‘ดูกราฟทั้งวันทั้งคืนจนหัวหมุน’ รู้จักอาการเสพติดคริปโตที่นักลงทุนยุคใหม่ควรระวัง

ตอนนี้การลงทุนในทรัพย์สินดิจิทัล เช่น สกุลเงินคริปโต (Cryptocurrency) กำลังเป็นเทรนด์ยอดฮิตที่หลายคนให้ความสนใจ บางคนอาจซื้อเหรียญคริปโต เช่น Bitcoin หรือ Ethereum เก็บไว้รอเกร็งกำไรในอนาคต หรือ บางคนอาจลงทุนใน GameFi และใช้มันในการทำรายได้ให้ตัวเอง แต่ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนดิจิทัลแบบไหนก็ควรระวังสิ่งที่เรียกว่า ‘เสพติดการลงทุนในสกุลเงินคริปโต’ (Cryptocurrency Addiction) ซึ่งเป็นอาการที่ทำให้ชีวิตของเราย่ำแย่ลงได้เหมือนกัน

Cryptocurrency Addiction เกิดขึ้นได้อย่างไร

เนื่องตลาดซื้อขายคริปโตไม่มีตัวกลาง (เช่น ธนาคาร) ที่ทำหน้าที่ดูแลการทำธุรกรรมของคนในตลาด การซื้อขายเงินสกุลนี้สามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ราคาของสกุลเงินคริปโตจึงผันผวนได้ง่ายกว่าการลงทุนประเภทอื่น กล่าวคือ ในเวลาเพียงแค่เสี้ยววินาที เราอาจได้รับเงินจำนวนมหาศาล และสูญเสียเงินจำนวนมหาศาลได้

นอกจากนี้เป็นตลาดที่เปลี่ยนแปลงง่ายแล้ว มันยังเป็นตลาดที่เปิดแบบไม่มีวันหยุด และเปิดตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้หลายคนเสพติดการลงทุนในคริปโตไม่ต่างจากการเสพติดการพนัน หากใครสงสัยว่าตัวเองเสพติด ลองเช็คดูว่ามีอาการเหล่านี้หรือไม่ ได้แก่

• เสียเวลาไปกับการเทรดคริปโตมากเกินไป
• เช็คและกังวลเรืองราคาของหรียญตลอดเวลา จนลืมเรื่องงาน หรือ การทำกิจกรรมอื่นไป
• มีหนี้สิ้นสะสม หรือ เจอกับปัญหาด้านการเงิน เนื่องจากการเทรดคริปโต
• โกหกคนรอบตัวเรื่องพฤติกรรมการเทรดคริปโต
• อารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย (mood swing) มักเป็นทุกข์หรือซึมเศร้าอยู่เสมอ
• วิตกกังวลอย่างหนักจนเกิดอาการ เช่น นอนไม่หลับ ซึมเศร้า เหงื่อแตก สั่นกลัว หรือ ไม่อยากอาหาร
• มีความเชื่อมั่นแบบผิด ๆ เช่น เชื่อว่าครั้งหน้าจะต้องเทรดชนะ หรือ เชื่อว่าการขาดทุนเกิดขึ้นเพราะโชคไม่ดี

คนที่มีอาการเหล่านี้หลายข้อ คุณน่าจะเสพติดการลงทุนในคริปโตแล้ว และควรเริ่มเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของตัวเอง หรือ ขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญเรื่องการบำบัดต่อไป

วิธีป้องกัน Cryptocurrency Addiction

เมื่อข้อเสียของ Cryptocurrency Addiction มีมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ทำให้เราเสียการเสียงาน ทำให้เราเสียสุขภาพจิต หรือ ทำให้เราเจอปัญหาด้านการเงิน และอาจทำให้เราตัดสินใจก่ออาชญากรรมเพื่อหาเงินมาใช้หนี้ คนที่มีอาการนี้ก็ควรรับรู้ถึงผลเสียของมัน และหาทางป้องกันมันให้ได้มากที่สุด ซึ่งเราอยากให้ทุกคนทำเรื่องเหล่านี้เวลาเทรดคริปโต

กำหนดจำนวนเงินที่เราจะใช้ในการเทรดคริปโต

หากจะเริ่มลงทุนในคริปโต ลองกำหนดจำนวนเงินลงทุนทั้งหมดที่จะใช้ในการเทรดคริปโตตั้งแต่แรก เพราะวิธีนี้ช่วยป้องกันปัญหาเรื่องการใช้เงินลงทุนมากเกินไปได้ ทำให้เราเสี่ยงต่อปัญหาด้านการเงินน้อยลง และมีเงินเหลือพอที่จะชำระค่าภาระต่าง ๆ เช่น ค่าที่อยู่อาศัย ค่ารถยนต์ ค่าอาหาร หรือ หนี้สิ้น

กำหนดเวลาในการเทรด

นอกจากกำหนดจำนวนเงินแล้ว เราควรกำหนดเวลาที่จะใช้ในการเทรดคริปโตด้วย ลองถามตัวเองว่าะใช้เวลากี่วันหรือกี่ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในการเทรดคริปโต และใช้ระบบนาฬิกาปลุก หรือ ปฏิทิน ในการแจ้งเตือนว่าในแต่ละวันเราต้องทำอะไรบ้าง

อย่ามองว่าการเทรดเป็นอาชีพหลักของเรา

แม้การเทรดจะทำเงินให้เราได้จริง แต่มันก็ทำให้เราเสียเงินได้เช่นกัน เมื่อการเทรดคริปโตมีความเสี่ยงสูง เราจึงไม่ควรทำมันเป็นอาชีพหลัก และมองว่ามันเป็นเพียงแหล่งรายได้เสริมเท่านั้น อีกทั้งเราควรเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการขาดทุน หรือ สูญเสีย และห้ามเอาเงินเก็บยามฉุกเฉิน หรือ เงินที่ยืมคนอื่น มาใช้ในการลงทุน

แบ่งเวลาให้กิจกรรมอื่นบ้าง

อย่าสนใจแค่กราฟ ตัวเลขราคา หรือ ข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน เอาเวลาไปทำอย่างอื่นบ้าง เช่น ทำงานอดิเรกที่ตัวเองชอบ ออกกำลังกาย ไปเที่ยวกับครอบครัว หรือ เพื่อนฝูง การทำอะไรร่วมกับคนอื่นจะช่วยให้เราไม่รู้สึกเหงา หันเหออกจากสิ่งที่เราเสพติดได้ง่ายขึ้น และทำให้เรามีความสุขกับชีวิตมากขึ้น

ถ้าวิธีเหล่านี้ ไม่สามารถช่วยคุณได้ เราขอแนะนำให้ลองไปพบผู้เชี่ยวชาญ เพื่อขอคำปรึกษา และรับการรักษาอย่างถูกวิธีต่อไป

Appendix: 1 / 2 / 3