APPS

จุดปัง ปัง!! ที่ทำให้การตัดสินใจชื้อ iPhone 7/7 Plus ชัดเจนขึ้นได้ทันที

By: myfifthday September 8, 2016

การสาดกระสุนครั้งนี้รุนแรงเหลือเกินสำหรับผลิตภัณฑ์ตัวใหม่จากค่ายผลไม้ ถึงแม้งานจะจบไปเมื่อคืนแล้ว แต่จนถึงตอนนี้ข่าวก็ยังอุ่นเต็มไทม์ไลน์ ส่วนกระแสที่ออกมาก็มีทั้งด้านดีด้านลบ คนที่กำเงินถึงพร้อมชื้อ ถึงเวลาก็จัดได้เลย แต่สำหรับใครที่ต้องตัดสินใจให้รอบคอบก่อนเลือกชื้อมือถือสักเครื่อง เพราะราคามันถึงขั้นทำให้กระเป๋าเจ็บปวดได้  UNLOCKMEN แนะนำให้ลองอ่านจุดเด่นๆที่เราคัดมาให้ดู เพราะมันอาจจะช่วยในตัดสินใจสักหน่อยว่า iPhone 7/7 Plus น่าเสียเงินหรือเปล่า

160908-best-deal-apple-iphone7-1

1.ปุ่มโฮมอันใหม่ ล้ำเข้าขั้นเทพ

เปลี่ยนใหม่กันอีกรอบสำหรับปุ่มโฮมที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่หมดในทุกรายละเอียดและดีไซน์ Unibody แบบใหม่ เรียบเนียนไร้รอยต่อ เป็นครั้งแรกที่จับเอาฟีเจอร์ Force Touch ใส่มาบนไอโฟน ซึ่งตรงเทคโนโลยีนี้จะทำให้ปุ่มโฮมสามารถแยกแยะแรงกดได้เหมือนหน้าจอ เทคโนโลยี TrackPad ของ MacBook และยังมี Taptic Engine ไว้สั่นตอบสนองเวลาเราใช้แรงกดลงไปที่ปุ่มโฮม แน่นอนว่าตรงนี้ช่วยถนอมปุ่มโฮมมากกว่าแต่ก่อน

160908-best-deal-apple-iphone7-10

2.น้ำสาดมาไม่มีกลัว กันน้ำ กันฝุ่น  IP67

หลังจากที่เจ้าอื่นในสนามลงมือใส่กันน้ำมาหลายรุ่นแล้ว ถึงคราว iPhone 7 ใส่มาบ้าง ตามมาตรฐานได้ IP67 โดยสามารถกันฝุ่นได้เต็มที่ และสามารถลงน้ำได้ที่ความลึกตั้งแต่ 15 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร แต่เต็มที่น่าจะได้แค่กันฝน กันน้ำหกแบบไม่ตั้งใจ แต่ไม่ถึงขั้นเอาลงไปใต้น้ำได้ ส่วนใครที่ถามว่าน้ำเข้าแล้วเคลมได้ไหม แน่นอนว่าเคลมได้ (แต่เสียเงินแน่นอน) ใครมองจะเอาไปเป็นตัวเก่งถ่ายใต้น้ำคงต้องคิดดูดีๆ ยิ่งน้ำทะเล ห้ามเลย!!

160908-best-deal-apple-iphone7-3

3.หน้าจอ Retina HD แบบใหม่ ไฮไลกว่าเดิม

สำหรับหน้าจอ Retina ที่มีความละเอียดคมชัดแต่เดิมอยู่แล้ว ได้อัพเกรดใหม่บน iPhone 7 จอที่ให้สีที่กว้างขึ้น และแสดงเฉดสีได้คมชัดและเยอะขึ้นกว่าเดิม หน้าจอสว่างขึ้น 25% และรองรับ 3D Touch เช่นเดิม

160908-best-deal-apple-iphone7-11

4.กล้องจะเทพไปไหน อัพเดทยกใหญ่

ถือว่าเป็นพระเอกของงานนี้เลย สำหรับฟีเจอร์ที่ได้พัฒนาอัพเกรดกล้อง iPhone 7 ให้แจ่มว้าวยิ่งกว่าเดิม ตรงนี้เป็นจุดเรียกสั่นเงินในกระเป๋าแน่นอน แบ่งเป็น 2 รุ่นคือ iPhone 7 กล้องหลังจะมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/1.8 ฉลาด ประมวลผล 100 ล้านขั้นตอนใน 25 มิลลิวินาที LED Flash 4 ดวง  มี OIS (กันสั่น)เพิ่มเข้ามา , เลนส์ 6 ชิ้น พร้อม Image Signal Processor ตัวใหม่ทำงานได้ดีกว่าเดิม ส่วน iPhone 7 Plus ก็อัพเกรดออกมาหน่อยคือมีเลนส์คู่เป็นเลนส์ Wide (f/1.8) และ Tele (f/2.8) การใช้กล้องคู่ที่ความยาวเลนส์ไม่เท่ากัน ช่วยให้ซูม optical ได้ 2x และใช้ซูม digital ได้อีก 5x รวมระยะซูมทั้งหมดเป็น 10x

160908-best-deal-apple-iphone7-12

และกล้องคู่ของ iPhone 7 Plus ยังสามารถถ่ายภาพหลังละลายหรือทำ bokeh ได้เหมือนกับบนกล้อง DSLR กลไกเบื้องหลังคือใช้กล้องสองตัวสแกนภาพที่เห็นแล้วสร้างโมเดล 3 มิติขึ้นมาเพื่อแยกแยะว่าวัตถุไหนอยู่ด้านหน้า อะไรคือพื้นหลัง และตอนนี้ไฟล์ภาพที่ถ่ายก็เป็น Raw File ได้แล้ว ตรงนี้เราว่าแจ่มมาก แถมยังใจดีให้นักพัฒนาเอา api ไปพัฒนาได้อีกด้วย

160908-best-deal-apple-iphone7-6

5.ลำโพงสเตอริโอ พลังเสียงแรง กระหึ่ม

นี่คือครั้งแรกที่ iPhone มาพร้อมลำโพงสเตอริโอที่ให้กำลังเสียงมากกว่า iPhone 6s ถึง 2 เท่า และช่วงไดนามิกที่ขยายกว้างขึ้น ดังนั้นไม่ว่าเราจะฟังเพลง ดูวิดีโอ หรือคุยโทรศัพท์ผ่านสปีกเกอร์โฟนด้วย iPhone 7 ลำโพงตัวแรกจะยังคู่อยู่ด้านล่างข้าง ๆ พอร์ต Lightning เหมือนเดิมและลำโพงอีกตัวนั่นก็คือลำโพงที่เอาไว้คุยโทรศัพท์ไง คราวนี้เปิดเพลงได้กระหึ่ม เราก็ได้แต่หวังว่าจะไม่มีอาการลำโพงแตกนะ

160908-best-deal-apple-iphone7-1

160908-best-deal-apple-iphone7-7

6.ฮาร์ดแวร์อัดมาให้เต็ม แบตอึดกว่าเดิม

เริ่มตั้งแต่ตัวชิป Apple A10 Fusion เป็นชิป Quad Core ประมวลผลเร็วกว่า iPhone 6 สองเท่า และประมวลผลกราฟิกเร็วกว่า iPhone 6 ถึง 3 เท่า มาพร้อมกับชิป M10 ที่จะช่วยในการประมวลผลและตรวจจับการเคลื่อนไหว และเรื่องที่ทุกคนเรียกร้องกันมาตลอดคือขอให้ใช้ได้นานขึ้น ตรงนี้มีการแก้ไข ใช้ชิปประหยัดพลังงานที่สุดตั้งแต่เคยมีมา ทำให้แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานขึ้นกว่าเดิม

160908-best-deal-apple-iphone7-13

7. จะรุ่งหรือจะร่วง ตัดรูหูฟัง 3.5 มม.

Apple  บอกว่าเป็นความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง โดยการตัดรูหูฟัง 3.5 มม. ทิ้ง ทำให้ประหยัดพื้นที่และสะดวกมากขึ้น แต่โดยส่วนตัวอันนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสียค่อนข้างเยอะพอสมควร เพราะถึงแม้จะมีหูฟังเริ่มออกมา Support Lightning กันมากขึ้น แต่มาตราฐานโลกก็ยังเป็น 3.5 มม. อยู่ดี เพราะงั้นจะลำบากในช่วงแรกๆ ที่อาจไม่มีอุปกรณ์มารองรับได้เต็มที่ และ iPhone 7 ยังมาพร้อม EarPods ที่ใช้หัวต่อ Lightning ในกล่อง แต่ถ้ายังอยากใช้หูฟังคู่เดิมก็ไม่มีปัญหา เพราะสามารถเสียบผ่านอะแดปเตอร์ที่ให้มา(ในกล่อง) เพื่อแปลงเป็นแจ็คหูฟัง 3.5 มม. ได้ สำหรับคนที่ชอบฟังเพลงไปด้วยชาร์จแบตไปด้วย หรือมีหูฟังตัวเก่งเป็น 3.5 มม. แล้วต้องมาต่อสายให้รกรุงรังก็ดูจะมีปัญหาไม่น้อย เพราะงั้นต้องลองตัดสินใจกันดีๆ ส่วนใครที่สนใจตัวแบบไร้สาย EarPods ราคาก็อยู่ที่ 6,900 บาท

160908-best-deal-apple-iphone7-2
8.สีสันและราคามีให้ตัดสินใจ

มาพร้อม 5 สี Jet Black (ดำเงา), Black (ดำด้าน), Gold, Silver, Rose Gold จะแบบไหนก็แล้วแต่คนชอบ มีความจุตั้งแต่ 32, 128 และ 256 GB ให้เลือก สี Jet Black จะมีเฉพาะรุ่นความจุ 128 และ 256 GB เท่านั้น โดยส่วนตัวชอบแบบดำด้าน ดูดิบน่าจับน่าค้นหา แต่เราแนะนำว่ารอดูตัวจริงแล้วไปเลือกดูดีกว่า ส่วนราคา iPhone 7 เริ่มต้น $649 (22,500) และ iPhone 7 Plus เริ่มต้น $769 (26,600) ราคาในประเทศไทยยังไม่มีเปิดเผย

 

แค่นี้ก็เรียกว่าเป็นการอัพเกรดสิ่งที่คนส่วนใหญ่ต้องการแทบจะทั้งหมด ไม่ว่าจะกล้องที่ดีขึ้น การใช้งานที่ไวขึ้น แบตหมดช้ากว่าเดิม ฯลฯ เพราะแบบนี้เองถึงทำให้กระแสออกมารุนแรง สาวกเทใจเทหน้าตักเตรียมชื้อกันถ้วนหน้า โดยส่วนตัวถึงแม้เทคโนโลยีอาจไม่ได้ใหม่หรือไปไกลเหมือนค่ายอื่นๆ แต่ความเป็นแบรนด์ผลไม้ก็การันตีคุณภาพได้อย่างชัดเจน ว่าคุ้มค่าแก่การเสียเงิน เราแนะนำว่าอีกไม่นานได้มีเครื่องเข้ามาแน่นอน แนะนำให้ไปลองจับลองสัมผัสก่อนตัดสินใจกัน

myfifthday
WRITER: myfifthday
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line