DIOR จับความพังก์มาคู่กับมาดสุภาพบุรุษแบบ DIOR MEN ภายใต้การนำของ KIM JONES

คอลเลกชันเสื้อผ้าสุภาพบุรุษ Fall/Winter 2019-2020 ของแบรนด์ Dior สร้างความตื่นตาให้กับโลกของแฟชั่นอีกครั้ง โดยจัดขึ้นในพื้นที่ใกล้หอไอเฟลในงาน Paris Fashion Week และได้ดีไซเนอร์มากฝีมืออย่าง Kim Jones เป็นตัวหลักในการสร้างสรรค์ผลงานของ Dior Men ให้กลับมาสู่ความเรียบหรูตามแบบผู้ชายดิออร์ พร้อมผสมผสานกลิ่นอายแบบพังก์ร็อกไปพร้อมกัน

South China Morning Post

Kim Jones เจ้าพ่อดีเทลผู้เป็น Creative Director คนปัจจุบันของ Dior เคยสร้างความตื่นตาให้กับโลกของแฟชั่นหลายต่อหลายครั้ง อย่างในคอลเลกชันก่อนหน้านี้ที่ผลิกโฉม Dior Homme ให้กลายเป็น Dior Men เพื่อความเข้าถึงง่ายแต่ยังคงคอนเซ็ปต์เรียบหรูอยู่ เพียงแต่เพิ่มสีสันความเป็นชายหนุ่มให้กับแบรนด์มากขึ้น

หลังจากที่โจนส์เล่นกับสีพาสเทลและแฟชั่นแบบไม่แบ่งเพศไปแล้วในรันเวย์ Dior Spring/Summer 2019 และพาไปสู่แฟชั่นแห่งโลกอนาคตเมื่อคอลเลกชันที่ผ่านมา ในครั้งนี้โจนส์ได้พาเหล่าสุภาพบุรุษผู้ชื่นชอบแฟชั่นกลับสู่ความเรียบง่ายตามแบบ Dior Men อีกครั้ง ด้วยสไตล์เรียบหรูร่วมกับผลงานของศิลปินผู้คร่ำหวอดวงการพังก์ในอเมริกาอย่าง Raymond Pettibon

Raymond Pettibon คือศิลปินสัญชาติอเมริกันที่มีผลงานโด่งดังในช่วงทศวรรษ 1980 ด้วยผลงานที่มีสไตล์โดดเด่นแบบพังก์ร็อกที่ชัดเจน พร้อมบอกเล่าเรื่องราวที่สะท้อนสังคมด้วยการดึงวรรณคดีประวัติศาสตร์ ศิลปะ ปรัชญา การเมือง กีฬา สงคราม และเรื่องเพศ มาเล่าเป็นภาพการ์ตูนล้อเลียนแบบดิบ ๆ ได้อย่างไม่น่าเบื่อ

นอกจากนี้เขาคือผู้สร้างสรรค์โลโก้ให้กับวงพังก์ร็อกสัญชาติอเมริกัน Black Flag ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผลงานของ Raymond Pettibon เป็นที่รู้จักในวงกว้าง รวมถึงตัวของ Kim Jones เองที่ได้รู้จัก Pettibon ผ่านโลโก้สีเหลี่ยมสีดำ 4 แท่งนี้เช่นกัน

ภาพวาดแปลกประหลาดที่สื่อถึงการแสดงออกทางความคิดอย่างมีสไตล์ของ Raymond Pettibon นั้นเรียกได้ว่าเข้าตาโจนส์เข้าอย่างจัง จึงทำให้เขาไม่รอช้าดึง Pettibon เข้ามาร่วมสร้างสรรค์ผลงานของ Dior Men ในคอลเลกชัน Fall/Winter 2019-2020 นี้

และโจนส์ได้กล่าวถึงตัวของ Pettibon ในงานแฟชั่นโชว์ครั้งนี้ว่า แม้ Pettibon อาจจะไม่ได้แมสหรือเป็นที่รู้จักในวงกว้าง เพราะสไตล์นั้นค่อนข้างมีความเฉพาะกลุ่มและแตกต่างกับภาพลักษณ์ของ Dior แต่ผลงานของเขานั้นต้องเคยผ่านตาเหล่าผู้ชายสักครั้งแน่นอน และนี่คือเหตุผลที่ทำให้ Dior เลือกเขามาร่วมสร้างสรรค์ผลงาน

ถึงคอนเซ็ปต์หลักจะเน้นความเรียบง่ายตามสไตล์สุภาพบุรุษแบบ Dior แต่โจนส์ก็ได้ทิ้งกลิ่นอายของสไตล์พังก์ร็อกไว้ด้วยเช่นกัน ในผลงานอย่างแจ็คเก็ตหนังลายพิมพ์หลากหลายลวดลายด้วยฝีมือการวาดของ Raymond Pettibon พร้อมกับถุงมือหนัง และรองเท้าบูทข้อสูง

โดยแกนหลักของแฟชั่นโชว์เสื้อผ้าสุภาพบุรุษของ Dior ในครั้งนี้นอกจากการเอาสไตล์พังก์ร็อกมาผสมแล้ว ยังได้นำเสื้อเกราะที่เห็นได้ทั่วไปตามผลงานประติมากรรมยุโรปที่กระจายตัวอยู่ทั่วทั้งปารีสมาดัดแปลงให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น เพื่อให้เสื้อเกราะแบบโบราณสามารถสวมใส่คู่กับสูทลายปักที่คุมโทนสีเข้มได้อย่างลงตัว

จากผลงานดีไซน์ของโจนส์ในแต่ละครั้งทำให้เห็นว่าเขาคือนักออกแบบที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์และมักจะหยิบจับเรื่องราวในสมัยก่อนมาประยุกต์เข้ากับผลงานอยู่บ่อยครั้ง อย่างเช่นในครั้งก่อนที่นำแรงบันดาลใจจากผู้ก่อตั้งแบรนด์อย่าง Christian Dior มาเล่าผ่านเสื้อผ้าสุภาพบุรุษไปแล้ว

ครั้งนี้ก็เช่นกัน โจนส์ผู้ชื่นชอบ Christian Dior ก็ได้นำสไตล์เก่าแก่ของ Dior อย่างลายพิมพ์เสือดาวที่โด่งดังในปี 1940 และช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 กลับมาอีกครั้ง แต่การนำลายเสือของ Dior กลับมาในครั้งนี้โจนส์ได้เพิ่มความเข้ม เท่ และดุดันกว่าเก่า รวมถึงดึงผลงานศิลปะชื่อก้องโลกอย่าง Mona Lisa ในรูปแบบพังก์ ๆ ที่วาดโดย Pettibon มาอยู่บนเสื้อสเวตเตอร์ถักด้วยเช่นกัน

Dior

Dior

จากงาน Paris Fashion Week ของ Dior ครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า Kim Jones สามารถสร้างภาพลักษณ์ใหม่ ๆ ให้กับ Dior Men ได้อีกครั้งโดยไม่หลุดกรอบความเป็นสุภาพบุรุษเจ้าสำอางในแบบ Dior แต่ได้เพิ่มลูกเล่นแปลกใหม่ให้ความเรียบแบบเดิมมีเรื่องราวที่น่าสนใจมากขึ้น

SOURCE1 SOURCE2