FASHION

ครีเอทลุค British Icon สุดคลาสสิคที่เท่ได้ทุกยุคทุกสมัยกับ Toni & Guy

By: Thada August 1, 2016


ผู้ชายอย่างพวกเราเมื่อถึงเวลาต้องตัดผม  เรามักจะเดินเข้าร้านพร้อมรูป  Icon  ในดวงใจที่เป็นเหมือนฮีโร่ในด้านการใช้ชีวิต แรงบันดาลใจ สไตล์  รวมถึงด้านทรงผม  เอาไว้ใช้บอกช่างทำผม ว่านี่แหละคือทรงที่อยากได้ และบรรดา icon ที่เป็นสุดยอดตลอดกาลของผู้ชายไทยส่วนใหญ่ก็คือเหล่าศิลปิน นักดนตรีทั้งหลาย โดยเฉพาะนักดนตรีจากฝั่ง   British  ไม่ว่าจะเป็น  Brit-Rock หรือ  Brit-Pop  ผสานด้วยสไตล์การแต่งตัวที่เป็นเอกลักษณ์  ยกตัวอย่างเช่น  The Beatles , Sex Pistols และ Arctic Monkey  ล้วนเกิดมาจากอิทธิพลทางฝั่งเกาะอังกฤษทั้งนั้น  ดังนั้นวันนี้ UNLOCKMEN จึงขอเสนอ 3 Styles Dresscode + Hairstyle จาก 3 ศิลปิน Brit Icons ผู้มีอิทธิพลและสไตล์โดดเด่น ที่ยังคงความคลาสสิค สามารถเอาไปปรับใช้ได้แม้ในเทรนด์แฟชั่นปัจจุบัน

John Lennon – The Beatles

160729-toniandguy-4
ไอคอนคนแรกๆ ของโลก  หัวหอกคนสำคัญแห่งวงการเพลง  รวมถึงนักเคลื่อนไหวทางสังคม  John Lennon นักร้องนำวง  The Beatles ที่โด่งดังอย่างมากในยุค 60s ถึงขั้นมี  Beatlemania ไม่ว่าจะทำอะไร สิ่งนั้นก็ดูจะกลายเป็น  iconic ไปหมด  ด้วยภาพลักษณ์การแต่งตัวที่เป็นเอกลักษณ์ในสูท  Slim Cut  พอดีตัว มีความพิถีพิถันให้กับโครงสร้างของเสื้อผ้า  พร้อมสวมใส่รองเท้าหนังในแบบฉบับผู้ดีอังกฤษ และจุดเด่นที่เป็น  Signature ของ  John Lennon ที่ขาดไม่ได้เลยอีกชิ้นคือแว่นตาทรง  Round Shape

160729-toniandguy-2

เรื่องทรงผมก็เป็นหนึ่งไฮไลท์ของ John Lennon โดยทรงผมที่เขาทำตั้งแต่ในยุคแจ้งเกิดจนถึงยุคพีคกับ The  Bealtes และทำให้ผมทรงนี้ดังขึ้นมาก็คือ Mop-Top หรือผมบ๊อบทรงกะลาครอบในช่วงอัลบั้ม  Please Please Me และ  A Hard Day Night ซึ่งฮิตถึงขนาดมีการผลิต  Beatle Wigs ขายกันอย่างจริงจัง เป็นทรงขัดใจรัฐบาลประเทศ  Communist เป็นอย่างมาก เพราะถือว่าเป็นการแสดงออกถึงความกบฏทางนึง ใครตัดหรือใส่วิกทรงนี้จะโดนจับไปตัดผมในสถานีตำรวจทันที  แต่สุดท้ายทรง Mop-Top ก็เอาชนะได้ทั้งการเมืองและระยะเวลา เป็นสไตล์และทรงผมที่ยังน่าสนใจแม้ในสมัยนี้

วิธีการทำทรง Mop Top  2016

Step 1 :  เริ่มจากเป่าผมให้มาดๆ พร้อมเอามือสางไปยังด้านที่ต้องการ

Step 2 :  ฉีด Dry Shampoo เพิ่มวอลลุ่มให้ผมจากนั้นก็ขยำๆ ดึงโคนผม

Step 3 :  ถูแว๊กซ์ลงบนฝ่ามือ จากนั้นก็สางตามแนวผมที่ต้องการ

Step 4 :  ใช้นิ้วขยี้ปลายผมเป็นช่อ เพื่อให้ทรงผมเกิดวอลลุ่ม

Step 5 :  ฉีด Toni & Guy Extreme Hold Hairspray บนฝ่ามือหรือนิ้ว จากนั้นก็ลูบเสยไปในทิศทางที่ต้องการ เพื่อล็อคให้ผมอยู่ทรงตลอดทั้งวัน

JSK_1589

 

Sid Vicious – Sex Pistols

160729-toniandguy-5
ไอคอนตลอดกาลแห่งวงการ  Punk  ที่แม้แต่คนฟัง  K-Pop ยังต้องรู้จัก  เป็นมือเบสน้อยคนนักที่จะเด่นดังกว่านักร้องนำของวง  Sex Pistols  แม้ว่าเขาจากโลกนี้ไปด้วยวัยเพียงแค่ 21 ปี   แต่เขาก็ยังถูกยกย่องให้เป็นสัญลักษณ์ของ Punk และความขบถต่อสังคม  มีความเป็นตัวของตัวเองสูงทั้งในด้านการใช้ชีวิตและแฟชั่น  สไตล์การแต่งตัวของ Sid Vicious  มีอิทธิพลต่อ  Punk-Style  ลามไปถึงวงการ  Rock n Roll  ด้วยความดิบๆ ง่ายๆ อย่าง  Biker Jacket ทับอยู่บนเสื้อกล้ามขาวขาดๆ ที่อาจจะ  DIY ด้วยการหาหมุด เลื่อม เพชร มาติด ใส่กับกางเกงสีดำ รองเท้า  Dr. Martens รุ่น 1460 คุณก็จะมีสไตล์แบบ Sid Vicious ในเวอร์ชั่น 2016 ที่ไม่มีตกยุค

160729-toniandguy-1
พอไล่ลงมาดูถึงทรงผมวัฒนธรรม  Punk  มีทรงผมที่ค่อนข้างเฉพาะทางอยู่แล้วนั้นคือทรงแบบ  Spike Punk  หรือทรงผมชี้แหลมๆ ทั้งหัว  แต่ถ้าเกิดจะมาทำแบบ Sid Vicious ในยุคนี้ เราเองก็ไม่แนะนำสักเท่าไหร่ และอาจจะไม่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ประจำวันด้วย  เราจึงขอปรับเปลี่ยนทรงมาเป็นแบบ  Mess Spiky Hair  ซึ่งให้ความทันสมัยกว่า แต่ก็แฝงไว้ด้วยกลิ่นอายของความโดดเด่นจากคนทั่วไป 

วิธีการทำทรง Mess Spiky Hair

Step 1 : เป่าให้แห้งโดยพยายามเป่าเสยให้ผมตั้งชี้ฟูเพื่อง่ายต่อการเซ็ต

Step 2 : ป้ายแว๊กซ์ลงบนฝ่ามือโดยใช้วิธีการขยี้ และขยำบริเวณโคนผมเพื่อให้เกิดวอลลุ่ม

Step 3 : จับปลายผมเป็นช่อๆ ให้ปลายแหลมตั้งขึ้น ระวังเรื่องปริมาณแว๊กซ์ที่ใช้ อย่าใช้เยอะเกินไปเพราะจะทำให้ผมหนักและตั้งไม่ขึ้น

Step 4 : ฉีด Toni & Guy Extreme Hold Hairspray เพื่อให้ผมที่ตั้งชี้ อยู่ทรงตลอดทั้งวันไม่มีล้ม

JSK_1731

 

Alex Turner – Arctic Monkey

160729-toniandguy-6
Frontman  ผู้มีความเป็น  Fashionista ในแบบของตัวเองชนิดไม่เคยตามใคร  Alex Turner จากวง  Arctic Monkey ที่ได้รับการยอมรับด้วยลีลาสุดเท่บนเวที พร้อมทั้งพรสววรค์ทางด้านการแต่งเพลงและดนตรี  รวมถึง  Style ที่เท่และโดดเด่นจนหาตัวจับยาก เช่นเดียวกับศิลปินแห่งยุค  Renaissance เขามีส่วนผสมของสไตล์การแต่งตัวแบบ  Hybrid ระหว่าง Rockbilly และ 50s Style ซึ่งหากใครที่อยากมีสไตล์เหมือนกับ  Alex Turner เพียงหาเสื้อเชิ้ตแขนสั้นผ้าเนื้อผสมแบบ Woven ซึ่ง Alex จะไม่ใส่ Slim Fit ดังนั้นเราจึงต้องหาทรงที่เป็นแบบ  Regular Fit พับแขนยัดเสื้อใส่ในกางเกง โชว์หัวเข็มขัดใหญ่ๆ ใส่กับกางเกงสแล๊ค หรือยีนส์ขาตรง ที่สำคัญสำหรับท่อนล่างคือถุงเท้าขาวยาว และรองเท้า Dress Shoes

160729-toniandguy-3

ส่วนทรงผมของ Alex Turner คือทรง  Elephant Trunk  เหมือนอย่างเช่น  Elvis Presley และ James Dean เลย   ส่วนเราจะทำให้  Wet หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กลับความชอบของแต่ละคน

วิธีการทำทรง Elephant Trunk

Step 1 : เป่าผมและใช้หวีหรือแปลงยกโคนให้ผมไปด้านหลังจนได้ทิศทางที่ต้องการ

Step 2 : นำ Clay ถูให้ทั่วมือลูบไปตามเส้นผมเสยไปด้านหลัง เหลือบริเวณปอยผมหน้าไว้

Step 3 : ลูบเก็บผมด้านข้างให้เรียบร้อย

Step 4 : ใช้หวีซี่ถี่จัดเก็บทุกสัดส่วน ฉีด Toni & Guy Extreme Hold Hairspray บนฝ่ามือหรือนิ้วเพื่อลูบเก็บความเรียบร้อย

Step 5 : ดึงผมหน้าลงมาให้เป็นลักษณะ Curl

Step 6 : ฉีด Toni & Guy Extreme Hold Hairspray  อีกครั้งเพื่อล็อคให้ผมอยู่ทรงทั้งวัน

JSK_1930

ทั้งหมดนี้ก็เป็น  Brit Icons ทั้ง 3 สไตล์ ที่เราเอาชนะกาลเวลา นับว่าเป็นทรงผมที่เข้าข่าย  Vintage  คือเก่าแต่ยังคงความเท่แบบคลาสสิค สามารถเอาไปทำเองได้ที่บ้านโดยไม่ต้องง้อช่างทำผมให้ยุ่งยาก  และไม่ว่าจะเป็นผมทรงไหนก็ตาม  สิ่งสำคัญที่สุดของทุกขั้นตอนก็คือการใช้  Hairspray เพื่อล็อคทรงผมที่ได้ผ่านการเช็ตให้อยู่ทรงได้ตลอดทั้งวัน เพราะในแต่ละวัน มีหลายปัจจัยที่อาจทำให้ผมของคุณเสียทรงระหว่างวันก่อนไปถึงที่หมายได้  ไม่ว่าจะเป็นลมพัด อากาศร้อนทำให้เหงื่อออกจนผมเสียทรงได้    อย่างในบทความนี้ เราเลือกใช้  Extreme Hold Hairspray ของ Toni & Guy จากประเทศอังกฤษ  ที่มีระดับความ Hold สูง  ล็อคทรงผมทุกรูปแบบให้เป็นทรงได้ตลอดทั้งวัน ไม่ทิ้งคราบขาว หรือกลิ่นเหม็นให้รำคาญใจ  ไม่ต้องกังวลเรื่องผมเสียทรงระหว่างวันด้วย

tonypackshot

สำหรับใครที่สนใจ  Toni & Guy Extreme Hold Hairspray  สามารถหาซื้อได้ง่าย  ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าและห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป  หรือถ้าไม่อยากออกเดินทางไปไหน ก็สามารถสั่งซื้อที่ช่องทางออนไลน์ของ  Zalora  ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Extreme Hold Hairspray ได้ที่  Toni and Guy Facebook

Thada
WRITER: Thada
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line