CARS
ภาพตัดไปสู่อนาคต ปอร์เช่ “Mission E” รถยนต์พลังขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า
By: myfifthday August 2, 2016 39209
ตัวแทนของโลกอนาคตตอนนี้ ที่ประสบความสำเร็จและเห็นได้ชัดเจนคงเป็นรถยนต์พลังขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าที่พลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์ จากที่เราทุกคนเคยเห็นในรูปทรงเก่าๆ วิ่งได้ระยะทางสั้นๆ ชาร์จแบตครั้งละนานๆ มาสู่รูปแบบปัจจุบันที่ลบทุกความเป็นไปไม่ได้ออกไป ซึ่งตอนนี้แบรนด์ยานยนต์หลายเจ้าในตลาดก็เริ่มหันมาเอาจริงเอาจังด้านรถยนต์ไฟฟ้ากันแล้วเหมือนกัน
เช่นเดียวกันกับแบรนด์ดังสุดหรูอย่างปอร์เช่ ซึ่งเป็นบริษัทยิบย่อยของโฟล์คสวาเกน ได้เปิดแผนการอันล่าสุดออกมาว่าตอนนี้กำลังเริ่มจ้างคนมากกว่า 1,400 คนเข้าสู่ภารกิจ Mission E ซึ่งเป็นการพัฒนานวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าเข้าสู่ในตลาด เปิดข่าวกันแบบนี้ UNLOCKMEN จะพามาดูความน่าทึ่งของ Porsche Mission E กันสักหน่อยว่าจะพอสู้กับ Tesla ได้ขนาดไหนกัน
ปอร์เช่ลงทั้งแรง ลงความพยายามกับ Mission E ที่จะปล่อยเต็มตัวในปี 2020 ตัวรถมีการขับเคลื่อนแบบสมบูรณ์แบบด้วยเทคโนโลยีแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบล่าสุด ส่วนล่างของรถจะเป็นแบตเตอรี่รถที่มีขนาดขยายเต็มรูปแบบของรถเพื่อให้น้ำหนักกระจายกันอย่างเท่าเทียมกัน ตัวรถมีกำลังขับเคลื่อนสูงถึง 600 แรงม้า
เทคโนโลยีการชาร์จของตัวรถใช้เพียงฐานชาร์จติดตั้งไว้ในโรงรถหรือติดตั้งตามบ้านได้และมีปลั้กแบบ Repower ตามสถานีชาร์จทั่วไป พอร์ตชาร์จจะถูกซ่อนอยู่ด้านข้างของกันชนด้านหน้า น่าเสียดายที่บ้านเรายังไม่ค่อยบูมเรื่องรถไฟฟ้าสักเท่าไหร่ ถ้าเป็นที่อเมริกาจะมีสถานีชาร์จรถไฟฟ้าเหมือนปั้มน้ำมันกันเลย
ใช้เวลาในการชาร์จเพียง15นาทีเท่านั้น ทำให้สามารถใช้งานได้ถึง 80% ในช่วง 250ไมล์แรก โดย Mission E สามารถเข้าถึงความเร็วสูงสุด 150 ไมล์ต่อชั่วโมงจาก 0 ไปถึง 62 ไมล์ต่อชั่วโมงใช้เวลาเพียง 3.5 วินาที ตัวรถสปอร์ตมีสี่ที่นั่งสี่ประตู วิธีเปิดประตูก็แบบใหม่และไม่ได้มีกระจกมองข้าง แต่มันมีกล้องจับภาพได้ว่าสิ่งที่อยู่รอบรถมีอะไรบ้างและแสดงอยู่ที่มุมล่างของกระจกหน้ารถ แถมยังให้ผู้ใช้สามารถเลือกที่แสดงข้อมูลด้านความปลอดภัยในพื้นที่ขณะขับอยู่
พวงมาลัยสี่ล้อ, ล้อไดรฟ์และในคอนโซลรถมีทุกการเชื่อมต่อ Gadgets เทคโนโลยี คนขับยังสามารถควบคุมเมนูของรถด้วยเทคโนโลยี eye-tracking กล้องจะตรวจจับขณะที่เราขับรถอยู่ว่ากำลังมองหาอะไรและจะขึ้นเป็นเมนูบนแดชบอร์ดให้คนขับรถสามารถยืนยันคำสั่งนั้นด้วยการกดปุ่มบนพวงมาลัย ล้ำกันไปอีกแล้ว
การแสดงผลภายในของรถก็จะปรับเปลี่ยนเลื่อนตำหน่งตามคนขับ ดังนั้นถ้าคนขับสูงหรือต่ำกว่าในที่นั่งของพวกเขาหรือมีการโน้มตัวไปด้านข้างเครื่องมือที่แสดงบนอินเตอร์เฟซที่จะเคลื่อนที่การแสดงผลให้เหมาะกับคนขับรถใหัอัตโนมัติ ตัวล้อด้านหน้า21นิ้ว ส่วนด้านหลัง 22 นิ้ว ยางมีขนาดกว้างมีขอบเบาแต่แข็งแรงและดูทันสมัยตามแบบฉบับของปอร์เช่
โดยทางปอร์เช่มองหาการเคลื่อนไหวอย่างยั่งยืน เป็นเทคโนโลยีสะอาดรองรับการเปลี่ยนแปลงขยายของตัวเมืองในอนาคต จากแนวคิด Mission E รถสามารถใช้เป็นปลั้กอินไฮบริดไดรฟ์ระบบไฟฟ้าอย่างแท้จริงไม่ไกลเกินความฝัน และด้วยประสิทธิภาพการทำงานที่ล้ำและฉลาดขนาดนี้ UNLOCKMEN ขอเก็บเงินรอปี 2020 กันเลย สำหรับเราแค่คิดก็น่าสนุกแล้วที่รถทุกคันบนถนนจะเริ่มเปลี่ยนโฉมเป็นไฟฟ้ากันหมด ก็ได้แต่หวังว่าภาครัฐและเอกชนจะมองเห็นและนำระบบรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาบูมกันได้สักที รอตั้งแต่ Tesla แล้ว