World

BILL GATES ชายผู้มองอันตรายจากโรคไข้หวัดเป็นเรื่องสำคัญของผู้คนทั่วโลก

By: SPLESS January 30, 2020

ปี 2018 ชายคนหนึ่งกล่าวว่าประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาขาดการเตรียมพร้อมสำหรับโรคไข้หวัด (Flu) สายพันธุ์ร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นในช่วงชีวิตของมนุษย์

ประโยคนั้นนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงและระดมทุนครั้งใหญ่เพื่อทำงานวิจัยขั้นสูงเพื่อคิดค้นวัคซีนชนิดใหม่ เตรียมพร้อมรับมือเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ชายคนนั้นคือผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟต์ที่เรารู้จักกันดีชื่อของเขาคือ บิล เกตส์ และสิ่งที่เข้าพูดเมื่อ 3 ปีก่อนนั้น ปัจจุบันกำลังเกิดขึ้นจริง

sputniknews

หลายคนอาจไม่เคยรู้ว่าชายที่รวยเป็นอันดับ 3 ของโลกด้วยทรัพย์สินประมาณ 110 พันล้านดอลลาร์สหรัฐนามว่าบิล เกตส์คือหนึ่งในมหาเศรษฐีใจบุญที่ให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ทั้งเรื่องโอกาสทางการศึกษา มูลนิธิด้านสิ่งแวดล้อมทั่วโลก รวมไปถึงโครงการเกี่ยวกับโรคร้ายสารพัดรูปแบบ

การต่อสู้กับโปลิโอในอินเดีย โรคในเด็กแรกเกิดที่ไนจีเรีย โดยเฉพาะโรคไข้หวัดใหญ่ ที่ถือเป็นหนึ่งในโรคที่มีวิธีรักษา แต่กลับคร่าชีวิตประชากรบนโลกเป็นจำนวนมาก

อะไรที่ทำให้ชายคนนี้ให้ความสำคัญเรื่องการป้องกันโรคติดต่อที่อยู่กับมนุษย์มานาน เราอยากชวนคุณมาหาคำตอบไปพร้อมกัน

WSJ

ตลอด 10 ที่ผ่านมาโลกต้องเผชิญกับไขหวัดที่อันตรายถึงชีวิตหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นไข้หวัดนก A/H1N1 ไข้หวัดใหญ่ H1N1 ที่สร้างความเสียหายต่อมนุษย์รวมถึงสิ่งมีชีวิตจำนวนมาก

รวมไปถึงโรคอย่าง ซาร์ส เมอร์สและอีโบล่า ที่สร้างความหวาดกลัวต่อผู้คนทั่วโลก อย่างไรก็ตามโรคทั้งหมดยังเทียบไม่ได้กับจำนวนของผู้ที่ตายเพราะโรคไข้หวัดใหญ่ที่มีอัตราการตายเฉลี่ยเพิ่มขึ้นทุกวัน

ibtimes

ย้อนกลับไปในปี 1918 เกิดการระบาดของไข้หวัดสเปนกระจายเป็นวงกว้างทั่วโลกโดยมีประชากร 1 ใน 3 ติดเชื้อสุดท้ายการระบาดก็คร่าชีวิตประชากรทั่วโลกประมาณ 50 – 100 ล้านคน หากจินตนาการไม่ออกว่าจำนวนนี้มากแค่ไหน จำนวนผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่ครั้งนั้นมากเป็น 1 เท่าจากประชากรทั้งหมดที่ตายในสงครามโลกครั้งที่ 1 เรียกได้ว่าคนตายจากไข้หวัดใหญ่เยอะยิ่งกว่าสงครามอีก!

loudfront

ทั้งหมดเกิดขึ้นในยุคที่มนุษย์ยังไม่เดินทางโดยเครื่องบินได้อย่างสะดวกสบายเหมือนกับทุกหลายพันเที่ยวบินเข่นในปัจจุบัน ลองนึกภาพตามว่าถ้ามีโรคร้ายแรงที่มนุษย์ยังไม่มีวิธีป้องกันหรือไม่สามารถรับมือได้ดีพอเหมือนกับตอนที่เกิดไข้หวัดสเปน ความสูญเสียที่เกิดขึ้นจะเป็นตัวเลขเท่าไร?

เป็นคำตอบที่บิล เกตส์ คิดและทีมงานหาข้อมูลเอาไว้แล้ว โดยผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยากล่าวว่าถ้าโลกใบนี้มีไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้นจะสามารถแพร่กระจายสู่คนจำนวน 33 ล้านคนภายในเวลาเพียง 6 เดือนเท่านั้น เป็นสาเหตุให้บิล เกตส์ออกมาตอกย้ำกับผู้คนอีกครั้ง ผ่านงานสัมนาเกี่ยวกับโรคระบาดจัดโดย Massachusetts Medical Society และ New England Journal of Medicine ด้วยคำพูดว่า

“โลกจำเป็นต้องเตรียมตัวรับมือกับการระบาดครั้งใหญ่ในแบบเดียวกับที่เตรียมไว้สำหรับภัยสงคราม”

ไม่ใช่คำเตือนเกินจริงเลยเมื่อเทียบจำนวนผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดกับการตายจากสาเหตุอื่น ๆ นับเฉพาะไข้หวัดที่มีทางรักษาได้ในปัจจุบันและเราไม่มีทางรู้ว่าในอนาคตข้างหน้าจะมีไวรัสไข้หวัดแบบไหนกลายพันธุ์เกิดขึ้นมาอีก

คำพูดนั้นทำให้ทั่วสหรัฐอเมริกาตื่นตัวเรื่องนี้ นำมาสู่การจัดตั้งองค์กรที่เกี่ยวข้องขึ้นจำนวนมากเพื่อวิจัยและเตรียมพร้อมสำหรับโรคระบาดในอนาคต

รวมถึงโรงพยาบาลทั่วประเทศก็เตรียมความพร้อมในเรื่องนี้ด้วย อย่างไรก็ตามแม้จะมีการฝึกซ้อมและเตรียมตัวเป็นอย่างดี แต่หากไม่มียาหรือวัคซีนที่ป้องกันผู้คนจากไวรัสได้ มนุษย์ก็ทำได้เพียงป้องกันตัวเองอยู่บนความเสี่ยงเท่านั้น

mercurynews

หลังจากนั้นไม่นานเกิดแนวคิดงานวิจัยที่น่าสนใจจากชายที่ชื่อ Jake Glanville นักวิทยาศาสตร์ผู้อยากริเริ่มพัฒนาวัคซีนไข้หวัดใหญ่ครอบจักรวาลตัวแรกของโลกขึ้นมา ซึ่งต่อมารู้จักในชื่อ Universal Flu Vaccine โดยในเวลานั้นโครงการของเขาเพิ่งริเริ่มขั้นตอนการหาทุน และเมื่องานวิจัยชิ้นดังกล่าวเสนอขอทุนต่อบิล เกตส์ เขาก็ใช้เวลาไม่นานในการตอบรับงานวิจัยซึ่งถ้าหากสำเร็จโลกจะมีวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกสายพันธุ์ได้ด้วยการฉีดวัคซีนเพียงเข็มเดียว

rtmagazine

มูลนิธิ Bill and Melinda Gates ตัดสินใจมอบทุนวิจัยมูลค่าถึง 12 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อสนับสนุนงานวิจัยทั้งหมดเกี่ยวกับ Universal Flu Vaccine ซึ่งปัจจุบันมีทีมนักวิจัยร่วมพัฒนาถึง 8 ทีม โดย 7 ทีมจะต้องพัฒนาและสรุปความคืบหน้างานวิจัยเพื่อรายงานอย่างต่อเนื่อง

หนึ่งในนั้นคือ Yoshihiro Kawaoka นักไวรัสวิทยาผู้เชี่ยวชาญด้านไข้หวัดใหญ่และอีโบล่า โดยวัคซีนที่พัฒนาหวังผลต่อยอดถึงการรักษาเชื้อ HIV ในอนาคตอีกด้วย

ปัจจุบันแม้โครงการวิจัย Universal Flu Vaccine จะยังไม่ประสบความสำเร็จถึงขนาดมีการทดลองใช้วัคซีนในมนุษย์ แต่นี่ถือเป็นความหวังของผู้คนทั่วโลกที่จะมียารักษาไข้หวัดครบวงจรซึ่งจะช่วยปกป้องชีวิตเราจากโรคที่บางคนมองว่าเป็นแค่อาการป่วยทั่วไป

แต่มุมมองของบิล เกตส์โรคไข้หวัดใหญ่คือสิ่งที่ฆ่าชีวิตผู้คนได้มากที่สุดและควรให้ความสำคัญอย่างจริงจังเสียที เพราะ 1 ชีวิตหรือ 33 ล้านชีวิตก็มีค่าเหมือนกันไม่จำเป็นต้องรอให้เกิดการสูญเสียเกิดขึ้นก่อน แล้วค่อยหาทางแก้ไข

zed

SOURCE: 1/2/3/4/5

SPLESS
WRITER: SPLESS
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line