ย้อนไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเริ่มต้นขึ้นในปี 1939 และจบลงในปี 1945 ท่ามกลางชีวิตหลังสงครามเหลือไว้เพียงซากปรักหักพัง ได้มีนวัตกรรมหลายอย่างที่เกิดขึ้นจากช่วงเวลายากลำบากที่สุดของมวลมนุษยชาติ หลายสิ่งถูกคิดค้นขึ้นเพื่อฟื้นฟูความสะดวกในการใช้ชีวิตด้วยเทคโนโลยีและสิ่งของที่หลงเหลืออยู่ บางอย่างเกิดขึ้นและดับไป บางอย่างก็ได้กลายเป็น Culture ฝังรากลึกลงไปในวิถีชีวิตของมนุษย์ หนึ่งในนั้นคือ Lambretta แบรนด์ scooter สัญชาติ Italian จากเมือง Milan ที่มีอายุรวมมากถึง 75 ปี นับตั้งแต่ Lambretta เผยโฉมโมเดลแรกสุดในปี 1947 ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ Scooter ที่มีประวัติความยิ่งใหญ่สืบทอดมาอย่างยาวนาน มีโมเดลระดับ Iconic ที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของ post-war Italian design และยังเป็นหมุดหมายบันทึกประวัติศาสตร์สำคัญของโลกแห่ง Scooter มากมายหลายรุ่น ก่อนจะพัฒนามาสู่ Lambretta รุ่นใหม่ ๆ ที่เราเห็นกันอยู่ในปัจจุบัน วันนี้เราจะพาไปย้อนดูเรื่องราวในอดีตที่สำคัญตั้งแต่ก่อนจะมีคำว่า Lambretta ผ่าน timeline ของ Scooter รุ่นต่าง ๆ ที่น่าสนใจ
เมื่อสังคมเราเริ่มมีผู้สูงอายุมากขึ้น พาหนะสำหรับผู้สูงอายุในเมืองก็เป็นสิ่งจำเป็นมากขึ้นเหมือนกัน ตอนนี้มีสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าคันหนึ่งที่น่าสนใจมาก เพราะมันมาพร้อมกับรูปลักษณ์อันแสนล้ำหน้า และสมรรถนะในการใช้งานที่ไม่ธรรมดา Toyota เปิดตัวสกูตเตอร์ไฟฟ้าสามล้อสุดเฟี้ยว C+walk T เพื่อเป็นพาหนะช่วยเหลือผู้ที่มีปัญหาในการเคลื่อนไหว หรือ แรงงานสูงอายุที่ต้องการเคลื่อนที่ระหว่างสถานีทำงานขนาดใหญ่ต่าง ๆ เช่น โกดัง โรงงาน หรือ สถานีปลายทางสนามบิน เป็นต้น รถสกูตเตอร์สองล้อคันนี้มาพร้อมกับแบตเตอรี่ลิเที่ยมไอออน แบบถอดออกได้ ขนาด 10.8 แอมป์ / ชั่วโมง ซึ่งทำหน้าที่เป็นแหล่งพลังงานให้กับรถทั้งคัน มันทำให้รถสามารถเดินทางได้ไกลถึง 14 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเพียงหนึ่งครั้ง และยังใช้เวลาชาร์จพลังงานแบตเตอรี่จาก 0 – 100% เพียงแค่ประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น C+walk T สามารถเดินทางได้เร็วสุดถึง 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้งานในหลายพื้นที่ ผู้ใช้งานสามารถปรับความเร็วสูงสุดลงได้หลายระดับเหมือนกัน (ตั้งแต่ 6 – 2 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) นอกจากดีไซน์ที่สวยงาม และระบบขับเคลื่อนที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติและคนสูงอายุแล้ว ตัวรถยังมีฟังก์ชันเฉพาะที่น่าสนใจอย่าง ‘ระบบหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวาง’ (obstacle
หากยังจำกันได้ดี ครั้งหนึ่ง UNLOCKMEN เคยนำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจของวัฒนธรรม MODS วัฒนธรรมย่อยของชนชั้นกลางที่ถือกำเนิดขึ้นในประเทศอังกฤษไปแล้ว มาในครั้งนี้เราได้รับโอกาสพิเศษให้เข้าไปใกล้ชิดกับกลุ่มชาว MODS อีกครา และทันทีที่ได้ยินประโยคเชิญชวนเราก็ไม่ลังเลที่จะตอบรับไปในทันที ซึ่งงาน Thailand MODS Mayday : scooter run vol. 3 คือการรวมตัวกันของชาว MODS ในประเทศไทย กลุ่มคนที่สานต่อวัฒนธรรม Mods ผู้มีความขบถ แหกคอก ใช้สกู๊ตเตอร์คลาสสิกเป็นยานพาหนะและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว กลุ่ม MODS หลัก ๆ ที่รวมกันเป็น Thailand MODS Mayday นั้นประกอบไปด้วย SoulScooterClub, Lammania, ModsMorShit, 30UP การประดับกระจกเยอะๆ และแขวนไฟหลายดวงนั้นมีที่มาจากการประชดกฏหมายของอังกฤษในยุคนั้น (60s) ที่ออกมาบังคับให้รถจักรยานยนต์ทุกคนต้องมีกระจกอย่างน้อย 1 อัน ทั้งที่ความจริงแล้วรถมอเตอร์ไซต์ Vespa และ Lambretta ในยุคนั้นมันเกิดมาโดยไม่มีกระจกมองหลังหรือแม้กระทั่งไฟเลี้ยว สิ่งที่แตกต่างจากยานพาหนะทั่วไปทำให้รถสกู๊ตเตอร์กลายมาเป็น
เมื่อผังเมือง ทางเดินเท้า จวบจนถนนหนทางของเมืองใหญ่ออกแบบมาให้เป็นสัดส่วนและรองรับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่มากขึ้น ก็ทำให้ผู้คนนิยมขับขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าในเมืองขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากจะเป็นยานพาหนะที่เอื้อประโยชน์ต่อการเดินทางในชีวิตประจำวัน สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ายังไม่ปล่อยมลพิษไปทำลายชั้นบรรยากาศเหมือนกับยานพาหนะประเภทอื่น ๆ อีกด้วย ไม่กี่วันมานี้เราเพิ่งเห็นการเปิดตัวของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าสุดเจ๋ง ‘Dragonfly Hyper Scooter’ พัฒนาโดย D-Fly Group บริษัทขนส่งในกรุงลอนดอน สกู๊ตเตอร์คันนี้ไม่เพียงได้รับสมญานามว่าเป็น “Hyper Scooter คันแรกของโลก” แต่ยังมาพร้อมพลังขับเคลื่อนจากเครื่องจักรกลอัจฉริยะ ห่อหุ้มด้วยวัสดุพรีเมียมที่แข็งแรงทนทาน ทั้งคาร์บอนไฟเบอร์ ตัวถังอลูมิเนียมเกรดเดียวกับยานอวกาศ หรือแม้แต่ไม้พาโลเนียเสริมใยคาร์บอน รูปลักษณ์ของสกู๊ตเตอร์ดีไซน์มาเป็นทรงเหลี่ยมที่ดูโฉบเฉี่ยวและมั่นคง ตัวคันบังคับออกแบบมาให้คล้ายกับรถเข็นและดูไม่ซ้ำใคร นอกจากจะหมุนแฮนด์ได้แบบรถมอเตอร์ไซค์แล้ว ยังใช้เทคโนโลยีการบังคับเลี้ยวแบบ Full-Tilt ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรถแข่ง Formula 1 ช่วยปรับปรุงรัศมีการเลี้ยวและขับขี่ผ่านโค้งหักศอกได้อย่างราบรื่น Dragonfly Hyper Scooter มีวางจำหน่ายทั้งหมดสองรุ่น คือรุ่น 3 ล้อ และรุ่น 4 ล้อ โดยในรุ่น 4 ล้อจะใช้ระบบช่วงล่างแบบปีกนกคู่ ที่ทำให้รัศมีวงเลี้ยวแคบลงและช่วยให้การควบคุมรถแม่นยำยิ่งขึ้น Dragonfly Hyper Scooter ทำงานด้วยมอเตอร์ Dual-powertrain ที่ให้กำลังส่ง