World

‘อุตสาหกรรมสายเขียว’ เพื่อนซี้ของคนกักตัวอยู่บ้านและผลกระทบ 2 ด้านในดินแดนกัญชาเสรี

By: SPLESS April 2, 2020

การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อผู้คนทั่วโลกรวมถึงถึงธุรกิจจำนวนมาก หลายอุตสาหกรรมต้องหยุดชะงักเพราะความต้องการเป็นของสินค้าในตลาดลดน้อยลงหรือไม่มีความจำเป็นเลย

ในเวลาเดียวกัน ไลฟ์สไตล์ของผู้คนที่เปลี่ยนไป(เฉพาะกิจ) สู่ชีวิตที่ต้องใช้เวลาอยู่บ้านมากขึ้นก็ทำให้มีหลายธุรกิจถือว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงของการกอบโกย โดยเฉพาะในดินแดนที่กัญชาเสรีในบางรัฐอย่างสหรัฐอเมริกาและประเทศแคนาดาที่ธุรกิจเกี่ยวกับกัญญาทั้งดอกสด ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ รวมถึงอาหารแปรรูปล้วนกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นที่มียอดขายเพิ่มเป็นเท่าตัว

france24

สหรัฐอเมริกากลายเป็นประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มากที่สุดในโลกด้วยยอดผู้ป่วยสะสมประมาณ 215,000 คน และเสียชีวิตแล้วกว่า 5,000 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 2 เมษายน 2563) อย่างไรก็ตามระดับความรุนแรงของการแพร่ระบาดในแต่ละรัฐมีความหนัก-เบาแตกต่างกันไป ที่น่าเป็นห่วงที่สุดคงจะเป็นนิวยอร์กที่มีเคสผู้ป่วยมากกว่า 70,000 คน

Benzinga

อย่างไรก็ตาม การแพร่ระบาดที่เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น ทำให้หลายรัฐเริ่มประกาศให้ผู้คนกักตัวอยู่บ้าน หลายคนวางแผนสำหรับการกักตัวทั้งระยะสั้นและระยะยาวด้วยการกักตุนอาหาร เครื่องดื่มและของใช้ที่จำเป็น แต่สำหรับสายเขียวทั่วสหรัฐอเมริกาและแคนาดาอีกหนึ่งสิ่งที่พวกเขาต้องกักตุนไว้ให้เต็มโหลในยามฉุกเฉินแบบนี้คือกัญชา

การแพร่ระบาดของโควิด- 19 ส่งผลให้ยอดขายกัญชาใน 11 รัฐที่กัญชาเสรีพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยระหว่างวันที่ 16-22 มีนาคมที่ผ่านมา ทั้ง 2 ประเทศมีมูลค่าการขายกัญชารวมกันเพิ่มขึ้นถึง 50 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่แล้ว สาเหตุเป็นเพราะบรรดาคนที่ชอบพืชจากพระเจ้าชนิดนี้ กังวลว่าสถานการณ์จะเลวร้ายลงจนพวกเขาไม่สามารถออกไปกักตุนของได้ เรียกว่ากันเหนียวเอาไว้ก่อน

Leafly

อย่างไรก็ตามความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากการกักตุนไม่ได้เป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้พืชชนิดนี้ได้รับความนิยม วลาดีเมียร์ บัวร์ตสตา ซีอีโอของ HappyMunkey บริษัทไลฟ์สไตล์กัญชาแบบครบวงจรผู้ชอบสนทนาแลกเปลี่ยนกับลูกค้าเล่าให้ฟังว่า เหตุผลที่ลูกค้าส่วนใหญ่สั่งซื้อสินค้ามากกว่าปกติเป็นเพราะว่า เวลาว่างที่มีมากขึ้นและมีความเครียดที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง

ขณะเดียวกันมีสถิติว่าการกักตัวอยู่ตัวคนเดียวทำให้ผู้คนหันมาบริโภคกัญชามากกว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงผู้คนที่เคร่งศาสนาบางส่วนที่ไม่ดื่มแต่หันมาปุ๊นเวลาอยู่บ้านแทน ข้ามมาที่ฝั่งแคลิฟอร์เนีย ผู้บริหารร้านขายกัญชาที่ชื่อ The Higher Path ได้เปิดเผยยอดการสั่งของจากลูกค้าประจำที่ซื้อกัญชาเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวหลังรัฐประกาศให้กักตัวอยู่ในที่พักอาศัย เฉลี่ยแล้วคิดเป็นเงินประมาณ 90 ดอลลาร์หรือประมาณ 3,000 ต่อคน ต่อครั้ง

อย่างไรก็ตามความเสี่ยงจากไวรัสที่เพิ่มมากขึ้นทำให้ร้านค้าในหลายรัฐเลือกปิดหน้าร้านและหันมาขายออนไลน์แทน ซึ่งบางรัฐอนุญาตให้มีบริการจัดส่งเพื่อสนับสนุนการ High ในช่วง Social Distancing แต่หลายรัฐไม่อนุญาตให้ส่งเพราะต้องการลดความเสี่ยงของการแพร่เชื้อโรคทางพัสดุ

ไม่เพียงการใช้เพื่อสันทนาการเท่านั้นที่เพิ่มขึ้น เพราะในรัฐแคลิฟอร์เนีย โคโลราโดและโอเรกอนยังมียอดสั่งซื้อผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์เพิ่มขึ้นถึง 41 เปอร์เซ็นต์ เพราะมีผู้ป่วยจำนวนมากที่ต้องพึ่งพาผลิตภัณฑ์ยาจากกัญชาเหล่านี้ในการรักษาตัว ทำร้านขายยาที่ให้ขายผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์ในหลายรัฐยังคงได้รับอนุญาตให้เปิดบริการ เพื่อรองรับผู้ป่วยหลายพันคนที่อาจขาดแคลนยาเหล่านี้

ความต้องการที่เพิ่มขึ้นยังรวมไปถึงตลาดอาหารและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากกัญชา โดยเฉพาะเครื่องดื่มอย่าง Cann Social Tonics เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของ THC และ CBD ซึ่งกำลังได้รับความนิยมในตลาดที่มียอดการสั่งซื้อเพิ่มขึ้นถึง 300 เปอร์เซ็นต์ในช่วงนี้

แม้ตลาดกัญชาโดยรวมทั่วประเทศของสหรัฐอเมริกาในช่วงนี้จะคึกคักเป็นพิเศษ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีคนในอุตสาหกรรมนี่ได้รับผลกระทบเลย เพราะในหลาย ๆ รัฐยังมีผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดซึ่งพวกเขาค่อนข้างโชคร้ายกว่าเจ้าของธุรกิจอื่น ๆ เพราะจะไม่ได้รับเงินช่วยเหลือจากกองทุนสำรองมูลค่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐของประเทศ เพราะธุรกิจของพวกเขาไม่ได้ถูกต้องตามกฎหมายกลางของประเทศนั่นเอง

ในสถานการณ์แบบนี้เป็นปกติที่จะมีธุรกิจที่ได้รับผลกระทบและประโยชน์แตกต่างกันออกไป อย่างไรก็ตามบทความนี้ไม่ได้สนับสนุนให้ใครยุ่งเกี่ยวกับสิ่งที่ผิดกฎหมาย เพียงแต่ต้องการนำเสนอมุมมองอีกด้านของอุตสาหกรรมกัญชาในประเทศเสรีก็เท่านั้นเอง

 

SOURCE: 1/2/3

SPLESS
WRITER: SPLESS
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line