CARS

BYTON M-BYTE SUV รถยนต์พลังงานไฟฟ้าล้ำสมัย พร้อมกับฉายา “คู่แข่งของ TESLA”

By: TOIISAN February 21, 2019

ในยุคสมัยที่ไม่ว่าอะไรก็ต้องมีเรื่องของเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้เหล่าผู้ผลิตทุกวงการต่างต้องปรับตัวให้ทันกับโลกที่หมุนไปอย่างรวดเร็ว รวมถึงบริษัทใหม่ ๆ ที่เล็งเห็นถึงประโยชน์ของเทคโนโลยีที่สามารถนำมาสร้างสรรค์เป็นผลงานที่ล้ำสมัยและน่าทึ่งอย่าง Byton

LA Auto Show

Byton บริษัทผู้ผลิตและออกแบบรถยนต์น้องใหม่ที่เกิดจากการร่วมทุนกันระหว่าง Future Mobility Corp บริษัทผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของไต้หวัน และ Tencent Holdings บริษัทไอทียักษ์ใหญ่ของจีนผู้ผลิตแอปพลิเคชั่นเพลงออนไลน์อย่าง Joox รวมถึงเกมสุดฮิต Garena Rov และแอปพลิเคชั่นสำหรับแชทที่นิยมในจีนอย่าง WeChat โดยพวกเขาพร้อมเปิดตัวและจำหน่ายรถยนต์ที่เต็มไปด้วยเทคโลยีในประเทศจีนช่วงปี 2019 และวางแผนจะลุยตลาดสหรัฐฯ และยุโรปในปี 2020

บริษัทผู้ผลิตตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงในโลกของเทคโนโลยีที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันอะไรที่เป็นจอภาพแสดงผลจะต้องมีขนาดใหญ่ไว้ก่อนและเข้าถึงง่าย จึงเกิดไอเดียให้บริษัทผลิตหน้าจอรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาภายในรถยนต์ที่ว่ากันว่าจะกลายมาเป็นคู่แข่งของ Tesla อย่าง Byton M-Byte SUV

scmp

นอกจากจะเป็นการร่วมกันของสองบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีความถนัดในแต่ละด้านแล้ว Byton ยังดึงคนจากแบรนด์รถยนต์ชื่อดังระดับโลก bmw อย่าง Daniel Kirchert ผู้บริหารฝ่ายขาย BMW ในประเทศจีน และ Carston Breitfeld ผู้จัดการโปรเจกต์การพัฒนา BMW i8 มารับหน้าที่เป็นผู้บริหารในครั้งนี้

ในขั้นต้น Byton M-Byte SUV จะมาพร้อมกับเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ Level 3 และระบบที่พร้อมจะอัปเกรดซอฟท์แวร์ให้เป็น Level 4 พร้อมแบตเตอรี่ที่มีให้เลือก 2 แบบด้วยกัน คือ แบตเตอรี่ 71 กิโลวัตต์/ชม. รองรับการวิ่งสูงสุด 400 กิโลเมตร ส่งกำลังด้วยล้อคู่หลัง และอีกแบบหนึ่งคือแบตเตอรี่ 95 กิโลวัตต์/ชม. รองรับการวิ่งสูงสุดที่ 523 กิโลเมตร ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ

autocar

New Atlas

Byton M-Byte SUV จะมีรูปร่างที่เพรียวกว่า SUV ระบบเครื่องยนต์เบนซิน-ดีเซล ของแบรนด์อื่น ๆ ซึ่งถึงจะเล็กกว่าแต่ก็เต็มไปด้วยเทคโนโลยี เช่น ไฮไลต์อย่างหน้าจอ Experience Display ขนาดใหญ่กว่า 48 นิ้วในรูปแบบ Dashboard ที่ดูเหมือนว่าหน้าจอขนาดใหญ่นี้ยังไม่จุใจ

ผู้ผลิตยังใส่หน้าจอขนาด 8 นิ้ว แบบทัชสกรีนไว้บนพวงมาลัยเพื่อให้รถยนต์คันนี้ตอบโจทย์เรื่องเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากที่สุด พร้อมกับระบบเสริมต่าง ๆ อย่างความสามารถในการตรวจวัดความดันของร่างกาย วัดอัตราการเต้นของหัวใจ น้ำหนักตัว และวัดปริมาณออกซิเจนในเลือดของผู้ขับขี่ได้

The Verge

ในตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ยี่ห้อใดก็ตามต่างก็ทำให้รถของตัวเองสามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันบนมือถือได้ โดย CEO ของบริษัทอย่าง Daniel Kirchert กล่าวว่าทางบริษัทเห็นถึงความจำเป็นที่จะทำให้รถเป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีในชีวิตประจำวันราวกับว่ารถเหมือนเป็นโทรศัพท์เครื่องที่สอง หรือ สมาร์ตโฟนเวอร์ชั่นติดล้อ โดยคาดว่าจะมีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 45,000 ดอลลาร์ หรือราว 1,500,000 บาท

Byton มีทีมพัฒนาระบบขับขี่อัตโนมัติ เซ็นเซอร์ และระบบอื่น ๆ มาจากสำนักงานใหญ่ในสหรัฐฯ และแพลตฟอร์มของตัวรถจะต้องไปทำจัดการข้อมูลที่ศูนย์พัฒนาในประเทศเยอรมนี พร้อมกับการทำงานร่วมกับบริษัทข้ามชาติอีกหลายเจ้า เพื่อที่จะทำให้ Byton M-Byte SUV กลายเป็นรถที่ฉลาดที่สุด

techcrunch

อย่างไรก็ตามไม่ใช่แค่กับ Byton เท่านั้นที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของเทคโนโลยียานยนต์ เพราะผู้ผลิตรถยนต์หลายรายได้ทยอยกันเปิดตัวรถยนต์พร้อมกับความล้ำสมัยกันอย่างต่อเนื่อง อย่างโตโยต้าที่เพิ่งเปิดตัว Android Auto กับการร่วมมือกับแอปพลิเคชันดูหนังชื่อดัง Netflix หรือแบรนด์รถมอเตอร์ไซค์ในตำนานอย่าง Audi ก็ร่วมมือกับทาง Disney สร้างความบันเทิงบนรถยนต์ด้วยเครื่องเล่น VR

สิ่งที่ตามมาในเรื่องของเทคโนโลยีที่มากเกินไปในรถยนต์คือปัญหาความปลอดภัยขณะขับขี่ มีผู้คนจำนวนมากที่ตั้งคำถามว่าการใส่เทคโนโลยีในยานยนต์ที่มากเกินไปนั้นจะทำให้เกิดอุบัติเหตุง่ายขึ้นกว่าเดิมหรือไม่ และจอแสดงผลขนาดใหญ่กว่า 48 นิ้ว หรือระบบ VR จะดึงสมาธิของผู้ขับขี่มากเกินไปหรือเปล่า

laautoshow

 

 

SOURCE1 SOURCE2

TOIISAN
WRITER: TOIISAN
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line