แรงบันดาลใจการขับ FORMULA 1 สู่ไฮเปอร์สกู๊ตเตอร์คันแรกของโลก ‘DRAGONFLY’

เมื่อผังเมือง ทางเดินเท้า จวบจนถนนหนทางของเมืองใหญ่ออกแบบมาให้เป็นสัดส่วนและรองรับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่มากขึ้น ก็ทำให้ผู้คนนิยมขับขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าในเมืองขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากจะเป็นยานพาหนะที่เอื้อประโยชน์ต่อการเดินทางในชีวิตประจำวัน สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ายังไม่ปล่อยมลพิษไปทำลายชั้นบรรยากาศเหมือนกับยานพาหนะประเภทอื่น ๆ อีกด้วย

theverge

ไม่กี่วันมานี้เราเพิ่งเห็นการเปิดตัวของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าสุดเจ๋ง ‘Dragonfly Hyper Scooter’ พัฒนาโดย D-Fly Group บริษัทขนส่งในกรุงลอนดอน สกู๊ตเตอร์คันนี้ไม่เพียงได้รับสมญานามว่าเป็น “Hyper Scooter คันแรกของโลก”

แต่ยังมาพร้อมพลังขับเคลื่อนจากเครื่องจักรกลอัจฉริยะ ห่อหุ้มด้วยวัสดุพรีเมียมที่แข็งแรงทนทาน ทั้งคาร์บอนไฟเบอร์ ตัวถังอลูมิเนียมเกรดเดียวกับยานอวกาศ หรือแม้แต่ไม้พาโลเนียเสริมใยคาร์บอน

hiconsumption

รูปลักษณ์ของสกู๊ตเตอร์ดีไซน์มาเป็นทรงเหลี่ยมที่ดูโฉบเฉี่ยวและมั่นคง ตัวคันบังคับออกแบบมาให้คล้ายกับรถเข็นและดูไม่ซ้ำใคร นอกจากจะหมุนแฮนด์ได้แบบรถมอเตอร์ไซค์แล้ว ยังใช้เทคโนโลยีการบังคับเลี้ยวแบบ Full-Tilt ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรถแข่ง Formula 1 ช่วยปรับปรุงรัศมีการเลี้ยวและขับขี่ผ่านโค้งหักศอกได้อย่างราบรื่น

Dragonfly Hyper Scooter มีวางจำหน่ายทั้งหมดสองรุ่น คือรุ่น 3 ล้อ และรุ่น 4 ล้อ โดยในรุ่น 4 ล้อจะใช้ระบบช่วงล่างแบบปีกนกคู่ ที่ทำให้รัศมีวงเลี้ยวแคบลงและช่วยให้การควบคุมรถแม่นยำยิ่งขึ้น

theverge

Dragonfly Hyper Scooter ทำงานด้วยมอเตอร์ Dual-powertrain ที่ให้กำลังส่ง 1,800 วัตต์ ทำให้สกู๊ตเตอร์คันนี้มีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 38 ไมล์ต่อชั่วโมง ใช้แบตเตอรี่แบบถอดเปลี่ยนได้ โดยการชาร์จหนึ่งครั้งสามารถใช้งานได้ถึง 11 ไมล์ และใช้งานได้สูงสุดที่ 28.5 ไมล์ เมื่อใช้ชุดแบตเตอรี่เสริมระยะไกลของบริษัท

ด้านล่างของคันบังคับติดตั้งหน้าจอขนาด 4.5 นิ้ว ความละเอียด 4K ที่จะช่วยแจ้งเตือนภัยอัตโนมัติ บอกตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ ติดตามข้อมูลผ่าน GPS และบอกความเร็วสูงสุดที่สามารถขับขี่ได้ตามระเบียบข้อบังคับของเมือง

uncrate

ไฟหน้าและไฟท้ายใช้เป็น LED เกรดยานยนต์ ตัวฐานพับของสกู๊ตเตอร์มีความยาวน้อยกว่า 12 นิ้ว และมีน้ำหนักรวมเพียง 32 ปอนด์ หรือ 14.5 กิโลกรัมเท่านั้น ทำให้พกพาสกู๊ตเตอร์คันนี้ในชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวกสบาย

Dragonfly Hyper Scooter ยังติดตั้งบลูทูธและลำโพงที่รองรับการใช้งานผ่านแอปพลิเคชันในสมาร์ตโฟนอีกด้วย เรียกได้ว่าช่วยตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่และยกระดับความปลอดภัยบนท้องถนนได้เป็นอย่างดีทีเดียว

‘Dragonfly Hyper Scooter’ มีกำหนดวางจำหน่ายในช่วงฤดูร้อนปี 2020 และจะผลิตลอตแรกเพียง 500 คันเท่านั้น รุ่น 3 ล้อจะวางขายในราคา $5,000 หรือ 150,000 บาท ส่วนรุ่น 4 ล้อจะวางขายที่ $6,000 หรือ 180,000 บาท

ถ้าทนรอไม่ไหว หนุ่ม ๆ ก็สามารถสั่งซื้อ pre-order ได้ ที่นี่ จ่ายเพิ่มเพียง $100 หรือราว 3,000 บาท ก็ได้เป็นเจ้าของสกู๊ตเตอร์สุดเจ๋งก่อนใครเลยนะครับ

COVER SOURCE , SOURCES: 1 / 2 / 3