สำหรับคนที่ยังไม่ได้อ่านบทสัมภาษณ์ของคอลัมน์ Toys For Boys ตอนล่าสุด กดอ่านตรงนี้ก่อนเลยครับ 911 ASSISTANT เพราะเราบุกไปคุยกับ 911 ASSISTANT สถานที่ซึ่งเป็น PORSCHE Specialist ประสบการณ์กว่า 15 ปี ดูแลรถ PORSCHE ได้ทุกรุ่น สถานที่ซึ่งมีจุดเริ่มต้นมาจากแพชชั่นของผู้ชายคนหนึ่งที่หลงใหลใน PORSCHE และไม่เคยเบนเข็มไปแบรนด์อื่นอีกเลย UNLOCKMEN ขอให้ทาง 911 ASSISTANT เล่าความหลงใหลนั้นผ่านรถในโปรเจกต์พิเศษ 3 คัน และ RUF RT12S ก็คือหนึ่งในรถจากสามคันนั้น ที่เล่าความเป็นแบรนด์ RUF แบรนด์รถเยอรมันที่คนรัก PORSCHE ต้องรู้จัก และเมื่อเราพูดถึงความเป็น Completed Car ของแบรนด์ RUF เป็นรถที่ทุกส่วนคือความเป็น RUF อย่างแท้จริง ก็จำเป็นจะต้องยกรถที่ 911 Assistant ภูมิใจอย่าง RUF RT12S ขึ้นมาเป็นตัวอย่างประกอบด้วย และนี่คือรถไฮไลต์สำคัญที่พา
เนื่องจากว่าบทสัมภาษณ์ Toys For Boys ตอนล่าสุด ที่ UNLOCKMEN บุกไปคุยกับ 911 ASSISTANT ถึงความหลงใหลในแบรนด์ PORSCHE มีความยาว (มากกก) เราจึงทำการแบ่งออกมาทำเป็นบทความ Spin-Off ที่พูดถึงรถ Special Project ที่คุยกันอย่างเดียวไปเลย (มีทั้งหมด 3 คัน) และ 1991 964 TURBO ก็เป็นรถ Conversion ที่แสดงความหลงใหลในแบรนด์ PORSCHE และแบรนด์ RUF ของ 911 ASSISTANT ได้ดีที่สุดคันหนึ่งเลยล่ะ สิ่งไหนคือความเป็น RUF แบรนด์รถเยอรมันที่เคารพในความเป็น PORSCHE มาตลอดตั้งแต่เริ่มต้นทำแบรนด์ตั้งแต่ Day1 ที่ถึงแม้ว่าพอทำรถ RUF เป็นของตัวเองแล้ว ก็ยังคงได้รับแรงบันดาลใจจาก Heritage Story มาจาก PORSCHE อยู่ รถรุ่น 964 TURBO
ถ้าคุณเป็นคนที่หลงใหลใน PORSCHE นั่นเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่เคยได้ยินชื่อของ 911 Assistant ไม่ใช่แค่สักครั้งหรือสองครั้ง แต่ได้ยินมาตลอดไม่ต่ำกว่าสิบหรือยี่สิบครั้งแน่ ๆ แต่หากว่าคุณยังไม่รู้จัก 911 Assistant ทั้ง ๆ ที่รัก Porsche นั่นก็ไม่เป็นไรเลย แค่เลื่อนลงไปอ่านบรรทัดถัดไปก็จะทำให้รู้จักมากขึ้นแล้ว 911 Assistant เป็น Porsche Specialist ที่ดูแลครบวงจร One-Stop-Service มาตลอด 15 ปี (ด้วยประสบการณ์ 20 ปี) มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษสำหรับเครื่องยนต์ Air-Cooled มีแผนกซื้อ-ขาย มี Workshop 16 ช่องซ่อม ที่รองรับตั้งแต่การบำรุงรักษาทั่วไป อัปเกรด ไปจนถึง Restoration Porsche Classic สามารถดูแล PORSCHE ได้ทุกรุ่นตั้งแต่รุ่นแรกจนถึงโมเดลปัจจุบัน อย่างที่โปรยเอาไว้ใน Headline ของบทความนี้ Toys For Boys ตอนใหม่เราบุกไปถึงที่ทำการของ 911 Assistant
Harley-Davidson เปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ล่าสุด เสริมทัพคอลเลคชันลิมิเต็ดอิดิชันอย่าง Icons และ Enthusiast ที่มาพร้อมสีพิเศษระดับพรีเมียม การออกแบบด้วยแถบกราฟิก และเทคโนโลยีการลงสีที่ล้ำสมัย ถูกผลิตออกมาในแบบคัสตอมจากโรงงาน รถมอเตอร์ไซค์รุ่นพิเศษ Icons Collection: สี Hydra-Glide Revival การเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์รุ่นพิเศษ Icons Collection สี Hydra-Glide Revival ปี 2024 หรือรุ่นที่ 4 จาก Icons Collection ของ Harley-Davidson ถือเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 75 ปีของการคิดค้นระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบก้าน Hydra-Glide สำหรับรถมอเตอร์ไซค์รุ่น E และรุ่น F ในปี 1949 ซึ่งหลังจากเปิดตัวระบบกันสะเทือน Hydra-Glide ในรถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson รุ่น FL นักขับขี่ชาวอเมริกันจำนวนมากเริ่มออกไปผจญภัยบนเส้นทางใหม่ ตามถนนทางหลวงอินเตอร์สเตต (Interstate highways) สำหรับรถมอเตอร์ไซค์สี Hydra-Glide Revival ปี
1 ใน 399 road-legal BMW M1 ในจำนวนนี้มีบอดี้สี Silver Polaris metallic ออกจากโรงงานเพียง 3 คัน นี่คือตำนานที่ถูกพัฒนาและสร้างขึ้นภายใต้ทีม M Division ตามข้อบังคับ homologation โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อการคว้าชัยชนะในโลกแห่ง motor sports จากเดิมที่ BMW แพลนจะร่วมมือกับ Lamborghini ในการพัฒนาโครงสร้าง mid-engine layout chassis แต่ด้วยปัญหาทางการเงินของค่ายรถจาก Italy ทำให้ BMW นำ M1 กลับมาพัฒนาทั้งหมดแบบ in-house อีกครั้งในปี 1978 และในที่สุด M Division ก็สามารถสร้างรถที่มาทดแทน BMW 3.0 CSL race cars ได้สำเร็จ Giorgetto Giugiaro ออกแบบ BMW M1 ได้อย่างน่าประทับใจทั้งดีไซน์ที่สวยงามสร้างจาก
Mercedes-Benz 190E 2.5-16 Evolution I & II ผลงานอันยอดเยี่ยมที่เกิดจากข้อบังคับ homologation เช่นเดียวกับ Renault’s R5 Turbo, Audi Sport Quattro, BMW E30 M3 ร่างทองของ Baby Benz เปิดตัวห่างกัน 1 ปี 190E 2.5-16 Evolution I ถูกสร้างขึ้นในปี 1989 จำนวน 502 คัน ชุดแต่ง aerodynamic pack ถูกติดตั้งให้รองรับสมรรถนะของเครื่องยนต์ 2.5-liter 4 สูบเรียงที่ผ่านการอัพเกรดให้มีรอบที่จัดจ้านและมีกำลังให้ใช้มากขึ้น ทำให้ผู้คนในงาน Geneva Motor Show ต่างจดจำร่างโหดของ 190E ที่ดูยังไงเหมือนคล้าย DTM cars 190E 2.5-16 Evolution I ทำผลงานได้ดีในปีนั้น
เมื่อคืนก่อนไถ X (Twitter) ไปเจอ Fact น่าสนใจที่ว่า Sydney Sweeney นักแสดงคนโปรดของเราจากซีรีส์ Euphoria เป็นแฟนคลับ Ford วินเทจแบบตัวยง คือเธอมีทั้ง Classic Mustang ในครอบครอง และเมื่อปลายเดือนมกราที่ผ่านมาถึงกับมีคอลแลบทำรถรุ่นพิเศษ Mustang GT กับ Ford ออกมาด้วย ! จุดเริ่มต้นความหลงใหลในยนตกรรมของ Ford เริ่มต้นจากการที่ช่วงหนึ่งเธอได้ไปเรียนขับรถกับปู่ทวด ซึ่งเป็นรุ่นกระบะ Ford F-100 ที่ซิดนีย์ก็ยังครอบครองรถคันนั้นมาจนถึงทุกวันนี้ ต่อยอดจากความหลงใหล ช่วงเวลาที่ Covid-19 ระบาดหนัก ๆ ซิดนีย์ซื้อ Ford Bronco (1969) ที่ต้องเอามาบูรณะทั้งคันเลยล่ะ และตรงนี้เป็นจุดสำคัญที่จะทำให้เธอได้ทำงานร่วมกับ Ford ในเวลาต่อมา ซิดนีย์เปิดแอคเคาต์ TikTok ชื่อ @syds_garage เพื่อทำคอนเทนต์ Restoration Car โดยเฉพาะ เท่มาก ! และหลังจากเปิดแอคเคาต์ได้ไม่นาน
ต่อจากบทความ Toys For Boys ที่ UNLOCKMEN พาทุกคนไปคุยกับ ‘หมอโดม Dogtor Garage’ ถึงความผูกพันของเขากับ Ford Mustang ตั้งแต่จุดเริ่มต้น ข้อที่ควรรู้สำหรับคนที่อยากขับ Mustang ในครั้งนี้เรามาดูกันว่าสเปกรถ 1966 Ford Mustang (1st Generation) Convertible ของหมอโดม เจ้าม้าป่าคันนี้ผ่านการคัสตอมด้วยฝีมือของหมอหมาการาจอย่างไรบ้าง ! จริง ๆ แล้ว Original ของคันนี้คือ Ford Mustang (1966) Hardtop แต่ที่เห็นว่าเป็นรถเปิดประทุน เพราะว่าเราเอามาทำการคัสตอมเอง ตัดหลังคา ซื้ออะไหล่เปิดประทุนเข้ามาใส่ ดามโครงสร้างจัดการตามระบบสากล ออกมากลายเป็น Ford Mustang (1966) Convertible ตอนที่ได้มาครั้งแรกเครื่องยนตร์ตามออริจินอลเป็นแบบ 6 สูบเรียง การใช้งานจริงจึงอาจจะยังไม่ตอบโจทย์กับความเป็น Daily Driver ของเราเท่าไหร่ ก็เลยจัดการเปลี่ยนเครื่องเป็น 2Jz VVTi
ในปี 2018 เราเคยคุยกับ ‘หมอโดม Dogtor Garage’ (สุทธิพงษ์ ธีติปริวัติร์) กันมาแล้วถึงชีวิตจากสัตว์แพทย์สู่หมอดัดแปลงรถยนตร์ที่ทำรถมาแล้วทุกชนิด (ใครยังไม่ได้อ่านกดตรงนี้) ล่าสุดปี 2024 ทีม UNLOCKMEN มุ่งหน้าออกจากกรุงเทพสู่นครปฐม ปัก Google Maps ไปที่ Junkyard Car’fe สวนสาธารณะรถเก่าของหมอโดมอีกครั้ง เพื่อตั้งใจที่จะหาคำตอบให้กับสิ่งที่สงสัยมานาน แต่เมื่อ 6 ปีที่แล้วไม่ได้ถามออกไป “ทำไมหมอโดมถึงได้รักรถ Classic Mustang กันนะ ?” นี่คือบทสัมภาษณ์ Toys For Boys ตอนล่าสุด ที่ไม่ว่าคุณจะเป็นคนรักรถ Classic Mustang แล้วกำลังตัดสินใจจะเริ่มโปรเจกต์ม้าป่าตัวนี้เป็นของตัวเองสักคัน หรือว่าเพียงแค่ชอบได้มองรถ Classic Mustang เฉย ๆ เพราะว่าเป็นรถอเมริกันมันเท่ดี ห้ามพลาด ! เราให้หมอโดมเปิดคัมภีร์รถนิยมว่าด้วย Classic Mustang โดยเฉพาะ เอาตั้งแต่เตรียมตัวอย่างไร ใช้เงินเก็บเท่าไหร่ ต้องรู้อะไรบ้าง
โปรแกรม BMW Driving Experience เป็นโปรแกรมฝึกอบรมการขับขี่รถยนต์อย่างถูกต้องและปลอดภัย เพื่อให้ผู้ขับสามารถประเมินสถานการณ์และรับมือได้อย่างเหมาะสม โดยโปรแกรมดังกล่าวเริ่มขึ้นครั้งแรก เมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2520 ในประเทศเยอรมนี ซึ่งดำเนินการโดย BMW Motorsport GmbH ด้วยเป้าหมายที่ยังคงสืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน นั่นคือ การถ่ายทอดองค์ความรู้ที่ใช้สำหรับการฝึกอบรมนักแข่ง มาให้แก่ผู้ใช้ยานพาหนะทั่วไป เพื่อยกระดับศักยภาพระหว่างคนกับรถยนต์ ให้ได้ทักษะการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ สำหรับในประเทศไทย ทางบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ได้จัดคอร์สฝึกอบรม BMW Driving Experience ครั้งแรกในเดือนกันยายน พ.ศ. 2547 โดยปีนี้นับเป็นปีที่ 20 ของกิจกรรม BMW Driving Experience ในประเทศไทย ซึ่งได้มีการยกระดับรูปแบบของโปรแกรมให้มีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้นและขยายศักยภาพในการรองรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ถึง 30 คน ภายใต้ความร่วมมือของผู้สนับสนุน 3 ราย ได้แก่ อีโวลท์ เทคโนโลยี จำกัด, มิชลิน ประเทศไทย และบีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล
ในยุคสมัยก่อนที่ AMG จะรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของ Mercedes-Benz ยังเป็นสำนักแต่งที่มีอิสระในการเพิ่มสมรรถนะให้กับรถรุ่นไหนก็ได้ตามต้องการ อย่างที่เคยบอกไปว่าในช่วงปี 1980s หากคุณมีเงินมากพอ จะแต่งรถ Benz ทุกรุ่นให้แรงแค่ไหนก็เสกได้โดย AMG ซึ่งในปีนั้นทีมได้สร้าง “Hammer Wagon” ออกมาหนึ่งคันให้กับลูกค้า วางเครื่องยนต์ M117 V8 6.0-liter DOHC 32-valve ขึ้นมาในราคา $190,000 ซึ่งถือว่าแพงมาก ๆ ในยุคนั้น หลังจากสร้าง Hammer Wagon ทีม AMG ก็เกิดไอเดียอยากสร้าง Sport Wagon ออกมาอีกหนึ่งคัน แต่คราวนี้เลือกใช้เครื่อง 6.0-liter V8 SOHC 16-vlave 310 แรงม้า ซึ่งประหยัดทั้งเวลาและราคาลงไปได้เยอะเพราะไม่ต้องรออะไหล่จาก Affalterbach สำนักงานใหญ่ สามารถตั้งราคาขายได้ที่ $100,000 ซึ่งแน่นอนว่ามีลูกค้ารอเป็นเจ้าของทันที โดยใช้ตัวถัง triple-black 300 TE wagon นำมาวางเครื่องใหม่พร้อมจูนระบบเกียร์ให้ตอบสนองกับความแรงที่เพิ่มขึ้นได้อย่างเหมาะสม
BMW เปิดตัวขวัญใจพ่อบ้าน 2025 5 Series Touring มาตามนัดทั้งเครื่องยนต์ plug-in hybrid และ EV พกแรงม้ามาสูงสุดถึง 593 hp เป็น Sleeper ที่แรงสะใจพ่อบ้านสายซิ่ง มิติตัวถังของ 5 Series Touring มีความยาวถึง 199 นิ้ว เกือบจะเท่า BMW 7 Series G11 รุ่นก่อนได้เลย มีความกว้าง 74.8 นิ้ว และสูง 59.6 นิ้ว ด้านท้ายใส่สัมภาระได้จุใจถึง 20.1 ลูกบาศก์ฟุต และสามารถพับเบาะหลังเพิ่มความจุได้มากถึง 60 ลูกบาศก์ฟุต ได้เท่ากันไม่ว่าจะเลือกเครื่องยนต์เผาไหม้หรือไฟฟ้า จุของเยอะกว่า Audi A6 Avant แต่ยังน้อยกว่า E-Class Estate แบบไม่ Hybrid นิดหน่อย ตัวท็อปสุด i5