Work

ออฟฟิศในฝันจากแนวคิด Dynamic Living Space พร้อมบาร์อลังการที่เป็นพื้นที่สังสรรค์สุดฮิปในออฟฟิศ

By: LIT December 4, 2019

ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) หรือ DMHT ผู้นำด้านเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พรีเมียมระดับโลก เผยโฉมออฟฟิศแห่งใหม่บนพื้นที่กว่า 1,331 ตร.ม. ณ อาคารสำนักงานแห่งใหม่ล่าสุดของกรุงเทพฯ มิตรทาวน์ ออฟฟิศ ทาวเวอร์  ซึ่ง DMHT เพิ่งจะย้ายเข้าไปเมื่อ 8 สัปดาห์ที่แล้ว

โดยทาง DMHT ให้ความสำคัญในการออกแบบภายในออฟฟิศให้ตรงตามแนวคิดแบบ ‘Dynamic Living Space’ ทุกขั้นตอน เน้นการสร้างประสบการณ์และให้ความสำคัญกับการปฏิสัมพันธ์กันระหว่างพนักงานในบริษัทรวมถึงผู้มาเยือน มี co-working space ขนาดใหญ่ที่ทุกคนสามารถมาคุยงานร่วมกัน เป็นพื้นที่ที่เอื้อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ พร้อมตอบรับพฤติกรรมการทำงานของคนยุคใหม่

นอกจากนี้ยังมีสวัสดีบาร์ บาร์เครื่องดื่มใหญ่ที่สุดในบรรดาออฟฟิศดิอาจิโอในเอเชียแปซิฟิกที่เป็นสถานที่เปิดโอกาสให้พนักงานได้นั่งคุยงาน หรือนั่งชิลสานสัมพันธ์กันในบรรยากาศที่สนุกสนาน และเป็นที่ต้อนรับแขกของบริษัท พร้อมเสิร์ฟเครื่องดื่มโดยบาร์เทนเดอร์ชั้นนำระดับประเทศ สะท้อนปรัชญา “เฉลิมฉลองชีวิต ในทุกที่ และทุกวัน (Celebrating Life, Every Day, Everywhere)” ของบริษัทได้เป็นอย่างดี

มร. อัลแบร์โต อิเบอัส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า

“DMHT มุ่งเป็นบริษัทผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีประสิทธิภาพในการทำงาน และได้รับความไว้วางใจและน่านับถือมากที่สุดในโลก ซึ่งการเดินหน้าไปสู่เป้าหมายดังกล่าวจำเป็นต้องเริ่มที่พนักงาน ซึ่งถือเป็นตัวแทนหรือแอมบาสเดอร์ของบริษัทฯ ที่จะทำงานเพื่อถ่ายทอดและส่งต่อผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและประสบการณ์ที่ดี รวมถึงสร้างสิ่งดี ๆ ให้กับสังคม ออฟฟิศแห่งใหม่นี้ได้สะท้อนปรัชญาของบริษัทฯ “เฉลิมฉลองชีวิต ในทุกที่ และทุกวัน (Celebrating Life, Every Day, Everywhere)” ผ่านการออกแบบในทุก ๆ องค์ประกอบ สอดแทรกคาแร็คเตอร์ของแบรนด์เข้าไป เน้นการผสานพื้นที่เข้าไว้ด้วยกันเพื่อให้มีความยืดหยุ่น จัดสรรพื้นที่เพื่อให้พนักงานทุกคนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีอิสระในการทำงาน และส่งเสริมการทำงานแห่งอนาคต”

ในด้านของการออกแบบ ออฟฟิศแห่งนี้เป็นไปตามปรัชญาการออกแบบของดิอาจิโอในระดับโลกที่มุ่งสร้างสภาพแวดล้อมที่ให้ทุกคนรู้สึกมีส่วนร่วม และทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น ภายในออฟฟิศจะแบ่งออกเป็น 2 โซนหลัก ๆ คือโซนออฟฟิศ และโซน co-working space ขนาดใหญ่

โดยโซนออฟฟิศนั้นอิงหลักการออกแบบในสไตล์ Open Plan ที่ให้ความสำคัญกับพื้นที่ส่วนรวมมากกว่าพื้นที่ส่วนตัว โดยที่ทำงานของแต่ละคนจะเป็น Hot Desk เปลี่ยนไปในแต่ละวันแล้วแต่สะดวก สามารถนำคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คมาต่อกับจอมอนิเตอร์ได้ ตอบโจทย์การทำงานสมัยใหม่ และถ้าใครต้องการพื้นที่ส่วนตัวสามารถเข้ามาใช้พื้นที่ในห้องโทรศัพท์ที่จัดสรรไว้ได้ นอกจากนี้ยังผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่างอินเทอร์เน็ตแบบโครงข่ายไฟเบอร์ออพติกทั่วทั้งออฟฟิศ รวมถึงระบบการจองห้องประชุมผ่านแอปในสมาร์ทโฟนที่ทั้งสะดวกสบายและรวดเร็ว

สำหรับโซน co-working space จะเป็นพื้นที่แบบเปิดโล่ง มีโต๊ะ เก้าอี้ โซฟา ให้ทำงานและประชุมงานได้ตามสะดวก อิงแนวคิด ‘Dynamic Living Space’ ที่เน้นสร้างประสบการณ์ ออกแบบพื้นที่ให้ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ มีความยืดหยุ่น มีการผสมผสานระหว่างพื้นที่ทำงานกับพื้นที่นั่งเล่นเข้าด้วยกัน เพื่อให้พนักงานได้ทุ่มเทกับงานได้อย่างเต็มที่และอิสระภายใต้บรรยากาศของการทำงานที่ผ่อนคลายเหมือนอยู่บ้านหรือคาเฟ่

โดยอีกหนึ่งไฮไลท์ของออฟฟิศนี้คือสวัสดีบาร์ บาร์ขนาดใหญ่กลางออฟฟิศที่ทำให้ผู้มาเยือนตื่นตาตื่นใจ เปรียบเสมือนอีกหนึ่งพื้นที่ที่จัดแสดงแบรนด์ทั้งหมดในพอร์ทโฟลิโอของดิอาจิโอ ไม่ว่าจะเป็น Johnnie Walker, Smirnoff, Tanqueray, Baileys และอื่น ๆ ซึ่งในวันธรรมดา ทุกคนสามารถใช้พื้นที่นี้เพื่อทำงาน หรือคุยงานได้

ส่วนทุกวันศุกร์เย็น บาร์แห่งนี้จะคึกคัก กลายเป็นพื้นที่พบปะสังสรรค์ของพนักงานที่สามารถพาเพื่อน ๆ ครอบครัว ลูกค้า หรือซัพพลายเออร์มาร่วมสังสรรค์กันได้ โดยมีบาร์เทนเดอร์มืออาชีพจากเวที ดิอาจิโอ รีเสิร์ฟ เวิลด์ คลาส (DIAGEO Reserve World Class) มารังสรรค์เครื่องดื่มหลากสไตล์ให้ถึงที่ ที่สำคัญคือไม่มีค่าใช้จ่าย เพราะอยากให้ทุกคนได้สัมผัสประสบการณ์ที่หลากหลายจากผลิตภัณฑ์ของบริษัท เพื่อการสร้างแรงบันดาลใจใหม่ ๆ

มร. อัลแบร์โต เล่าว่า “อีกสิ่งหนึ่งที่สะท้อนปรัชญาขององค์กรส่งเสริมการดื่มแอลกอฮอล์อย่างรับผิดชอบ “เฉลิมฉลองชีวิต ในทุกที่ และทุกวัน (Celebrating Life, Every Day, Everywhere) ทั้งนี้ DMHT เชื่อว่าแอลกอฮอล์เป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ที่สมดุลได้ ถ้าดื่มอย่างมีสติและตัดสินใจอย่างมีข้อมูล บริษัทฯ จึงส่งเสริมให้พนักงานทุกคนเป็นตัวแทนการดื่มอย่างรับผิดชอบ หรือ DRINKiQ แอมบาสเดอร์ ที่ต้องมีความรู้เรื่องแอลกอฮอล์ ไม่ว่าจะดื่มหรือไม่ดื่มก็ตาม และต้องเผยแพร่ความรู้นี้ให้คนรอบข้างต่อไปได้

นอกเหนือจากคุณสมบัติทางกายภาพอย่างพื้นที่สำนักงาน เพื่อมุ่งสู่การเป็นบริษัทที่น่าทำงานที่สุด (Great Place to Work) ในเชิงนโยบาย DMHT นั้นก็ได้ผลักดันนโยบายที่ส่งเสริมความสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัวของพนักงานในองค์กร ด้วยการนำร่องเป็นบริษัทแรก ๆ ที่ริเริ่มนโยบายให้สิทธิ์กับพนักงานทุกเพศ ได้สิทธิ์ลาความเป็นแม่และความเป็นพ่อ (Family Leave) ถึง 26 สัปดาห์และยังสามารถได้รับเงินเดือนเต็ม เพื่อดูแลบุตรได้อย่างใกล้ชิดและเท่าเทียมกัน ถือเป็นนโยบายที่สะท้อนวิสัยทัศน์ที่เห็นความสำคัญของพนักงาน

รวมถึงส่งเสริมความหลากหลายและความเท่าเทียมกันในองค์กรได้เป็นอย่างดี ตลอดจนช่วยส่งเสริมภาครัฐในการเพิ่มปริมาณประชากรใหม่อันช่วยบรรเทาประเทศจากการก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุอีกด้วย

DMHT ตั้งเป้าที่จะเป็นบริษัทฯ ที่คนรุ่นใหม่ให้ความสนใจที่ต้องการเข้ามาร่วมงานและทำงานด้วย และในขณะเดียวกันก็ยังให้ความสำคัญกับพนักงานเก่าที่เป็นทรัพยากรที่ทรงคุณค่าของบริษัท ซึ่งการที่พนักงานทุกคนจะประสบความสำเร็จไปพร้อมกับองค์กรได้นั้น นอกเหนือจากความสามารถ วัฒนธรรมองค์กรที่สนับสนุนให้ทุกคนพัฒนาตนเองอยู่เสมอ กล้าก้าวข้ามขีดจำกัด ภูมิใจในสิ่งที่ทำ และมีอิสระที่จะประสบความสำเร็จแล้ว เชื่อว่าบรรยากาศในสถานที่ทำงาน โดยเฉพาะพื้นที่สำนักงานที่ตอบรับกับการทำงานได้อย่างเหมาะสม เอื้อให้ทุกคนได้พบปะ ได้คิด ได้สร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ในรูปแบบของตนเอง นั้นก็เป็นอีกปัจจัยที่สำคัญเช่นกัน

LIT
WRITER: LIT
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line