มินิ คูเปอร์ เอส คลับแมน Untold Edition เป็นรถยนต์พรีเมียมคอมแพ็คที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยแนวหลังคาที่ทอดยาวสะท้อนถึงความสะดวกสบายในห้องโดยสาร ภายนอกโดดเด่นและสะกดทุกสายตาบนท้องถนนกับชุดแต่งแอโรไดนามิกส์ในสไตล์จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ สะท้อนภาพลักษณ์สุดโฉบเฉี่ยวและปราดเปรียว ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร มอบพละกำลังที่ 141 กิโลวัตต์ / 192 แรงม้า ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ได้ใน 7.2 วินาที และทำความเร็วได้สูงสุดถึง 228 กม./ชม. ภายนอกมาในสีเขียว Sage Green metallic พร้อมดีไซน์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ตกแต่งด้วยลวดลาย Untold Edition ตั้งแต่ฝากระโปรงหน้ารถจรดหลังคา ซุ้มล้อและสเกิร์ตด้านล่างรอบคันมาในสีเขียวเข้มเสริมความโดดเด่น ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วลาย Untold Spoke ในสีดำ Jet Black ตัดกับสี Refined Brass โดยสี Refined Brass
One of only two examples modified by the factory to LM specifications Equipped with unrestricted GTR racing engine and Extra-High Downforce Kit One of 64 road cars built; total of only 106 examples Ultra-rare McLaren F1 LM Specification สุดยอดความแรร์ 2 คันในโลก ที่มีมูลค่าประมูลในปี 2019 ราคา $19.8 ล้านเหรียญ หรือราว 682 ล้านบาท หากซื้อขายกันในปุจจุบันผ่านไป 3 ปี น่าจะยิ่งแพงกว่านี้อีก 30% หรือเกินกว่า
ในที่สุด BMW M4 CSL ก็มาถึงแล้ว ความแรงที่สัมผัสได้ตั้งแต่ดีไซน์ด้านนอก เป็นรถที่ทำเวลา Nurburgring’s Nordschleife circuit ได้เร็วที่สุดในตระกูล BMW เท่าที่เคยมีมา ด้วยสถิติใหม่ 7 นาที 15.677 วินาที BMW M4 CSL ใช้เครื่องยนต์ B58 twin-turbocharged 3.0-liter 543 hp, 649 Nm or torque ตั้งแต่ 2,750 rpm อัด boost pressure เพิ่มเป็น 30.5 psi ในตัวถังที่ลดน้ำหนักให้เบาลงกว่า M4 Competition ได้ถึง 109 กิโลกรัม ด้วยการรื้อเบาะหลังออกเปลี่ยนเป็นที่เก็บ helmet ใช้วัสดุ carbon-fiber-reinforced plastics (CFRP) ในหลายจุดของรถ ส่งกำลังลงสู่ล้อหลังด้วยเกียร์ M
แม้เศรษฐกิจใจโลกจะแย่แค่ไหน แต่สำหรับกลุ่มนักสะสมรถยนต์ระดับ Ultra-rich ก็ไม่มีคำว่าระคายผิว มูลค่ารถหายากที่ถูกนำมาประมูลยิ่งทำราคาได้สูงลิ่วขึ้นทุกปี และสำหรับรถที่เรียกว่าแพงยับระดับ Ultra-exclusive ที่พึ่งจะเคาะค้อนกันไปล่าสุด ต้องยกให้ที่สุดแห่งความหายาก Mercedes-Benz 300 SLR Uhlenhaut Coupe’ racing car ที่มีเพียง 2 คันในโลก โดยมีข่าวว่า 1 ในนั้นถูกประมูลไปด้วยราคาถึง $142 million USD หรือราว 5 พันล้านบาท จากแหล่งข่าวของวงการนักประมูลรถยนต์บอกว่า Mercedes-Benz ได้เชิญนักสะสมระดับ VVIP ให้เข้าไปเยี่ยมชมรถคันนี้ถึงที่ Mercedes-Benz Museum ใน Stuttgart ก่อนจะปิดการขายอภิมหาดีลครั้งนี้แบบสุด exclusive ซึ่งหากข่าวลือเกี่ยวกับ 1956 Mercedes-Benz 300 SLR Uhlenhaut Coupe “Silver Arrow” racing car เป็นจริง จะขึ้นแท่นรถที่แพงที่สุดในโลก แซงหน้า Ferrari 250
หากพูดถึงประเทศที่โดดเด่นด้านดีไซน์ การออกแบบ และงานศิลป์ คุณนึกถึงประเทศอะไร? แน่นอนว่าประเทศฝรั่งเศสต้องขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่ง ด้วยจุดเริ่มต้นของงานอาร์ตจากภาพแกะสลักอันโด่งดังในถ้ำที่ Lascaux, France ซึ่งถือเป็นงานศิลป์ชิ้นแรก ๆ ในประวัติศาสตร์ที่มีมาตั้งแต่ 17,300 ปีที่แล้ว หรือสถาบัน Fine art แห่งแรกในโลกชื่อ Academie Royale de Peinture et de Sculpture ก็ก่อตั้งในฝรั่งเศสครั้งแรกในปี 1648 ไม่ว่าประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศสจะผ่านอะไรมาบ้างตลอดระยะเวลาถึงปัจจุบัน ศิลปะและดีไซน์จะเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมชิ้นสำคัญที่สอดแทรกอยู่ด้วยเสมอ และมันถูกถ่ายทอดอยู่ใน DNA ของวิถีชีวิต ในสถาปัตยกรรม ข้าวของเครื่องใช้ แฟชั่น ไลฟ์สไตล์ของผู้คน รวมไปถึงรถยนต์ รถยนต์ที่ผลิตในแต่ละประเทศจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป จุดเด่นของรถยนต์ PEUGEOT จากฝรั่งเศส นอกจากจะเป็นแบรนด์รถยนต์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกใบนี้ด้วยตำนานอันยิ่งใหญ่ยาวนานกว่า 212 ปี มีเทคโนโลยีและการผลิตรถยนต์ที่ล้ำหน้า ยังมีความโดดเด่นกว่าใครในด้านการออกแบบดีไซน์ที่สวยงาม มีเอกลักษณ์แตกต่างจากรถยนต์จากประเทศอื่น เป็นการดีไซน์ที่มีทั้ง Form จัดจ้าน แฝงไว้ด้วยอารมณ์ที่สะท้อนแนวคิด คอนเซ็ปต์ คาแรคเตอร์ของรถรุ่นนั้น ๆ จึงมักจะฉีกกรอบเดิม ๆ
Brabus ฉลองครบรอบ 45 ปี ด้วยการสร้างผลงานสุดบ้าระห่ำที่แตกต่างจากที่ผ่านมา นี่คือ Brabus 900 Crawler Supercar ในร่าง Four-seater Dune Racer ที่สร้างทุกรายละเอียดขึ้นมาใหม่เกือบทั้งหมดในจำนวนจำกัดเพียง 15 คันเท่านั้น นอกจากด้านหน้าจะดูคล้าย Mercedes-AMG G63 ส่วนที่เหลือของรถลุยทะเลทรายคันนี้แทบไม่มีอะไรเหมือน G63 เลย โครงสร้างเปลือยเสาแบบ exposed tubular chassis สไตล์ Dune Racer ผลิตจากเหล็กกล้ากำลังสูง (high-intensity steel) พ่นสีโทนแดงที่เป็นสัญลักษณ์ของ Brabus ช่วงล่างยกตัวรถให้มี ground clearance สูงจากพื้นถึง 53 เซนติเมตร ทำให้มันสามารถลุยผ่านได้ทุกอุปสรรค และโช้คอัพยังมาพร้อม Height-adjustable damping แบบเลือกปรับความหนืดสปริงได้สูงสุดถึง 160 มิลลิเมตร เพื่อลดน้ำหนักให้รถเบาที่สุด Brabus เลือกใช้ล้อ Monoblock HD forged ขนาด 40
ใครเคยอยากถอย Toyota Supra แต่ติดที่ไม่มีเกียร์ manual ให้เป็นทางเลือก ข่าวดี เตรียมถอนเงินกันได้เลย เพราะตอนนี้ฝันของคุณเป็นจริงแล้ว แต่ต้องเร่งมือหน่อย เพราะมีจำนวนจำกัดเพียง 500 คันเท่านั้น Toyota ไม่ใช่แค่ใส่เกียร์ Manual ให้เป็นทางเลือกเฉพาะใน 2023 Supra 3.0-liter แต่ยังมีการใส่ตัวช่วยในการทรงตัวใหม่ ๆ และปรับจูนระบบการควบคุมให้เฉียบคมมากยิ่งขึ้นด้วยระบบ Hairpin+ ที่ช่วยกระจายแรงบิดให้ล้อออกจากโค้งหักศอก (hairpin turn) ได้สะใจวัยรุ่นมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ใน Supra 3.0 Manual gearbox ยังได้อัพเกรดเครื่องเสียงเป็น JBL sound system ลำโพง 12 จุดอีกด้วย แล้วเกียร์ Manual ของ 2023 Supra มันมาจากไหน ของ Gazoo เอามาใส่ในระบบ BMW ได้หรือ? เป็นคำถามที่ดี และต้องบอกว่า มันยังคงเป็นเกียร์ Manual
The Koenigsegg Jesko Absolut hardcore hypercar รถที่เร็วที่สุดจากค่าย Koenigsegg ด้วยสมรรถนะระดับ 1,600 horsepower แรงบิด 1,100 lb-ft สะท้อนที่มาของชื่อ Absolut ได้ดีที่สุด Mr. Christian von Koenigsegg ผู้ก่อตั้งเปิดเผยว่านอกจากตัวเลขแรงม้าและแรงบิดของ Jesko Absolut จะน่าตื่นตาตื่นใจ แต่ทีเด็ดของมันอยู่ที่ Top Speed ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีการระบุตัวเลขออกมาอย่างเป็นทางการ เพราะรถยังอยู่ในขั้นตอนทดสอบสุดท้าย (Factory Testing) ก่อนเข้าสู่ขั้นตอนการผลิตจริง วันนี้มีเพียง Markus Lundh นักขับทดสอบเพียงคนเดียวที่ได้เทส Jesko Absolut prototype ในสี Graphite Grey ที่เราเห็นในรูป และรับรู้ว่า hypercar คันนี้บ้าคลั่งขนาดไหน แต่คาดว่าจะมี Top speed มากกว่า 330 mph หรือเกิน 500
หลังจากที่ Rolls-Royce Cullinan เปิดตัวและทำยอดขายถล่มทลายให้กับบริษัทมาตั้งแต่ปี 2018 พร้อมเป็นอีกหนึ่งหัวเรี่ยวหัวแรงในการผลักดันตลาด luxe SUV ให้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดสำนักแต่งรถออฟโรดมือดีแห่งแคว้นบาวาเรีย อย่าง Delta4x4 ได้จับเอา Cullinan มาปรับโฉมจนเรียกได้ว่าพร้อมลงศึก Dakar Rally หรือสามารถยืนหนึ่งเป็นพาหนะคู่ใจของมหาเศรษฐีจากดินแดนที่มีภูมิประเทศสุดหฤโหดได้อย่างสมฐานะ เพราะ Rolls-Royce Cullinan ในเวอร์ชั่นของสำนักแต่ง Delta4x4 คันนี้ได้ถูกปรับโฉมใหม่ให้กำยำล่ำสัน หล่อ หรู ดุดันกว่าที่เคย เริ่มจากยกสูงขึ้นมาเพื่อรองรับล้อ Delta Force Beadlock ขอบ 20” รัดด้วยยาง Mickey Thompson ขนาด 33 นิ้ว พร้อมยึดเกาะทุกพื้นผิวไม่ว่าจะทางถนน ทางฝุ่น หรือหิมะ สิริรวมพื้นที่ ground clearance เพิ่มขึ้นมาอีก 150 มิลลิเมตร พร้อมเปลี่ยนชุดบังโคลนใหม่ให้ต่อกรกับล้อขนาดใหญ่ได้อย่างอยู่มือ ในส่วนของด้านหน้าตัวรถได้มีการเพิ่มเติมท่อ Snorkel และปรับระบบท่อไอเสียใหม่ พร้อมแผงไฟหน้า PIAA จากญี่ปุ่น
ขวัญใจสายแคมป์คันใหม่ Hyundai Staria Lounge Camper รถตู้ตาเรียว edition พิเศษสำหรับคนที่มีแคมป์อยู่ในสายเลือด ใส่มาให้ครบเกือบจะเป็นบ้านหลังที่สอง ทั้งที่นอนหมอนมุ้งและระบบไฟฟ้า บนหลังคาเป็น pop-out roof tent ที่เปิดปิดด้วยระบบไฟฟ้า แถมใส่ air mattress มาให้สำหรับพับเบาะราบแล้วปูนอนในรถ ซึ่งด้วยไซส์ของรถทำให้มีที่นอนเหลือเฟือสำหรับเพื่อนฝูง มีตู้เย็นขนาด 36 ลิตรติดตั้งมาให้แช่เบียร์เย็น ๆ โต๊ะกินข้าวพับได้ ตู้ใส่ของ built-in ไปจนถึงซิงก์ล้างจาน ใครอยากอาบน้ำ ไม่ต้องถือขันตักอาบอีกต่อไป ใน Staria Lounge Camper มีหัวต่อฝักบัวให้ที่ด้านท้ายรถ พร้อม power socket เสียบอุปกรณ์ไฟฟ้าได้ทุกชนิด ฝาท้ายเปิดรับลมได้ไม่ต้องกลัวยุงหรือแมลงเพราะมีตาข่ายมุ้งติดตั้งมาให้เรียบร้อย Hyundai Staria Lounge Camper มีให้เลือกสองรุ่นคือ Camper 11 ราคาในต่างประเทศอยู่ที่ราว 1.3 ล้านบาท และ Camper 4 ที่หรูหรากว่า ในราคาราว
Jaguar XK European ผลงานการ restomod จากสำนักแต่งชื่อดัง “Thornley Kelham” แห่งประเทศอังกฤษ เปิดตัว Restomod division เน้นสร้างสรรค์ผลงานคลาสสิคขึ้นใหม่ให้แตกต่างและทันสมัย ได้อดีตดีไซน์เนอร์ผู้สร้างสรรค์ McLaren P1 และ 720S “Paul Howse” เป็นผู้ปลุกปั้นโพรเจกต์การ redesign Jaguar XK แน่นอนว่าการสร้างสรรค์ผลงานจากตำนานที่ยิ่งใหญ่นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ทุกขั้นตอนต้องคงเอาไว้ซึ่งจิตวิญญาณและจุดเด่นสำคัญ The Jaguar XK European ถูกสร้างขึ้นใหม่ด้วยตัวถัง aluminum ที่ขึ้นรูปเคาะด้วยมือ จึงได้สัดส่วนที่โค้งมน เตี้ยลง และกว้างขึ้น ให้ความสวยงามสะท้อนคุณภาพการ craftsmanship ที่ประณีตจากยุค ’50s ขุมพลังของ Jaguar XK European ใช้เครื่องยนต์เดิม 3.8 ลิตร นำมาปรับแต่งใหม่ทุกรายละเอียดจนได้สมรรถนะ 340 แรงม้า แรงขึ้นกว่าเครื่องเดิมถึง 200 แรงม้า พร้อมช่วงล่างและ disc
Lamborghini เปิดตัว Huracan มาตั้งแต่ปี 2014 ถือเป็น entry-level ขุมพลัง V10 ที่ประสบความสำเร็จแบบสุด ๆ ไม่ว่าจะเป็นรุ่นขับพลังอย่าง EVO หรือรุ่นแรงสุดอย่าง STO สำหรับโมเดลล่าสุดที่ Lamborghini พึ่งจะเปิดตัวไปในรหัส “Huracan Tecnica” เป็นรุ่นที่หยิบเอาจุดเด่นของ STO และ RWD EVO มารวมเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว เรียกว่าเป็น Track-ready road version ก็ไม่ผิด และยังมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดในหลายจุดที่น่าสนใจ ด้านขุมพลัง Lamborghini Huracan Tecnica นิยามรถคันนี้ว่าเป็น “perfect fun-to-drive Huracan,” ใช้เครื่องยนต์ NA 5.2 ลิตร V10 จาก STO ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง Read-wheel-drive และ Rear-steering system จาก EVO กลายเป็น