โตขึ้นอยากเป็นอะไร? วิจัยชี้ว่าเด็กยุคใหม่อยากเป็นยูทูบเบอร์มากกว่านักบินอวกาศ 3 เท่า

ในยุคโลกาภิวัตน์ที่การเชื่อมต่อและข้อมูลข่าวสารผูกโยงกันทั่วโลกอย่างไร้พรมแดน เศรษฐกิจ สังคม การเมือง หรือแม้แต่เทคโนโลยีก็เปลี่ยนแปลงไปรวดเร็วแทบทุกมิติ ในขณะที่มนุษยชาติกำลังก้าวหน้าและชาญฉลาดขึ้นเรื่อย ๆ สภาพสังคมและวิถีชีวิตในตอนนี้ก็เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ความคิด ความอ่าน และความฝันของเยาวชนรั้วของชาติผันแปรไปจากเดิม

เชื่อว่าในวัยเด็กความคิดที่อยากเป็นหมอ ทหาร ตำรวจ หรือแม้แต่นักบินอวกาศคงแวบเข้ามาในหัวผู้ชายเราอยู่บ่อย ๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าวันที่โตขึ้น ได้รู้จักโลกกว้างขึ้น และค้นพบอะไรใหม่ ๆ ที่ไม่เคยผ่านตาในวัยเยาว์ ก็ทำให้ความฝันในอาชีพและเป้าหมายในชีวิตของใครหลายคนเริ่มทิ้งห่างจากความคิดตอนเด็ก ๆ ที่เคยวาดไว้

เด็กไม่ได้อยากท่องอวกาศเหมือนดั่งวีรบุรุษ

บริษัทผลิตของเล่น LEGO ได้สำรวจเด็ก 3,000 คน ที่มีอายุระหว่าง 5 ถึง 12 ปี ว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร ผลปรากฏว่าเด็ก ๆ อยากเป็นยูทูบเบอร์มากกว่านักบินอวกาศถึง 3 เท่า ขณะที่มีเด็กเพียง 11% เท่านั้นที่อยากเดินทางไปยังพื้นที่ไร้แรงโน้มถ่วงในฐานะนักบินอวกาศ

เด็กชาวอเมริกันและอังกฤษใฝ่ฝันอยากเป็นวล็อกเกอร์และยูทูบเบอร์ ครู นักกีฬาอาชีพ และนักดนตรีตามลำดับ ส่วนที่อยากเป็นนักบินอวกาศมีเพียง 10% เท่านั้น

แต่ความฝันที่ได้ล่องลอยในอวกาศอันไกลโพ้นยังไม่เลือนราง

อย่างไรก็ตามเด็ก ๆ ทั่วโลกล้วนมีความคิดความอ่านและให้ผลการสำรวจต่างกันอย่างสิ้นเชิง เนื่องด้วยภูมิลำเนา สังคมที่หล่อหลอมพวกเขา หรือแม้แต่แนวคิดชาตินิยมที่หยั่งรากลึกลงใจจิตใจตั้งแต่เยาว์วัย

มีเด็ก ๆ จากแดนมังกรมากกว่าครึ่งฝันอยากเป็นนักบินอวกาศ และนั่นทำให้อาชีพนี้เป็นที่นิยมสูงสุดในประเทศจีน ตามมาด้วยครู นักดนตรี นักกีฬามืออาชีพ และมีวล็อกเกอร์กับยูทูบเบอร์เป็นอันดับสุดท้าย

เด็กยุคใหม่ก็คิดถึงเรื่องอนาคตไม่แพ้ผู้ใหญ่

มีเด็ก 3 ใน 4 จากการสำรวจเชื่อว่าในอนาคตอันใกล้มนุษย์จำต้องตั้งรกรากและอยู่อาศัยในห้วงอวกาศ หรือดาวเคราะห์ดวงอื่นที่ไม่ใช่โลก เด็ก ๆ จากประเทศจีนกว่า 96% คิดว่าในอนาคตมันจะเป็นเช่นนั้นจริง ๆ แม้กระนั้นก็ไม่ใช่เด็กทุกคนที่อยากศึกษาเรื่องดาราศาสตร์และเดินทางไปยังดินแดนที่ไม่เคยถูกสำรวจ

เพราะมีเด็กอเมริกันเพียง 63% และอังกฤษอีก 68% ที่เชื่อแบบนั้น เมื่อถูกตั้งคำถามว่าอยากไปอวกาศหรือไม่ เด็กจีน 95% รีบตอบทันควันว่าอยากไป ซึ่งเด็กอเมริกา 70% และเด็กอังกฤษ 63% ก็คิดเช่นเดียวกัน

ไม่ว่าเด็กคนไหนก็คงต้องอยากไปท่องดินแดนอวกาศที่ไร้แรงโน้มถ่วงดูสักครั้ง แต่สัดส่วนที่เกินครึ่งมาเล็กน้อยของเด็กอเมริกันและเด็กอังกฤษ ชี้ให้เห็นว่าเด็กจากสองประเทศนี้อาจมีแนวโน้มจะไม่ตื่นตัวและกระตือรือร้นกับเรื่องราวของโลกอวกาศมากเท่าเด็กชาวจีน

แล้วทำไมเด็กบางคนถึงอยากเป็นนักบินอวกาศ?

นับตั้งแต่ Neil Armstrong กลายเป็นผู้ชายคนแรกที่ฝากรอยเท้าไว้บนดวงจันทร์ อาชีพนักบินอวกาศก็กลายเป็นหนึ่งในความฝันของเด็กผู้ชายทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นความเท่ได้ใส่ชุดนักบิน หรือการล่องลอยเคว้งคว้างในอวกาศ ก็คงเป็นอีกเรื่องที่ผู้ชายเราอยากทำสักครั้งก่อนตาย จริงไหม?

แต่หนทางก่อนที่จะเป็นนักบินอวกาศอย่างเต็มภาคภูมิไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบและสวยหรูอย่างที่คิด พวกเขาต้องผ่านการเคี่ยวกรำทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ แถมยังต้องฝึกฝนสมรรถภาพร่างกายให้แข็งแรงเพื่อต้านทานกับภาวะสุญญากาศ ก่อนจะเข้าไปทำงานที่สถานีอวกาศนานาชาติอย่างเป็นทางการ

ความเหน็ดเหนื่อยที่ไม่รู้จักจบสิ้นของอาชีพนักบินอวกาศแลกมากับเงินเดือน 40,000 ปอนด์ (1,500,000 บาท) หรือ 80,000 ปอนด์ (3,000,000 บาท) สำหรับผู้มีประสบการณ์ ก็นับว่าคุ้มค่าไม่น้อยกับหยาดเหงื่อและความเพียรพยายามที่ทำมาเกือบตลอดชีวิต

แต่อาชีพยูทูบเบอร์ก็มาแรงไม่แพ้กัน

ท่ามกลางยุคสมัยที่เทคโนโลยีเจริญก้าวหน้า มีแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียพ่วงกับความบันเทิงครอบคลุมแทบทุกไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวัน บวกกับ Youtube ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในตอนนี้กลายเป็นช่องทางสร้างรายได้ให้กับผู้คน ทำให้อาชีพใหม่มาแรงอย่างวล็อกเกอร์และยูทูบเบอร์เป็นอีกความฝันของเด็กในยุคนี้

พวกเขาสร้างสรรค์คอนเทนต์หลากหลาย ทั้งการพาเที่ยว รีวิวอาหาร คัฟเวอร์เพลง หรือวิดีโออื่น ๆ จากงานอดิเรกที่ทำแล้วมีความสุขก็กลายมาเป็นเงินที่เลี้ยงปากท้องของพวกเขาได้ แล้วแพลตฟอร์มวิดีโอยอดนิยมอย่าง Youtube ก็ปลุกปั้นให้เหล่า Net Idol, Influencer หรือ Micro Influencer กลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลในโลกโซเซียล ที่มาพร้อมเม็ดเงินมหาศาลจากการโฆษณา

จากผลสำรวจก็ทำให้เห็นว่าความคิดของเด็ก (บางชาติ) เปลี่ยนแปลงไปอย่างน่าทึ่ง ซึ่งสอดคล้องกันกับที่ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีดาวเทียมและอวกาศของ Orbital Gateway Consulting ประเมินว่าจีนอาจเป็นประเทศรายต่อไปที่ส่งมนุษย์ขึ้นไปเหยียบดวงจันทร์ได้สำเร็จ

เพราะจีนเคยส่งยานอวกาศ ‘ฉางเอ๋อ-4’ ขึ้นไปลงจอดบริเวณด้านมืดหรือด้านไกลของดวงจันทร์เป็นชาติแรกของโลกเมื่อต้นปี 2019 ที่ผ่านมา ทั้งมีโครงการสำรวจดวงจันทร์ที่ก้าวหน้าและต่อเนื่องมากกว่าสหรัฐฯ ในช่วง 10 ปีให้หลัง

เพราะโลกที่เดินหน้าและพัฒนาอย่างก้าวกระโดด อาจต้องแลกมากับบางอาชีพที่หายไปและมีอาชีพใหม่ผุดขึ้นมาแทน ด้วยเหตุนี้ความฝันในวัยเด็กกับสิ่งที่ทำได้ในปัจจุบันจึงแตกต่างกัน

แล้วฝันของเด็กผู้ชายอย่างคุณคืออะไร และตอนนี้คุณลงทุนลงแรงกับมันมากน้อยขนาดไหน เพื่อให้ฝันที่เคยวาดไว้กลายเป็นความจริง?

SOURCES: 1 / 2