Work

“4 สิ่งที่ผู้ชายต้องเคลียร์บนโลกออนไลน์” เพื่อสมัครงานครั้งใหม่ให้ผ่านใส ๆ และไม่โดนแฉ

By: PSYCAT May 10, 2018

ทุกครั้งที่สมัครงานครั้งใหม่ หัวใจผู้ชายอย่างเราก็เต้นแรงไม่เป็นส่ำ เพราะลุ้นไปหมดว่าจะได้งานหรือไม่ได้งาน และที่กังวลไม่แพ้กันคือบอสคนใหม่จะกำลังจับตาดูเราบนโลกออนไลน์อยู่หรือเปล่า ? UNLOCKMEN อยากจะบอกว่าพี่ไม่ต้องมัวสงสัยให้เสียเวลา เพราะผลสำรวจจากบริษัทจัดหางานพบว่า 70% ของบรรดาบอส ๆ เขาเสิร์ชดูประวัติออนไลน์ของผู้สมัครเข้าทำงานทั้งสิ้น! ดังนั้นแทนที่จะสวดมนต์ภาวนาให้ตัวเองเป็น 30% ที่บอสไม่เสิร์ชดูเฟซบุ๊กหรือลบทุกสิ่งทุกอย่างทิ้งไปตลอดกาล ก็ทำตามวิธีต่อไปนี้ดีกว่า รับรองว่าตัวตนในโลกออนไลน์ของเราใสสะอาดพร้อมทำงานใหม่แบบไม่ต้องกลัวใครมาแฉแน่นอน

เสิร์ช Google ดูชื่อตัวเองหน่อยครับ

แม้จะฟังดูหลงตัวเอง แต่เราก็ไม่ได้หลงตัวเองอยู่คนเดียวบนโลกแน่ ๆ เพราะผลสำรวจชี้ว่าผู้คนต่างก็เสิร์ชชื่อตัวเองใน Google กันทั้งนั้น แต่ถ้าไม่เคยทำก็ได้โอกาสลงมือทำแล้ว เพราะมันมีประโยชน์กับการสัมภาษณ์งานที่กำลังจะมาถึง ที่แน่ ๆ อะไรหลายต่อหลายอย่างทั้งที่เราคาดคิดและไม่คาดคิดจะโผล่ขึ้นมาให้เราเห็น จะได้เตรียมรับมือถูกถ้าถูกยิงคำถามใส่ถึงสิ่งที่เราไม่คิดว่ามันจะหาเจอใน Google ได้

แต่ถ้ายังลนลานทำอะไรไม่ถูกก็ลองพิจารณาตาม 2 ข้อต่อไปนี้ดู แล้วจะรู้ว่าเสิร์ชชื่อตัวเองใน Google ได้อะไรมากกว่าที่คิด

Incognito Search : อย่างที่เรารู้กันดีอยู่แล้วว่าเวลาเราเสิร์ชอะไรจาก Google ด้วยเครื่องเรา เราจะได้ผลอย่างหนึ่ง ถ้าลองไปใช้เครื่องของเพื่อนเราก็จะได้ผลอีกอย่าง หรือถ้าใช้เครื่องของบอสเสิร์ชก็ได้ผลอีกอย่างหนึ่ง เพราะ Google จะเก็บข้อมูลจากการเสิร์ชเก่า ๆ ของเรา ข้อมูลการล็อกอิน หรือปัจจัยออนไลน์ประจำตัวอื่น ๆ เพื่อสร้างผลการเสิร์ชเฉพาะขึ้นมา ดังนั้นถ้าเราอยากเสิร์ชชื่อตัวเองใน Google แล้วได้ผลออกมาไม่เข้าข้างตัวเองมากเกินไป หรือได้เห็นตัวเองในมุมมองที่คนอื่นเห็น ก็ควรใช้ Incognito Search หรือการค้นหาแบบไม่ระบุตัวตนจะได้รู้กันเต็ม ๆ ไปเลยว่าเวลาบอสมาเสิร์ช เขาเจออะไรกันแน่

Google alert : การตั้ง Google Alert เป็นวิธีง่าย ๆ ที่จะทำให้เรารู้ว่ามีใครพูดถึงเราบ้าง โดยเฉพาะถ้าทำงานสายสื่อมวลชนที่อยากรู้ว่างานของเราถูกพูดถึงในแง่ไหน และบอสคนใหม่จะมาเจอคำวิจารณ์งานของเราในรูปแบบใดบ้างเพื่อเตรียมรับมือให้ถูก โดยถ้าเราตั้ง Google Alert ไว้ มันจะแจ้งเตือนมาในอีเมล์เราทันทีที่เรา (หรือสิ่งที่เราเซ็ตไว้) ถูกกล่าวถึง ดังนั้นเชิญไปตั้งกันได้ที่นี่เลย Google Alert 

แยกแอคเคาต์ส่วนตัวกับแอคเคาต์ส่วนงานออกจากกัน

ไม่ว่าจะสมัครงานใหม่ หรือทำงานมานานแล้วนี่ก็เป็นวิธีที่ดีอีกวิธีหนึ่งในการจัดการกับโซเชียลมีเดีย โดยในเฟซบุ๊กที่ใช้เพื่อการติดต่องานควรหลีกเลี่ยงประเด็นสุ่มเสี่ยงทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นการวิจารณ์ศาสนา การพูดเรื่องการเมือง หรือข้อมูลที่มันส่วนตัวมากเกินไป แต่ควรใช้เฟซบุ๊กที่ใช้ทำงานไว้เพื่อการติดต่อกับคอนเนคชั่นทั้งหลายที่เรามี พูดถึงงานที่ประสบความสำเร็จ แต่ถ้ายังไม่ชัวร์ว่าอะไรควรโพสต์ อะไรไม่ควรโพสต์ ลองดูตามลิสต์นี้ได้เลย

สิ่งที่ควรโพสต์

  • การอัปเดตเรื่องธุรกิจ
  • แชร์ข่าวแวดวงที่คุณทำงานอยู่
  • รูปภาพหรือวีดีโอของกิจกรรมหรือสถานที่ที่น่าสนใจในเมืองที่คุณอาศัยอยู่
  • บทความเกี่ยวกับเหตุการณ์ปัจจุบัน
  • ประชุม อีเวนท์ที่น่าสนใจที่กำลังจะมาถึง

สิ่งที่ไม่ควรโพสต์

  • บ่นเรื่องบอสหรือเรื่องงาน
  • รูปปาร์ตี้หนักหน่วงของคุณ
  • ความเห็นทางการเมืองและศาสนา
  • คำหยาบคายต่าง ๆ
  • เรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัว
สร้างความปลอดภัยให้แอคเคาต์ส่วนตัว

ต่อให้เราจะแบ่งแอคเคาต์ออกเป็นแอคเคาต์ส่วนตัวกับแอคเคาต์ทำงานแล้วก็ตาม แต่เราก็จำเป็นต้องระวังการใช้แอคเคาต์ส่วนตัวอยู่ดี ขั้นแรกสุดก็จำไว้เลยว่ามันไม่มีอะไรเป็นส่วนตัวจริง ๆ เราไม่มีวันรู้ได้เลยว่าสิ่งที่เราบ่นไปเรื่อยจะถูกแคปออกไปสู่ที่สาธารณะเมื่อไหร่ ต่อไปก็จำไว้อีกว่าเมื่อไหร่ที่เราโพสต์อะไรลงไป สิ่งนั้นจะอยู่ในโลกอินเตอร์เน็ตไปตลอดกาล ดังนั้นลองมาดูสเต็ปง่าย ๆ ที่พอจะสร้างความปลอดภัยให้แอคเคาต์ส่วนตัวให้อุ่นใจตอนสมัครงานใหม่ได้ในระดับหนึ่ง

Facebook

  • Who can see my stuff: นี่เป็นการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวสุดเบสิคระดับที่เด็กประถมยังรู้ ดังนั้นสำหรับการใช้แอคเคาต์ส่วนตัวก็ควรตั้งค่าให้เห็นได้เฉพาะเพื่อนเท่านั้น เพื่อไม่ให้บอสในอนาคตมาเสิร์ชอ่านสเตตัสอะไรที่เราไม่อยากให้อ่านได้
  • Limit past posts: แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบสเตตัสเป็นสาธารณะมาแต่ไหนแต่ไร แล้วเกิดไม่มั่นใจขึ้นมาว่าสเตตัสไหนสุ่มเสี่ยงบ้างหรือล่อตีนไปบ้าง จะให้ไปนั่งไล่แก้ที่ละสเตตัสย้อนหลังไปหลายปีก็คงไม่ทำไม่ไหว เราแนะนำให้ใช้ฟังก์ชัน Limit past posts ที่จะเปลี่ยนความเป็นส่วนตัวของทุกสเตตัส ทุกรูปภาพ ทุกโพสต์ที่คุณเคยตั้งค่าให้เป็นสาธารณะไว้กลับมาเป็นโพสต์ที่เห็นได้เฉพาะเพื่อนเท่านั้น ดังนั้นมันจึงเป็นสิ่งแรก ๆ ที่คุณควรทำเมื่อสมัครงานที่ใหม่ อย่างน้อยกมั่นใจได้ว่าถ้าบอสคนใหม่จะเข้ามาส่องก็จะไม่เห็นอะไรเลย
  • Timeline and tagging: ในส่วน Timeline and tagging คุณจะสามารถจัดการได้หมดว่าจะให้ใครเห็นภาพที่แท็กมาได้บ้าง ลองจินตนาการว่าคุณไปปาร์ตี้เมาปลิ้น อ้วกเละเทะ หรือดันมีรูปกับสาวที่ไม่ใช่แฟนมาแนบชิดใกล้ในคืนที่เมาไม่ได้สติ การใช้ Timeline and tagging จะช่วยคุณได้มากทีเดียว คุณอาจจะตั้งค่าให้ตัวเองเห็นรูปที่แท็กมาแค่คนเดียว หรือตั้งค่าให้เห็นเฉพาะเพื่อนก็ได้ หรือจะเป็นสาธารณะ (ถ้าคุณมั่นหน้าว่าไม่มีอะไรต้องปกปิด) รวมถึงยังสามารถตั้งค่าให้คุณสามารถรีวิวรูปภาพ สเตตัส โพสต์ทุกโพสต์ที่กล่าวถึงคุณได้ว่าจะให้มันโผล่มาในหน้าเฟซบุ๊กคุณหรือเปล่าหรือจะซ่อนไว้ไม่ให้ใครเห็นเลย ซึ่งทางเลือกนี้จะสามารถกรองคอนเทนต์เกี่ยวกับตัวตนของคุณได้หลายระดับเลยทีเดียว
  • Photo settings: แม้คุณคิดว่าการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวสำหรับโพสต์ต่าง ๆ จะเพียงพอแล้ว แต่การตั้งค่าความเป็นส่วนตัวสำหรับรูปภาพในเฟซบุ๊กก็สำคัญไม่แแพ้กัน โดยเฉพาะรูปโปร์ไฟล์และรูป Cover ที่มักจะถูกตั้งค่าให้เป็นสาธารณะอยู่เสมอ ซึ่งเราไม่มีทางรู้เลยว่ารูปเหล่านี้จะถูกนำไปใช้หรือถูกบอสคนใหม่มองอย่างไรบ้าง ดังนั้นการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของรูปภาพเหล่านี้ให้เห็นเฉพาะเพื่อนเป็นสิ่งที่คุณต้องทำ
แอคเคาต์สำหรับทำงานต้องเปิดสาธารณะตลอด!

เราอาจคิดในใจว่า โอ้โห อะไรแม่งจะยุ่งยากขนาดนี้วะ ? งั้นปิดให้เป็นส่วนตัวให้หมดแม่งเลยแล้วกัน UNLOCKMEN ก็อยากจะบอกว่ามันไม่ใช่ทางที่ดีอย่างที่คุณคิด เพราะการไม่มีอะไรโผล่มาบนโลกออนไลน์เอาเสียเลยก็ไม่ใช่สัญญาณที่ดีสำหรับฝ่าย HR ของแต่ละที่เท่าไหร่ เพราะมันชวนให้คิดว่าคุณไม่เคยทำงานอะไรเลย หรือมีสิ่งผิดปกติมากเสียจนต้องปิดมันไว้ให้มิดชิด หรือเป็นคนที่ไม่ใช้โซเชียลมีเดียเลย ซึ่งก็ไม่เป็นผลดีกับการทำงานที่ต้องใช้สกิลเหล่านี้เป็นแน่

การแสดงให้เห็นว่าเราสามารถใช้โซเชียลมีเดียได้อย่างคล่องแคล่ว แถมจัดการมันได้อย่างมืออาชีพสุด ๆ ต่างหากคือสิ่งที่บอสคนใหม่ของเราอยากเห็น ดังนั้นแอคเคาต์ที่เราทำไว้เพื่อใช้ในการทำงานล้วน ๆ ก็แสดงความเป็นมืออาชีพให้เต็มที่ แล้วเปิดสาธารณะให้บอสได้เห็นให้เต็มที่ ที่สำคัญคือต้องระวังไม่ให้ตัวเองโพสต์มากเกินไปจนดูเหมือนสร้างภาพเพื่อสัมภาษณ์งานโดยเฉพาะ

ในโลกที่อะไรก็ออนไลน์ไปหมด ตัวตนบนโลกออนไลน์ของเราจึงสำคัญไม่แพ้สกิลการทำงานและประสบการณ์ที่เรามี ถ้าทำทุกอย่างมาแบบโคตรดีแล้ว แต่มาตกม้าตายเอาง่าย ๆ กับตัวตนบนโซเชียลมีเดียก็คงเสียใจไม่น้อย UNLOCKMEN ไม่อยากให้ผู้ชายคนไหนต้องพลาด แถมทริคดี ๆ เหล่านี้จะเก็บไปใช้ในวันที่ยังไม่ได้สมัครงานใหม่ก็ยังไหว เมื่อถึงวันที่ต้องหางานใหม่ทำจริง ๆ จะได้ไม่ต้องมาคอยสร้างภาพกันใหม่ให้วุ่นวาย

SOURCE

PSYCAT
WRITER: PSYCAT
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line