World

ของแพงไร้สาระหรือคุณค่าทางจิตใจ ยอมรับในความแตกต่างแล้วจะรู้ว่ามนุษย์ทุกคนไม่เหมือนกัน

By: Thada March 19, 2018

ปฎิเสธไม่ได้ว่ามนุษย์โดยเฉพาะผู้ชายอย่างเรามีความหลงใหลให้กับสรรพสิ่งที่แตกต่างกันออกไป บางคนชอบเก็บสะสมรองเท้า บางคนทุ่มทั้งเงินและเวลากับการตามหาของที่ระลึกจากนักร้องไอดอลเสียเงินกันเป็นหลักแสนเพื่อรูปถ่ายใบเดียว หรือกับบางคนชอบเอาเงินที่หาได้จากน้ำพักน้ำแรงไปลงกับพาหนะสี่ล้อ ซึ่งเรื่องแบบนี้ก็ขึ้นอยู่กับรสนิยมความชอบส่วนบุคคล ไม่มีใครสามารถห้ามกันได้

แต่ทว่าเรามักได้ยินประโยคติดปากเวลาเจอคนซื้อของมีราคาค่างวดมา พร้อมเสียงแซะปนเหน็บแนมแบบติดตลกว่า “มีเงินอย่างเดียวซื้อไม่ได้ ต้องโง่ด้วย”  ซึ่งประโยคดังกล่าวเป็นอะไรที่เรามองว่ามันโคตรจะไม่เข้าท่า และอยากจะให้ทุกคนลองปรับทัศนคติความคิดในเรื่องนี้ใหม่ดู เนื่องจากมนุษย์ทุกคนล้วนมีความหลงใหลหรือที่เรียกว่า  passion แตกต่างกันออกไป ไม่มีเรื่องใดเป็นสิ่งไร้สาระถ้าหากมันเกิดขึ้นจากความชอบ เราจะขอยกตัวอย่างสองเหตุการณ์ที่เพิ่งพบเจอมาเล่าในอีกแง่หนึ่งสำหรับคนที่คิดลบเกี่ยวกับการซื้อของเก็บสะสมราคาแพงกันอยู่

เรื่องแรกเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันมานี้ มีชาวไทยคนหนึ่งโชคดี lucky draw ได้สิทธิ์ซื้อรองเท้า adidas NMD Hu “Powder Dye” ซึ่งเหตุการณ์ที่เหมือนจะธรรมดาแต่ไม่ธรรมดานี้ได้เกิดขึ้น เพราะเจ้ารองเท้าคู่ดังกล่าวดันมีความผิดพลาดทาง QC ทำให้อักษรบนหน้ารองเท้าเหมือนกันอย่างผิดสเปค และเนื่องจากรองเท้าคู่นี้เป็น Limited Pair ทำให้ไม่สามารถเปลี่ยนคืนได้ เจ้าของรองเท้าคนดังกล่าวก็ต้องรับรองเท้าไปแบบเซ็ง ๆ หลังจากนั้นเขากลับมาบ้านและถ่ายภาพลงไปในกรุ๊ปรองเท้ากลุ่มหนึ่งเพื่อระบายความในใจกับเหตุการณ์นี้ ปรากฎว่ากลายเป็นที่ฮือฮาอย่างมาก เพราะความพิเศษที่เกิดขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ ทำให้รองเท้าคู่ดังกล่าวกลายเป็นรองเท้าคู่เดียวในโลก จากนั้นก็เกิดการประมูล ทั้งชาวไทยและต่างประเทศแห่กันมา bid กันอย่างบ้าคลั่ง จนสุดท้าย adidas NMD Hu “Powder Dye” จบการประมูลที่ $40,000 หรือราว ๆ 1,000,000 บาท ชายคนดังกล่าวก็เหมือนถูกหวยรางวัลที่หนึ่งไปโดยปริยาย และคนที่ประมูลชนะก็ได้รองเท้าอย่างที่ตัวเองต้องการ

สำหรับคนที่มองว่ามันเป็นสิ่งของไร้สาระก็คงคิดว่ารองเท้าคู่เดียว “มึงบ้ากันไปแล้วหรือไงประมูลกันเป็นล้าน เอาไปซื้อรถญี่ปุ่นได้คันหนึ่ง” แต่ในมุมของนักสะสมที่ได้ไปเขาไม่ได้มองที่มูลค่า พวกเขามองว่ารองเท้าคู่นี้มันคือหนึ่งเดียวในโลกในอนาคตข้างหน้าก็ไม่สามารถหารองเท้าที่หลุด QC แบบนี้ได้อีก ดังนั้นรับประกันได้ว่าการซื้อราคานี้จะสามารถต่อยอดขายทำกำไรได้ในอนาคตอย่างแน่นอน

ส่วนเหตุการณ์ที่สองก็เกิดขึ้นในประเทศไทยอีกเช่นกัน เมื่อวงไอดอลสุดฮ็อตอย่าง BNK48 นำภาพ Super Special Rare หรือรูปพร้อมลายเซ็นน้องๆ ซึ่งมีเพียง 6 ในโลกต่อสมาชิก 1 คน เก็บไว้ที่ตัวน้องๆ 1 ใบ และอีก 5 ใบ Random ใส่ใน Photo Set แรกเปิดตัวที่ตอนนั้นยังไม่ดัง ปรากฎว่ามีรูปภาพของน้องสมาชิกคนหนึ่งสามารถประมูลสูงสุดได้ในราคา 455,000 บาท  เทียบเท่ากับรถ Vios หนึ่งคัน แล้วก็ไม่วายมีคนออกมาดราม่าว่า

รูปนี้ห้อยหน้ารถกันรถชนได้มั้ย ?, บ้าไปแล้ว และอีกมากมาย 

ถามว่ามันเป็นความผิดถึงขั้นต้องมานั่งดราม่ากันไหมกับรูปที่มีการประมูลถึงครึ่งล้านนี้ ขอตอบเลยว่า ไม่ เพราะมันเป็นสิทธิของคนประมูลเมื่อเขาพึงพอใจกับราคาที่จ่ายไปโดยไม่ได้ไปทำให้ใครเดือดร้อน มันก็ไม่ใช่เรื่องของเราอีกเช่นกันที่จะไปเป็นเดือดร้อนแทน เพราะการที่เขาจ่ายเงินระดับนั้นออกไป มันต้องผ่านการคิดไตร่ตรองมาแล้วเป็นอย่างดี ดังนั้นเราไม่จำเป็นต้องไปบอกว่า เอาเงินไปทำอย่างอื่นเช่น บริจาคเด็กยากไร้ดีกว่า เพราะเขาอาจจะเก็บเงินอีกส่วนหนึ่งไว้บริจาคอยู่แล้วก็ได้

บทสรุปของทั้งสองเหตุการณ์นี้หากเรายอมรับในความแตกต่างของคน ก็จะไม่มีปัญหาการดราม่าแซะเหน็บแนมตามมาอีกต่อไป  เพราะมนุษย์แต่ละคนมีความชอบที่ไม่เหมือนกัน ไม่มีคำว่าถูกหรือผิดในการตามล่าหาของเก็บสะสมเพราะมันคือคุณค่าทางจิตใจ และคนที่ชอบสิ่งของนั้นวันหนึ่งมันอาจจะกลายเป็นมรดกที่สามารถทำเงินกว่าตอนซื้อได้หลายเท่าตัว และลองคิดง่าย ๆ เหมือนกับการตีค่างานศิลปะ แต่เราอาจจะมองรูปภาพเดียวกันในมุมมองที่ต่างออกไป ตามหลักแนวคิดจิตวิทยา No two are exactly alike and then No two are exactly different ดังนั้นก่อนที่จะเอ่ยปากไปว่าใคร ลองมองดูตัวเองก่อนว่าเคยซื้อของไร้สาระในราคาที่แพงแบบไร้เหตุผลบ้างหรือเปล่า?

 

Thada
WRITER: Thada
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line