร์ ไวน์ แชมเปญ และค็อกเทล ฯลฯ “สกาย แจ๊ส บรันซ์” จัดขึ้นครั้งแรกในวันอาทิตย์ที่ 20 พฤษภาคม 2561 ซึ่งตรงกับงาน Hua Hin International Jazz Festival 2018 เทศกาลดนตรีแจ๊สหัวหินบนชายหาด ณ วานานาวา สกายบาร์ (Vana Nava Sky Bar) ชั้น
ในยุคที่โลกเปลี่ยนมาสู่ยุคดิจิตัลแบบเต็มอัตรา การแข่งขันเยี่ยงสนามรบ แบรนด์เล็ก แบรนด์ใหญ่ แบรนด์ใหม่ต้องงัดกลยุทธ์ออกมาสร้างอาณาจักรในโลกออนไลน์ คนที่ปรับตัวได้ก่อนย่อมได้เปรียบ คนที่ไม่เปิดรับสิ่งใหม่อาจประสบพบเจอกับความยากลำบากในการอยู่รอด ในโลกที่การทำธุรกิจแข่งขันสูงขนาดนี้ นอกจากการที่จะมีสินค้าและการบริการที่เยี่ยมยอดแล้ว การรู้จักใช้สื่อออนไลน์ให้เกิดประโยชน์ ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับคนที่อยากให้ธุรกิจรุ่งโรจน์เกิดได้ในยุคนี้ เพราะต่อให้ของดีแค่ไหน ถ้าขาดซึ่งการเข้าถึงที่ดี ก็เหมือนมีปืนแต่ไร้กระสุน UNLOCKMEN เห็นถึงความสำคัญในการสร้างธุรกิจให้แข็งแกร่งในโลกดิจิตัล จึงไม่พลาดที่จะพามาปลดล็อคแนวคิดกับสุดยอดท่านผู้บริหาร ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจดิจิตอลเอเยนซี่ คุณจิณณ์ เผ่าประไพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเจ เวิร์ค จำกัด จากพนักงาน Graphic Designer สู่เจ้าของธุรกิจเอเยนซี่ที่มีชื่อเสียง กวาดรางวัลมามากมาย ล่าสุดกับความสำเร็จครั้งแรกของประเทศไทยในรางวัล Cannes Lions Grand Prix, สามปีติดกับรางวัล Agency of the year และรางวัลอีกมากมายที่นับไม่ถ้วน เราจึงไม่พลาดที่จะมาเก็บเคล็ดลับวิธีการบริหารธุรกิจในโลกออนไลน์อย่างไรให้ประสบความสำเร็จในยุคดิจิตอลครองเมือง เพื่อปลดล็อคศักยภาพธุรกิจให้ได้เต็มที่ “Internet is future of everything” คำที่จุดประกายให้คุณจิณณ์ได้ก้าวข้ามโลกของ Brick and Mortar มาสู่โลกออนไลน์ ตั้งแต่สมัยที่ Internet ยังเป็นยุคของ Netscape
เชื่อว่าทุกคนคุ้นเคยกับความซ่ามาตั้งแต่เด็กกับ “เครื่องดื่มโค้ก” กระป๋องแดงที่สร้างความสดชื่น ไม่ว่าจะดื่มตอนไหน กินกับอะไรก็เพิ่มรสชาติให้มื้ออาหารอร่อยขึ้นกว่าเดิม และล่าสุดโดยกลุ่มธุรกิจโคคา–โคลา ในประเทศไทย เปิดตัว “โค้ก พลัส คอฟฟี่” นำเสนอความลงตัวของความซ่าสดชื่นและรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของเครื่องดื่มโค้ก ผสานกาแฟโรบัสต้าแท้ ชวนกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น นักศึกษา วัยทำงานพักเบรคจากอาการเหนื่อยล้า คลายง่วงยามบ่าย สร้างสีสันช่วงเวลายามบ่ายให้ได้อร่อยซ่า สดชื่น พร้อมเพลิดเพลินด้วยรสชาติเข้มหอมจากกาแฟโรบัสต้า ให้สดชื่นสดใสกันได้ทั้งวัน เตรียมกิจกรรมสื่อสารการตลาดแบบครบวงจรทั้งออฟไลน์และออนไลน์ วางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อ ‘เซเว่น-อีเลฟเว่น’ มิถุนายนนี้ (ห้างสรรพสินค้า และร้านค้าปลีกทั่วประเทศ สิงหาคมนี้) นางสาวคลาวเดีย นาวาร์โร ผู้อำนวยการการตลาด บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “นอกจากความชื่นชอบในเครื่องดื่มโค้กแล้ว เราพบว่าผู้บริโภคชาวไทยยังรักการดื่มกาแฟอีกด้วย เนื่องจากช่วยเติมความสดชื่นได้ในเวลาที่ต้องการ โดยเฉพาะในยามบ่าย ดิฉันเองเป็นคนทำงาน และยังมีบทบาทเป็นแม่เมื่ออยู่ที่บ้าน จึงทราบดีว่าในแต่ละวัน คนเรามักจะมีภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบมากมาย การได้ลิ้มลองรสชาติซ่าสดชื่นของเครื่องดื่มโค้ก ที่ผสานกับรสเข้มของกาแฟโรบัสต้าแท้ในยามบ่าย ช่วยเติมเต็มความสดชื่นในยามที่รู้สึกเหนื่อยล้าได้เป็นอย่างดี ข้อดีอีกประการ คือ ‘โค้ก พลัส คอฟฟี่’ ยังมีปริมาณน้ำตาลต่ำ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เลือกดื่ม” “เรามั่นใจว่าจะได้รับความสนใจและการตอบรับที่ดีทั้งจากแฟนเครื่องดื่มโค้ก รวมไปถึงคอกาแฟอีกด้วย” นางสาวคลาวเดียกล่าว ตลอดเวลาที่ผ่านมา
ศึก บลองค์แปง จีที ซีรีส์ เอเชีย ระเบิดความมันส์เรซแรกที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เมื่อบ่ายวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยแชมป์รุ่นใหญ่เป็นของ แพ็ตทริค เนียเดอเฮาเซอร์ นักขับชิลีจับคู่ทีมเมทชาวเยอรมันอย่าง มาร์คัส พอมเมอร์ จาก กรุ๊ปเอ็ม เรซซิ่ง ทีม ขณะทีมแข่งไทยผลงานเยี่ยมในคลาสเล็ก ชวนินทร์ บัณฑิตกฤษฎา และ พิษณุ ศิริมงคลเกษม ได้ขึ้นโพเดี้ยมต่อหน้าแฟนความเร็วชาวไทย การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบระดับโลกรายการ บลองค์แปง จีที ซีรีส์ เอเชีย 2018 (Blancpain GT Series Asia 2018) ดวลความเร็วเรซแรกของสนาม 2 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันเสาร์ที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยนับเป็นครั้งที่ 2 ที่แฟนความเร็วชาวไทยได้ชมศึกซูเปอร์คาร์สุดโหดรายการนี้แบบติดขอบสนามในเมืองไทย ศึก บลองค์แปง จีที ซีรีส์ เอเชีย
พูดได้ว่าอาหารไทยไม่ได้เป็นแค่เพียงปัจจัยหล่อเลี้ยงชีวิต แต่เป็นรูปแบบวิถีชีวิตที่งดงาม ของคนไทยมีส่วนผสมที่ลงตัวของความปราณีตวิจิตรและจัดจ้าน น่าหลงใหล จนระบือไกลไปทั่วโลก ต๊อด – ปิติ ภิรมย์ภักดี ทายาทหมื่นล้านรุ่นที่ 4 ของกลุ่มบริษัทบุญรอดฯ ซึ่งดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการธุรกิจซัพพลายเชน และกรรมการบริหาร บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ผู้นำด้านธุรกิจเครื่องดื่มและอาหาร เปิดเผยถึงแผนและยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจของกลุ่มบุญรอดฯ ว่าบริษัทมีความมุ่งมั่นและมีความพร้อมเดินหน้าขยายกลุ่มธุรกิจอาหารในเชิงรุก ด้วยเชื่อว่าอาหารเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ ที่มีความจำเป็นในการดำเนินชีวิตของมนุษย์ ดังนั้นอาหารจึงเป็นกลุ่มธุรกิจหรือผลิตภัณฑ์ที่จะไม่ได้รับผลกระทบจากดิจิทัลดิสรัปชั่น อีกด้านหนึ่งของชีวิตนอกเวลางาน ต๊อดยังเป็นผู้ชายที่ชอบทำอาหารเป็นชีวิตจิตใจ เนื่องด้วยเมื่อก่อน คุณย่าชอบทำอาหารให้ทาน เหมือนเป็นการซึมซับการทำอาหารมาตั้งแต่เด็ก ๆในปีที่ผ่านมาเขาได้สร้างแบรนด์ “Made by Todd” ซอสพริกพริก ซอสเอนกประสงค์ หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า “ซอสต๊อด” ที่ใช้เวลาในการเฟ้นหาสูตรลับ ด้วยตัวเองนานถึง 2 ปี ซึ่งดูจากผลตอบรับแล้วก็เป็นที่น่าพอใจและน่าจับตามองในการไปบุกตลาดโลกเลยทีเดียว ล่าสุดหนุ่มต๊อด ได้เปิดร้านอาหาร ชื่อว่า R-HAAN (WISDOM OF THAI CUSINE) เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการอนุรักษ์อาหารไทย ถือกำเนิดภายใต้แนวคิดของ ‘ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว‘ นิยามความอุดมสมบูรณ์ที่สะท้อนให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของแผ่นดินไทยในฐานะอาณาจักรแห่งอาหาร ท่ามกลางความปราณีตวิจิตรบรรจง ศิลปะและวัฒนธรรมต่าง ๆ ที่ถูกถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น ผ่านรสชาติอาหารไทยแต่ละคำ ร้าน ’อาหาร’ (R.HAAN) นับเป็นร้านอาหารไทยไฟน์ไดนิ่งแห่งใหม่ใจกลางทองหล่อ ที่นำเสนอความอุดมสมบูรณ์ของวัตถุดิบไทยตามฤดูกาล โดยมีความตั้งใจที่จะนำแก่นของอาหารไทย ผ่านการปรุงของพ่อครัวที่มีความเจนจัดในอาหารไทยชั้นเลิศ ประกอบกับการใช้วัตถุดิบแท้ตามต้นตำรับ ที่จะทำให้อาหารทุกสำรับที่ร้านอาหารเต็มไปด้วยรสชาติอาหารไทยแท้อันน่าหลงใหล พร้อมบรรยากาศการตกแต่งที่มีเอกลักษณ์และการบริการที่เหนือระดับ ไม่เพียงแค่รสชาติอาหารรสเลิศเท่านั้น
ในวาระพิเศษของการเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีของการก่อตั้งในปีนี้ ทาง Mido นำเสนอความพิเศษโดดเด่นของเรือนเวลาผ่านทางนาฬิการุ่นที่ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์และผ่านการพิสูจน์ถึงความคลาสสิคมาแล้วผ่านทางระยะเวลาแห่งการทำตลาดที่ยาวนานมากกว่าครึ่งศตวรรษ และด้วยโดดเด่นที่มีความแตกต่างออกไป ทำให้ Commander Shade กลายเป็นสิ่งที่สามารถสร้างความน่าตื่นตาตื่นใจได้เป็นอย่างดีเมื่อมีการอวดโฉมด้วยหน้าปัดใหม่ ที่ถูกจัดวางอยู่บนตัวเรือนทรงดั้งเดิมที่เปิดตัวออกสู่ตลาดครั้งแรกเมื่อปี 1959 ตัวนาฬิกามาพร้อมกับตัวเรือนแบบชิ้นเดียว (Monocase) ทรงกลมพร้อมด้วยแนวทางการออกแบบที่ฉีกแนวและเปิดกว้างทางความคิด และด้วยการได้รับอิทธิพลโดยตรงกับรุ่นที่เปิดตัวในปี 1979 หน้าปัดสีรมควันถูกขัดซาตินเป็นลายซันเรย์ สามารถดึงดูดสายตาทุกคู่ได้เป็นอย่างดี และจากการเลือกใช้การตกแต่งในแบบทูโทนด้วยโทนสีดำ-เงินในทุกรายละเอียด ทำให้ Commander Shade เป็นเรือนเวลาที่มีความโดดเด่นและชวนให้หลงใหล โดยตัวสายเป็นแบบสายเหล็กถัก Milanese พร้อมกับขัดแต่งด้วยลายซาติน ช่วยทำให้สวมใส่สบายและแนบไปกับข้อมือ และสำหรับการสดุดีต่อจิตวิญญาณของการออกแบบนาฬิกาในยุคทศวรรษที่ 1970 ตัว Commander Shade ถือเป็นอีกตำนานที่จะได้รับการตอบรับจากผู้ที่หลงใหลในเรือนเวลาที่มีรูปแบบโดดเด่นไม่เหมือนใคร และมีดีไซน์ที่อยู่เหนือกาลเวลา ไม่แตกต่างจากหอไอเฟลที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงปารีส ตัวเรือนแบบทรงกลมและผลิตจากเหล็กคือเอกลักษณ์ของคอลเล็กชั่น Commander และเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็นึกถึงและทราบได้ทันทีแม้ว่าจะมองแบบผ่านๆ และด้วยโครงสร้างของตัวนาฬิกาที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร Commander ยืนหยัดและท้าทายกาลเวลาแห่งความเปลี่ยนแปลง โดยที่ยังคงสัมผัสและความรู้สึกถึงความเยาว์วัยและพลังแห่งวัยหนุ่ม-สาวได้เป็นอย่างดี และสิ่งที่ยืนยันถึงเรื่องนี้คือ การที่ Commander เป็นนาฬิกาเพียงคอลเล็กชั่นเดียวของ Mido ที่ยังมีการผลิตและทำตลาดอย่างต่อเนื่องมานับตั้งแต่ถูกเปิดตัวเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1959 และแม้ว่าเวลาจะผ่านไปเกือบๆ 6 ทศวรรษแล้ว
ด้วยความเชื่อ “แฟชั่นมีชีวิต ไม่มีวันหยุดนิ่ง ไม่มีที่สิ้นสุด และไร้รูปแบบ” เป็นแรงขับเคลื่อนแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ มาประดับวงการแฟชั่นโลก เมื่อโลกหมุนเร็วขึ้น การแข่งขันก็รุนแรงและรวดเร็วขึ้นเป็นทวีคูณ หลายแบรนด์ถอดใจไปกลางทาง แต่หนึ่งแบรนด์สัญชาติไทย อย่าง “Jaspal“ (ยัสปาล) ยังคงฝ่าฟันจนสามารถยืนหยัดเคียงคู่ความสำเร็จยาวนานถึง 46 ปี ด้วยเพราะไม่เคยหยุดรีเฟรชตัวเองให้ทันเทรนด์โลกเสมอ จนปัจจุบันเป็นที่ยอมรับในวงการแฟชั่นโลกอย่างน่าภูมิใจ โดยล่าสุดขึ้นแท่นเป็นแบรนด์แรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้ร่วม Collaboration กับดีไซเนอร์ระดับโกลเบิล “Karl Lagerfeld” (คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์) สร้างสรรค์คอลเลกชั่นสุดพิเศษแห่งปี ภายใต้ชื่อ “Karl Lagerfeld for Jaspal” เอาใจแฟชั่นนิสต้าผสานกับความชิคสไตล์ใหม่ ตอบโจทย์เออร์เบิร์นไลฟ์สไตล์แบบตรงใจ หากย้อนเวลาไปสู่จุดเริ่มต้นของ บริษัท ยัสปาล จำกัด อายุยาวนานถึง 4 ชั่วอายุคน เริ่มก่อตั้งในปี พ.ศ. 2490 โดย ยัสปาล ซิงค์ ชาวอินเดียเดินทางเข้ามาเริ่มต้นชีวิตใหม่ ทำมาหากินด้วยความมุ่งมั่นอดทนจนสามารถตั้งรกรากและสร้างครอบครัวเป็นปึกแผ่น และเจริญรุ่งเรืองบนแผ่นดินไทย ด้วยความช่างสังเกตและหัวการค้าทำให้ติดต่อค้าขายผ้าขนหนูจากอเมริกามาในประเทศไทย นำเข้าแบรนด์ที่ชาวอเมริกันนิยมเข้ามาจำหน่าย ต่อมาขยายไปเป็นสินค้าเครื่องนอน จนมีโรงงานผลิตสินค้าเป็นของตัวเอง ภายใต้แบรนด์