Entertainment

เก๋ากว่า DEADPOOL! 5 หนังที่ตัวละครทลายกำแพงหนัง หันมาคุยกับคนดูก่อนยอดมนุษย์จอมเกรียน

By: PERLE May 30, 2018

หลังจาก Deadpool ภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่จากค่าย 20th Century Fox เข้าฉายเมื่อ 2 ปีที่แล้วก็ประสบความสำเร็จอย่างสวยงามซึ่งถือว่าหักปากกานักวิจารณ์กันพอสมควรเลยทีเดียว เพราะ 20th Century Fox มีปูมหลังที่ไม่ค่อยดีกับหนังประเภทนี้เท่าไรนัก จนในปีนี้ Deadpool 2 ก็เข้าโรงฉายต่อยอดความสำเร็จทันที

นอกจากความเกรียนเกินลิมิตของตัว Deadpool แล้ว อีกหนึ่งจุดเด่นที่ทำเอาคนดูร้องว้าวคือการที่ตัวละครในเรื่องหันหน้ามาพูดคุยกับผู้ชมซึ่งเป็นสิ่งที่พบเห็นไม่บ่อยนัก แต่ Deadpool ไม่ใช่เรื่องแรกที่ทำลายขนบดังกล่าว เพราะก่อนหน้านี้มีภาพยนตร์อีกหลายเรื่องที่ตัวละคร Break the 4th Wall มาคุยกับคนดูเฉยเลย! จะมีเรื่องไหนกันบ้างไปดูกัน

Annie Hall (1977)

เรียกได้ว่าเฟี้ยวมาตั้งแต่รุ่นพ่อเลยทีเดียว เพราะ Annie Hall คือภาพยนตร์ปี 1977 หรือเมื่อกว่า 40 ปีที่แล้ว ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีคำนิยามว่า Break the 4th Wall  เลยด้วยซ้ำ

Annie Hall เป็นภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้กำกับและแสดงนำโดย Woody Allen ผู้กำกับระดับปรมาจารย์แห่งฮอลลีวู้ด เล่าเรื่องความรักระหว่าง Alvy Singer และ Annie Hall ที่เส้นทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ พวกเขาต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมายที่ถาถมเข้ามาเพื่อพิสูจน์ความรัก

Annie Hall ทำคนดูเหวอตั้งแต่ฉากแรก เพราะ Woody Allen เลือกที่จะเปิดเรื่องด้วยการให้ตัวละคร Alvy Singer มานั่งเล่าเรื่องให้คนดูฟังแบบไม่ปี่มีขลุ่ย ซึ่งสำหรับเมื่อ 40 ปีที่แล้วถือว่าแปลกใหม่มาก และนอกจากฉากเปิดแล้ว ตลอดการดำเนินเรื่องจะมีการตัดสลับให้ Alvy Singer มาบอกเล่าให้คนดูฟังว่าตอนนี้เขากำลังรู้สึกยังไงกับความสัมพันธ์นี้อยู่

เรื่องบังเอิญอีกหนึ่งอย่างของภาพยนตร์เรื่องนี้คือการคว้ารางวัลออสการ์ได้ 4 รางวัล ซึ่งดูเหมาะเจาะกับการเป็นหนังเปิดปฐมบทการ  Break the 4th Wall เสียจริง

The Wolf of Wall Street (2013)

นี่คือภาพยนตร์ที่ชาว UNLOCKMEN ไม่ควรพลาด มันเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของพวกเราเหลือเกิน เพราะตัวละครนำในเรื่องอย่าง Jordan Belfort ซึ่งนำแสดงโดย Leonardo DiCaprio นั้น Work Hard Play Hard แบบสุด ๆ แต่ในอีกแง่ก็เลวแบบสุด ๆ เหมือนกัน ซึ่งในเรื่องนี้ไม่ควรทำตาม

The Wolf of Wall Street สร้างจากเรื่องจริงของ Jordan Belfort ที่สร้างบริษัทหนึ่งขึ้นมาใน Wall Street หลอกลวงผู้คนให้มาร่วมลงทุนด้วย และเขากับพรรคพวกก็เสพสุขด้วยไลฟ์สไตล์บ้าคลั่งสุดเหวี่ยงกับเงินที่ได้มา

เป็นเรื่องไม่น่าเชื่อที่ Martin Scorsese ผู้กำกับซึ่งขณะนั้นอายุ 70 ปีแล้วจะเลือกการเล่าเรื่องแบบสดใหม่ด้วยการให้ตัวละคร Jordan Belfort หันมาเล่นมุกตลกเกี่ยวกับความบ้าคลั่งของตัวเองกับคนดูเป็นระยะ ๆ ซึ่งนี่เองคือสิ่งที่ทำให้ The Wolf of Wall Street เป็นหนังเกี่ยวกับตลาดหุ้นที่ดูสนุกกว่าเรื่องอื่น ๆ

Fight Club (1999)

แทบทุกลิสต์ที่มีการจัดอันดับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ภาพยนตร์ที่ต้องดูก่อนตาย หรืออะไรเทือกนั้นจะมีชื่อของ Fight Club ปรากฏอยู่เสมอ ภาพยนตร์เรื่องนี้มีดียังไง? แต่ที่แน่ ๆ มันทุบกำแพงที่มีต่อคนดูซะพังราบเป็นหน้ากลอง

Fight Club เป็นภาพยนตร์ที่บอกเล่าเรื่องราวของพนักงานออฟฟิศคนหนึ่งที่ในเรื่องไม่ได้มีการเอ่ยถึงชื่อแต่นำแสดงโดย Edward Norton ที่กำลังเบื่อหน่ายกับชีวิตเต็มทีและหนำซ้ำยังป่วยเป็นโรคนอนไม่หลับ แต่แล้ววันหนึ่งชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไปตลอดกาลเมื่อได้พบกับ Tyler Durden คนขายสบู่ลึกลับ ซึ่งเป็นผู้แนะนำเขาให้รู้จักกับ Fight Club คลับต่อสู้ใต้ดินลึกลับ ที่มีกฎเหล็กว่า

“กฎข้อแรกของ Fight Club คือคุณห้ามพูดถึง Fight Club” ซึ่งต่อมากลายเป็นประโยคเด็ดของเรื่องที่คนนำมาพูดกันอย่างแพร่หลาย

ในส่วนของการ Break the 4th Wall มีปรากฏอยู่ตลอดทั้งเรื่อง เพราะหนังนั้นดำเนินเรื่องผ่านตัวละคร Edward Norton ซึ่งเป็นผู้เล่าเรื่องผ่าน Voiceover ตั้งแต่ต้นจนจบ ดังนั้นอย่าเรียกว่าการทำลายกำแพงเลย เรียกว่าไม่มีกำแพงกั้นเลยด้วยซ้ำ

การันตีด้วยชื่อผู้กำกับอย่าง David Fincher รับรองว่าไม่มีผิดหวัง ทั้งความแปลกและความสนุก ใครยังไม่เคยดูต้องรีบหามาดูโดยด่วน

Goodfellas (1990)

อย่าเพิ่งตัดสินว่า The Godfather ว่าคือหนังมาเฟียที่ดีที่สุดถ้าคุณยังไม่เคยดู Goodfellas!

Goodfellas หรือ คนดีเหยียบฟ้า (แค่ชื่อไทยก็รับประกันความเดือดแล้ว) เล่าเรื่องการไต่เต้าสู่การเป็นมาเฟียของ Ray Liotta โดยเริ่มเล่าตั้งแต่เขายังเป็นเบ๊กระจอก ๆ ในแก๊ง

การ Break the 4th Wall  ในเรื่องนี้จะค่อนข้างแตกต่างจากเรื่องอื่นเพราะมันมาอย่างคาดไม่ถึง เนื่องจากตลอดทั้งเรื่อง Goodfellas ดำเนินเรื่องเหมือนภาพยนตร์ทั่ว ๆ ไป ที่ตัวละครกับคนดูถูกแยกส่วนกัน แต่ฉากในศาลซึ่งเป็นฉากท้าย ๆ ของเรื่องแล้ว ตัวละคร Ray Liotta แทนที่เขาจะพูดคุยกับผู้พิพากษา แต่อยู่ ๆ เขากลับหันหน้าเข้าหากล้องและพูดคุยกับคนดูแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ช็อกคนดูอย่างเราพอสมควร

Goodfellas กำกับโดย Martin Scorsese ซึ่งกำกับเรื่อง The Wolf of Wall Street  ที่ได้กล่าวถึงไปแล้วด้านบน และแน่นอนว่าชื่อนี้ไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน

The Big Short (2015)

ถ้าใครชอบ The Wolf of Wall Street แล้วละก็ ดูเรื่องนี้ต่อได้เลย เพราะทั้งแนวเรื่อง การดำเนินเรื่อง และองค์ประกอบโดยรวมคล้ายกันอย่างมาก

The Big Short ผลงานกำกับของ Adam Mckay ดีกรีรางวัลออสการ์สาขาบทดัดแปลงยอดเยี่ยมในปี 2015 เล่าเรื่องราวของกลุ่มคนใน Wall Street กลุ่มหนึ่งที่ทำนายได้ล่วงหน้าอีกไม่นานวิกฤตเศรษฐกิจ ‘Hamburger’ จะเกิดขึ้น และพวกเขาก็ถือโอกาสกอบโกยทรัพย์ก้อนใหญ่จากการรู้ล่วงหน้านี้

บทบาทของการ Break the 4th Wall  ในเรื่องนี้แตกต่างจากเรื่องอื่น ๆ เพราะผู้กำกับ Adam Mckay ใช้การ Break the 4th Wall  ในการอธิบายศัพท์ต่าง ๆ ในวงการตลาดหุ้นให้คนดูเข้าใจ ซึ่งถือว่าเป็นการใช้การเล่าเรื่องแบบ Break the 4th Wall ได้อย่างชาญฉลาดเลยทีเดียว

เหตุผลหลัก ๆ ที่เหล่าผู้กำกับเลือกใช้วิธีการเล่าเรื่องแบบ Break the 4th Wall  ก็เพราะต้องการให้ตัวละครใกล้ชิดกับคนดูมากขึ้น และเมื่อไม่มีกำแพงกั้นระหว่างกลางแล้วคนดูก็จะมีอารมณ์ร่วมกับตัวละครมากขึ้น ซึ่งนับวันยิ่งมีภาพยนตร์ที่ใช้การเล่าเรื่องแบบนี้เยอะขึ้นเพราะโลกภาพยนตร์นั้นก้าวหน้าขึ้นทุกวัน ดังนั้นการเล่าเรื่องตามขนบธรรมเนียมแบบเก่านั้นอาจจะไม่ดึงดูดผู้ชมได้เหมือนก่อนแล้ว และไม่แน่ในอนาคตเราอาจจะได้เห็นการเล่าเรื่องที่ล้ำกว่านี้อีกก็เป็นได้

SOURCE 1

SOURCE 2

PERLE
WRITER: PERLE
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line