Entertainment

CONVERSATION WITH FUKKING HERO 10 กว่าปีในวงการ HIP-HOP ที่เต็มไปด้วย PASSION กับอัลบั้มเดี่ยวครั้งแรกในชีวิต

By: PERLE July 19, 2018

ถ้ามองวงการ Hip-Hop ในประเทศไทยเป็นพายุ ในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมาพายุลูกนี้ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้น ก่อนที่จะโหมซัดกระหน่ำเต็มที่ในปี 2018 นี้เอง เห็นได้จากรายการโทรทัศน์เกี่ยวกับ Hip-Hop เต็มรูปแบบที่มาพร้อมกันถึง 2 รายการทั้ง The Rapper ทางช่อง Work Point และ Show Me the Money ทางช่อง True4U

ถ้า UNLOCKMEN ต้องพูดคุยกับใครสักคนในประเด็นนี้ คงไม่มีใครเหมาะไปกว่า กอล์ฟ Fukking Hero หรือ ณัฐวุฒิ ศรีหมอก แรปเปอร์รุ่นใหญ่ที่อยู่คู่วงการ Hip-Hop ไทยมามากกว่า 10 ปี

แต่ประเด็นที่ UNLOCKMEN พูดคุยกับเขา ไม่ได้มีแค่เรื่องในวงการเพลงเท่านั้น ยังมีเรื่องการเข้าไปอยู่ใต้ชายคาค่าย What The Duck และพร้อมเปิดตัวอัลบั้มแรกในฐานะศิลปินเดี่ยว และเส้นทางสู่การเป็นศิลปิน Hip-Hop ที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ

ก่อนอื่นมาอัปเดตกันก่อนว่าช่วงนี้มีผลงานอะไรให้เราได้ติดตามบ้าง?

ตอนนี้ก็กำลังทำอัลบั้มเต็มอยู่ครับ คิดว่าอัลบั้มน่าจะออกมาได้ช่วงปลายปี หรือไม่ก็อาจจะต้องเป็นช่วงต้นปีหน้า ตอนนี้เริ่มเปิด single แล้ว ก็คือเพลง Alarm (สวัสดีวันจันทร์) นะครับ Single จะเริ่มปล่อยวันนี้ (19 กรกฎาคม) แล้วก็ MV ออกตัวเต็มวันที่ 30 กรกฏาคมครับ

UNLOCKMEN ได้ลองฟัง Single นี้แล้ว เนื้อหาของเพลงเกี่ยวกับการต่อสู้เพื่อครอบครัว แต่งโดยได้แรงบันดาลใจจากเรื่องจริงหรือเปล่า?

จริง ๆ ก็ใช่ครับ แต่งจากการต้องรับผิดชอบมากกว่า การเป็นหัวหน้าครอบครัว และการทำงานในวันนึงที่เราต้องโตแล้ว

อัลบั้มเต็มที่กำลังจะปล่อยนี้เป็นอัลบั้มในฐานะศิลปินเดี่ยวอัลบั้มแรกในชีวิตใช่มั้ย ทั้ง ๆ ที่อยู่ในวงการ Hip-Hop มากว่า 10 ปี?

ใช่ครับ ผมเปิดตัวครั้งแรกในชื่อสิงห์เหนือ-เสือใต้ในปีพ.ศ. 2545 ถ้านับเวลาตอนนี้ก็ 10 กว่าปีแล้วครับ

 

ลองพูดถึง Concept ของอัลบั้มนี้หน่อย เราจะได้เห็นอะไรที่แตกต่างจากที่เราเคยเห็นในผลงานเก่า ๆ บ้าง ?

Concept คือ การเอา Hip-Hop สมัยเก่ามาเจอกับ Hip-Hop สมัยใหม่ เราวางไว้ว่าจะทำประมาณ 20 เพลง ซึ่งครึ่งนึงจะเป็นแบบเก่า อีกครึ่งจะเป็นแบบใหม่ จากที่เมื่อก่อนจะคุ้นเคยกับสไตล์ Old School แต่ในอัลบั้มนี้จะได้เห็นสิ่งที่แตกต่างออกไปแน่นอนครับ

ตอนนี้เราคือศิลปินป้ายแดงของค่าย What The Duck การย้ายมาอยู่ใต้สังกัดค่ายเพลงที่ไม่ได้เป็นค่าย Hip-Hop เพลงจะลดความเป็น Hip-Hop ลงหรือเปล่า ?

What The Duck ไม่เข้ามายุ่งเรื่องการทำเพลง เขาจะดูแลในเรื่องสื่อ Promote เรื่องการขาย และ เรื่องความจำเป็นอื่น ๆ เขาจะให้อิสระด้านการทำเพลงกับเราเต็มที่ครับ’

มาพูดถึงวงการ Hip-Hop ไทยในปัจจุบันกันบ้าง จากที่เคยเป็นแค่ Culture เฉพาะกลุ่ม ทำไมอยู่ ๆ ถึงได้รับความนิยมขึ้นมาเป็นปรากฏการณ์แบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน?

ผมว่าการมาถึงของ Social Network มีผลกับ Hip-Hop อย่างมาก สื่อใน Social Network ทำให้เกิดอิสระในการที่เราจะทำรายการอะไรสักรายการนึง จึงเกิดรายการใน YouTube อย่าง Rap Is Now ขึ้นมา พอ Rap Is Now เกิด คนไทยจึงได้เห็นความดิบและความสนุกของ Hip-Hop ที่คนไทยไม่เคยได้ยิน ทำให้ตอนนั้นเริ่มเป็นกระแสขึ้นมา แล้ววัยรุ่นก็เริ่มที่จะชอบและหันมาสนใจ Rap กับ Hip-Hop กันมากขึ้น

ทีนี้พอเริ่มเป็นกระแสมากขึ้น ๆ จนเป็นรายการทีวีอย่าง Show Me the Money กับ The Rapper นะครับ ตอนนี้มันก็เลยกลายเป็นความ Mass มากขึ้น ทำให้คนได้เห็นจากที่ Rap is now คนที่จะได้เห็นความดิบ รายการทำให้คนได้เห็นมิติอื่น ๆ ของ Hip-Hop มากขึ้นก็เลยทำให้เกิดความเข้าใจกันมากขึ้น สื่อสารกันง่ายขึ้น

ถ้าย้อนไปสมัยเพิ่งเข้าวงการ Hip-Hop ใหม่ ๆ และ Hip-Hop ยังเป็นแค่ Culture เล็ก ๆ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันจะสามารถหาเลี้ยงชีพได้หรือเปล่ากับเพลงแนวนี้ อะไรคือคือ Passion ว่าเราต้องเป็น Hip-Hop Artist ให้ได้ ?

เรายังโชคดีกว่าเพื่อนเราหลาย ๆ คน เราเริ่มต้นก็ Start กับพี่โจ้ (Joey Boy) เลย พอเราเริ่มกับพี่โจ้เลยมีรากฐานอาชีพที่สบายกว่าเพื่อน ๆ หน่อย แต่เพื่อน ๆ ผมตอนที่เริ่มในสมัย Underground แรก ๆ คือมันไม่มีงานคอนเสิร์ต Support ไม่มีเพลงโฆษณา Support คนยังไม่เข้าใจสักเท่าไหร่ เขาก็เปลี่ยนอาชีพกันไปหลายคนเพราะเขาอยู่กับอาชีพนี้ไม่ได้ ไม่สามารถทำมันเป็นอาชีพได้ ก็เลยรู้สึกว่าเราก็สูญเสีย Rapper ดี ๆ ไปเยอะ แต่สำหรับเรา ในยุคที่คนไม่ค่อยเข้าใจ เราก็พยายามเรื่อยมา แล้วก็จูนไปเรื่อย ๆ ว่า จริง ๆ แล้วตรงกลางของเรามันอยู่ตรงไหนกันแน่

แปลว่าตอนนี้การเป็นศิลปิน Hip-Hop มันสามารถเลี้ยงชีพด้วยการทำเพลงได้แล้วจริง ๆ ในสังคมไทย ?

ตอนนี้ก็ถือว่าสำหรับเราเพลงคือรายได้หลักครับ

เคยได้ยินมาจากบทสัมภาษณ์ว่าช่วงแรก ๆ เราไม่มีอะไรกินเลยด้วยซ้ำ แต่ไม่ถอดใจแล้วยังเชื่อมั่นว่า Hip-Hop จะประสบความสำเร็จ?

วัยรุ่นตอนนั้นมันสนุกมาก แล้วมันก็คงไม่ได้คิดถึงอนาคตเท่าไหร่ มัวแต่คิดถึงว่าความสนุก ได้ทำในสิ่งที่ชอบ ได้ปาร์ตี้ ได้เจอเพื่อน ตอนนั้นก็เลยไม่ได้คิดอะไร แต่ถ้าเกิดว่าเป็นวันนี้แล้วเป็นอย่างวันนั้น ก็คงต้องคิดแล้วว่าต้องทำอะไรต่อ

แล้วถ้าตอนนี้มีคนที่อยากเป็น Rapper ควรจะเริ่มต้นจากตรงไหนและฝึกฝนยังไงบ้าง ?

ทุกวันนี้ Reference มันเยอะมากแล้ว ข้อดีมันคือความสะดวกสบาย เพราะว่าอยากจะฟังอะไรอยากจะแกะอะไรก็มีให้หมดใน YouTube ใน Internet แต่ข้อเสียคือ การจะหาลายเซ็นของตัวเองที่มันจะต้องโดดเด่นกว่าคนอื่นขึ้นมา อันนี้ยาก เพราะมันเกิดขึ้นเยอะ แล้วมันก็ซ้ำ ๆ ก็พยายามฟัง Reference เยอะ ๆ นะครับ แต่ก็หาตัวตนของตัวเองให้เจอว่า Style ของตัวเองเป็นยังไง

ศิลปิน Hip-Hop ที่ถือเป็น Idol มีใครบ้าง ลองยกมาสัก 3 ชื่อครับ?

Joey Boy/ NAS / KH

มาพูดถึงบทบาทในการเป็นโค้ชในรายการ The Rapper กันบ้าง อะไรคือสิ่งที่ยากที่สุดในการเป็นโค้ช?

สิ่งที่ยากที่สุดในการเป็นโค้ช ไม่มีครับ ตอนนี้รู้สึกว่า Flow เพราะเพื่อนร่วมงานก็ดี เบื้องหลังทุกคนก็ดีกับเราหมด แล้วก็กำลังรู้สึกสนุก เลยไม่รู้สึกว่าอะไรมันยาก คือสนุกทุกครั้งที่ไปทำงาน

การที่มีรายการ Hip-Hop ของไทยพร้อมกันถึงสองรายการ ทั้งที่เมื่อก่อนอยู่ในวง Underground แคบ ๆ มาตลอด แต่ตอนนี้ Hip-Hop ได้มาอยู่ในฟรีทีวีแล้วถือว่าวงการ Hip-Hop ประสบความสำเร็จแล้วหรือยัง ?

ผมว่ามันยังเพิ่งเริ่มเดินก้าวแรก ความสำเร็จมันแค่ก้าวแรก จากนี้ไปจะอยู่ยังไงให้นานต่างหากที่จะเรียกว่าประสบความสำเร็จ เพราะตอนนี้ยังดูไม่ออกว่ามันเป็นแค่กระแสหรือเปล่า เพราะตอนนี้มันกำลัง Mass ทุกคนกำลังอยากจะเป็น Rapper หมด เด็กโตขึ้นมาเห็นรายการ Rap Is Now เห็น The Rapper เห็น Show Me the Money ก็อยากจะมากันหมด ณ ขณะนี้ก็น่ากลัวที่ว่ามันเป็นอะไรที่ Mass ขึ้นมาแค่กระแสชั่วครั้งชั่วคราว การประคับประคองให้มันไปไกลกว่านี้ด้วยการที่ว่าเราจะอยู่กันยังไง

ทิ้งท้ายอีกสักหน่อย ได้ข่าวว่าเป็นโอตะคนหนึ่ง ล่าสุดไปเป็น Guest ในรายการ Victory BNK มาด้วย UNLOCKMEN จะมีโอกาสได้เห็นพี่ในงานจับมือที่จะถึงนี้หรือเปล่า ?

จริง ๆ แล้ว ก่อนไปรายการ เราอยากจะไปจับมือหลายคนมาก แต่ว่าภรรยาไม่อนุญาตแล้วก็พยามยามจะซื้อ Photo Set ภรรยาก็ไม่อนุญาต ก็เลยไม่มีโอกาสแน่นอนครับ (หัวเราะ)

นี่คือความคิดและมุมมองของคนที่คลุกคลีอยู่กับวงการ Hip-Hop มามากกว่า 10 ปี UNLOCKMEN ก็หวังเช่นเดียวกับเขาว่าวงการนี้จะเจริญเติบโตขึ้นไปเรื่อย ๆ อย่างมั่นคง และเราจะได้มีผลงานดี ๆ ให้เสพกันอีกมากมาย แต่ก่อนอื่นวันนี้อย่าลืมฟังเพลงใหม่ของเขากันเพื่อดื่มด่ำความตั้งใจและพลังจากเขาไปพร้อม ๆ กัน

PHOTOGRAPHER: Warynthorn Buratachwatanasiri

PERLE
WRITER: PERLE
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line