‘BENJAMIN FRANKLIN’ บิดาผู้สร้างชาติอเมริกากับ 9 กุญแจที่ไขประตูชีวิตสู่ความสำเร็จ

Benjamin Franklin คือหนึ่งในบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งประเทศสหรัฐอเมริกา แม้เราจะพอคุ้นหน้าคุ้นตากับใบหน้าขาวดำที่ปรากฏอยู่บนธนบัตร 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่เชื่อว่าหนุ่ม ๆ หลายคนยังไม่รู้ว่าเขาคือผู้ชายที่ถูกขนานนามว่า “ประสบความสำเร็จแทบทุกเรื่องในชีวิต”

เขาเป็นทั้งช่างพิมพ์ นักเขียน นักปรัชญา นักการเมือง นักประดิษฐ์ นักวิทยาศาสตร์ และนักการทูต มีพรสวรรค์ในการเขียนหนังสือ แต่งเพลง เล่นไวโอลิน ทั้งยังมีทักษะการเล่นกีตาร์ในระดับสูง Benjamin Franklin คือผู้ให้กำเนิดหอสมุดแห่งแรกของสหรัฐอเมริกา ก่อตั้ง The University of Pennsylvania และเป็นหนึ่งในคนสำคัญแห่งยุคเรืองปัญญาที่คิดค้นสายล่อฟ้า จุดเริ่มต้นความรู้ครั้งใหญ่ของสาขาวิชาฟิสิกส์โลก

แล้วที่สำคัญที่สุด Benjamin Franklin คือผู้นำการเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องให้แยกตัวออกจากอาณานิคม และก่อตั้งชาติสหรัฐอเมริกาขึ้นมาจนทุกวันนี้ ด้วยรางวัลความสำเร็จที่การันตีและชื่อเสียงจากหลากหลายแขนงวิชา ทำให้เราสงสัยว่า ทั้งที่มีเวลาเพียง 24 ชั่วโมงเฉกเช่นมนุษย์คนอื่น แต่ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงประสบความสำเร็จได้แทบทุกเรื่องในชีวิต?

The Autobiography of Benjamin Franklin

9 กุญแจไขความสำเร็จของ BENJAMIN FRANKLIN

ทำให้มันง่าย

ในหนังสืออัตชีวประวัติของ Benjamin Franklin เผยว่าเขาแบ่งตารางกิจวัตรประจำวันอย่างเรียบง่าย โดยมีเพียง 6 เรื่องเท่านั้นที่ต้องทำในแต่ละวัน ไม่จำเป็นต้องมีกิจกรรมมากมาย หากเน้นไปที่สิ่งสำคัญเพื่อให้เกิดผลผลิตสูงสุด แถมการแบ่งตารางเวลาอย่างง่ายยังทำให้เขามีแรงจูงใจมากพอที่จะทำสิ่ง ๆ ให้สำเร็จลุล่วง

ตื่นและเข้านอนให้ตรงเวลา

หนึ่งในเคล็ดลับการใช้ชีวิตของเขาคือการเข้านอนเร็วให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ เขาเชื่อว่าการพักผ่อนที่เพียงพอจะทำให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง นำมาซึ่งความร่ำรวยและมันสมองอันชาญฉลาด

ในแต่ละวัน Benjamin Franklin จะตื่นนอนตอน 05.00 น. และเข้านอนก่อน 22.00 น. แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่เวลา หากเป็นตารางการนอนที่สม่ำเสมอ เมื่อคุณตื่นและเข้านอนตรงเวลาจะช่วยฝึกสมองให้หลับเร็วขึ้นและปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับให้ดีกว่าเดิม

ใช้เวลาอยู่คนเดียวเงียบ ๆ

จริงอยู่ที่มนุษย์เราเป็นสัตว์สังคม จึงไม่อาจเลี่ยงการปฏิสัมพันธ์หรือพูดคุยกับคนอื่น ๆ ได้ แต่บางครั้งคุณก็ควรใช้เวลาเงียบ ๆ อยู่กับตัวเองบ้าง อย่าง Benjamin Franklin ที่จะอาบน้ำหลังตื่นนอนเสมอ แล้วใช้เวลาอยู่กับตัวเองเพื่อสวดมนต์และนั่งสมาธิ

การใช้เวลาอยู่คนเดียวและนิสัยรักสันโดษ (บางเวลา) ของเขา ทำให้ Benjamin Franklin ได้วางแผนเรื่องที่จะทำในวันนั้น ๆ และชัดเจนต่อเป้าหมายที่อยู่เบื้องหน้ามากขึ้น

กำหนดความตั้งใจและวางแผนในแต่ละวัน

ทุกเช้าก่อนไปทำงาน เขาจะถามตัวเองทุกครั้งว่า “What Good Shall I Do This Day?” จากนั้นเขาจะเริ่มจดจ่อ ครุ่นคิด และวางแผนถึงเรื่องที่จะทำ ซึ่งนี่เป็นวิธีที่ทำให้เขามุ่งเน้นไปยังตัวงานได้อย่างชัดเจน และไม่เสียเวลากับเรื่องไร้สาระอื่น ๆ ที่ไม่ได้อยู่ในแผน

อุทิศเวลาให้การเรียนรู้

ในตารางการใช้ชีวิตของเขาจะมีเวลา “Prosecute The Present Study” ซึ่งถือเป็นเวลาแห่งการเรียนรู้ เป็นช่วงที่เขาจะใช้เวลาส่วนตัวและแยกห่างจากการทำงาน อาจจะนั่งอ่านหนังสือ วิเคราะห์เอกสาร เรียนภาษา เล่นดนตรี หรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่มีประโยชน์กับตัวและเป็นส่วนประกอบของการเรียนรู้

จัดสรรเวลาการทำงานหนักและงานสบายให้เหมาะสม

จริงอยู่ที่การวางแผนการใช้ชีวิตประจำวัน ทำให้เขามีการจัดสรรเวลาที่ดีและมีประสิทธิภาพ แต่การทำงานที่ดีควรจะแบ่งประเภทของงานให้ชัดเจน เพื่อให้คุณไม่ทำงานหนักหรือสบายจนเกินไป

Benjamin Franklin ใช้เวลาตั้งแต่ 8.00-14.00 น. ไปกับการทำงานหนักที่ต้องวิเคราะห์ ตีความ และระดมสมองอย่างหนักหน่วง แล้วเขาก็ไม่ลืมที่จะแบ่งเวลาช่วง 14.00-18.00 น. ให้กับงานสบาย ๆ อย่างการตรวจสอบการเงิน

กำหนดเวลาหยุดทำงาน

ทุกวันหลังเลิกงานเขาจะทำความสะอาดที่ทำงาน กินข้าวเย็น และใช้เวลาที่เหลือในช่วงเย็นเพื่อผ่อนคลาย อาจเป็นการฟังเพลงหรือพูดคุยกับเพื่อนคนสนิทก็ได้ แต่การหยุดทำงานของ Benjamin Franklin ไม่ใช่เรื่องที่เสียเวลาแต่อย่างใด หากเป็นเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพที่ช่วยเพิ่มพลังงานให้แก่สมองและร่างกาย เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับความท้าทายในวันต่อไป

สรุปผลในตอนเย็น

ก่อนนอนหลับ Benjamin Franklin จะไตร่ตรองถึงกิจกรรมที่เขาทำตลอดทั้งวัน เพื่อสังเกตว่าอะไรเป็นไปได้ด้วยดีและอะไรที่เขาทำพลาดในวันนี้ วิธีนี้จะช่วยให้เขาค้นพบกิจกรรมที่ต้องเสียเวลาให้กับมันโดยใช่เหตุ ก่อนจะนำมาปรับปรุงและปรับเปลี่ยนตารางประจำวันเพื่อประสิทธิผลที่ดียิ่งขึ้น

อย่ามุ่งมั่นเพื่อความสมบูรณ์แบบ

เมื่อสังเกตว่าตัวเองมีความมุ่งมั่นและเพียรพยายามมากเกินไป มากจนทำให้หงุดหงิดที่ไม่อาจทำมันได้ดั่งใจ นั่นเป็นสัญญาณที่บอกว่าคุณกำลังลุ่มหลงกับความสมบูรณ์แบบมากเกินไปแล้ว

มันคงมีบางวันที่เราไม่สามารถทำตามตารางประจำวันได้ด้วยข้อจำกัดบางอย่าง แต่แทนที่จะโทษตัวเอง คุณควรไปปรับเปลี่ยนตารางเวลาให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์มากกว่านี้ ซึ่งต้องเป็นตารางที่สามารถทำได้จริงและไม่ทรมานตัวเองจนเกินไป

“If you fail to plan, you are planning to fail!”

แม้ตารางการใช้ชีวิตให้ productive ของ Benjamin Franklin จะนำมาซึ่งประสิทธิภาพและประสิทธิผลที่น่าภูมิใจ จนพาตัวเขาขึ้นไปยืนอยู่บนแท่นที่เรียกว่า “ความสำเร็จ” แต่เราคงต้องบอกว่าด้วยยุคสมัย วิธีคิด และวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปของคนยุคนี้ ก็อาจมีข้อกำจัดหรืออุปสรรคบางอย่างที่มาขัดขวางตารางกิจวัตรประจำวันของคุณ

เราแนะนำให้หนุ่ม ๆ ลองปรับตารางการใช้ชีวิตให้เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนเพื่อสร้างแรงจูงใจ และเริ่มเฉลิมฉลองให้กับความสำเร็จเล็ก ๆ ที่ทำได้ เพราะมันคือฟันเฟืองชิ้นสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนความสำเร็จยิ่งใหญ่ในเบื้องหน้า

SOURCE