“เมื่อผมเหงาในที่ทำงาน” 5 วิธีพิชิตความโดดเดี่ยวในออฟฟิศที่ส่งผลร้ายต่องานและความสุข

‘ความเหงา’ เป็นความรู้สึกปกติธรรมดาที่เกิดขึ้นได้กับคนทุกคน ผู้ชายส่วนใหญ่มักจะเหงาตอนที่ต้องอยู่คนเดียว บ้างเหงาตอนที่สายฝนโหมกระหน่ำยามค่ำคืน แต่ผู้ชายบางคนกลับรู้สึกเหงาขึ้นมาดื้อ ๆ ในที่ทำงาน

แม้ตลอด 8 ชั่วโมงที่วุ่นวายดูจะไม่มีเวลาว่างให้ความเหงาเข้าแทรกได้ แต่ผลสำรวจของเว็บไซต์ CV-Library เผยว่ามีพนักงานกว่าครึ่งกำลังรู้สึกเหงา โดดเดี่ยว และเปล่าเปลี่ยวในที่ทำงาน ยิ่งไปกว่านั้นไอ้ความเหงาที่แสนธรรมดานี้ดันส่งผลเสียต่อการทำงานของพวกเขาอย่างไม่น่าเชื่อ

CV-Library หนึ่งในเว็บไซต์จัดหางานของอังกฤษได้สำรวจพนักงาน 2,000 คน เรื่องความรู้สึกเหงาในที่ทำงาน แม้พนักงานที่มีอายุระหว่าง 35-44 ปี จะเป็นช่วงวัยที่เหงามากที่สุด แต่ก็มีพนักงานกว่าครึ่งในบริษัทที่กำลังเผชิญปัญหาเช่นเดียวกันนี้

ปัจจัยที่ทำให้พนักงานรู้สึกเหงา เป็นเพราะพวกเขาต้องนั่งทำงานท่ามกลางหนุ่มสาวหน้าใหม่ไฟแรง เลยอดคิดไม่ได้ว่าตนแตกต่างจากเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ จึงเลือกจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับตัวเองมากกว่าเข้าไปทักทายหรือพูดคุย นานเข้าชีวิตที่ไร้บทสนทนากับเพื่อนร่วมงานจึงก่อตัวเป็นความเหงาโดยที่พวกเขาไม่อาจหลีกเลี่ยง

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังรู้สึก ‘เหงา’ ในที่ทำงาน ไม่ว่าจะด้วยความต่างของช่วงวัย ลักษณะนิสัยส่วนตัว หรือบรรยากาศในออฟฟิศ นี่คือ 5 วิธีที่จะช่วยกำจัดความเหงาและทำให้คุณกลับมามีความสุขกับการทำงานอีกครั้ง!

เริ่มบทสนทนากับเพื่อนร่วมงาน

ออฟฟิศของคุณมีบรรยากาศเงียบเหงาหรือตัวคุณเองที่เงียบกันแน่? ถ้าไม่อยากรู้สึกโดดเดี่ยวเดียวดายในที่ทำงาน หนุ่ม ๆ อาจต้องพยายามสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ ให้มากขึ้น เริ่มจากคำทักทายสั้น ๆ “อรุณสวัสดิ์ เมื่อคืนเป็นไงบ้าง” หรือประโยคบอกลาง่าย ๆ อย่าง “กลับบ้านดี ๆ ไว้เจอกันใหม่พรุ่งนี้”

เมื่อคุณเริ่มบทสนทนากับเพื่อนร่วมงานและพยายามปรับตัวให้พูดคุยมากกว่าเดิม รับประกันว่าเพื่อนร่วมงานก็จะทำแบบเดียวกันกับคุณและคุณจะไม่รู้สึกเหงาในที่ทำงานอีกต่อไป

เปลี่ยนพฤติกรรมการทำงาน

แม้งานที่มีรายละเอียดยิบย่อยหรือเป็นทางการจะต้องส่งผ่านอีเมลเสมอ แต่ตารางนัดหมายหรือข้อมูลสั้น ๆ ที่บอกปากเปล่าได้ หนุ่ม ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้อีเมลเป็นสื่อกลาง เราแนะนำให้ลุกขึ้นยืนและมุ่งหน้าไปพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานคนนั้น ๆ แทน วิธีนี้จะช่วยทำให้พฤติกรรมการทำงานของคุณเปลี่ยนไป และสร้างบรรยากาศสนุกสนานในที่ทำงานได้มากยิ่งขึ้น

มีส่วนร่วมในกิจกรรม

ลองหาเวลาว่างไปกินข้าวกลางวัน ซื้อกาแฟ หรือนั่งคุยสังสรรค์หลังเลิกงานกับเพื่อนคนอื่น ๆ ดูสักครั้ง การมีส่วนร่วมในกิจกรรมอื่น ๆ นอกเหนือจากงานจะช่วยทำให้คุณได้สนิทสนมกับคนใหม่ ๆ เผลอ ๆ อาจจะได้เพื่อนสนิทที่มาช่วยคลายเหงาในวันทำงานแสนน่าเบื่อของคุณก็ได้นะครับ

ทำความรู้จักกับรุ่นพี่ในที่ทำงาน

อีกวิธีที่ช่วยกำจัดความเหงาในที่ทำงานได้ คือต้องเริ่มทำความรู้จักกับรุ่นพี่หรือคนที่ทำงานมาก่อนเราเสียก่อน เขาผู้นั้นต้องเป็นบุคคลที่ช่างพูดช่างคุย มีทักษะการเข้าสังคมที่ดี และทำงานในออฟฟิศนานพอที่จะรู้จักกับคนมากมาย

ลองไปตีซี้กับคนนั้นดูนะครับ เผื่อเขาจะแนะนำคุณให้เพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ รู้จัก แล้วเมื่อรู้จักคนมากขึ้นคุณก็จะไม่เหงาและได้ทำงานอย่างมีความสุขท่ามกลางบรรยากาศการทำงานที่ดี

เรียนรู้ที่จะมีอารมณ์ขัน

เสียงหัวเราะเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยยกระดับความสัมพันธ์ของคนให้สนิทสนมกลมกลืนกันมากยิ่งขึ้น หากคุณเป็นคนตลกโปรดใช้ความสามารถพิเศษนี้ในการเข้าสังคมหรือยิงมุกขำ ๆ ให้เพื่อน ๆ ได้หัวเราะกัน

แต่ถ้าคุณเป็นคนเงียบ ๆ และไม่สันทัดในมุกห้าบาทสิบบาท เราแนะนำให้เปิดใจและค่อย ๆ ซึมซับมันไป เมื่อต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สนุกสนานครึกครื้น ไม่นานคุณก็จะกลายเป็นคนที่สนุกสนานและมีอารมณ์ขันมากขึ้น

แม้หลายคนจะคิดว่า ‘ความเหงา’ คงไม่ได้มีผลต่องานที่ทำมากเท่าไร แต่จริง ๆ แล้วพิษของความเหงานั้นร้ายแรงกว่าที่คิด เพราะเมื่อไม่พูดคุยสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานคนอื่น ก็อาจทำให้สภาพแวดล้อมในการทำงานย่ำแย่และส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานของทีมลดลงด้วยเช่นกัน

มนุษย์เป็นสัตว์สังคมจึงไม่อาจเลี่ยงการพบปะ พูดคุย หรือแม้การทำงานร่วมกับ ‘คน’ ได้ แม้งานบางประเภทจะไม่จำเป็นต้องพูดคุยตอบโต้กันอยู่ตลอดเวลา แต่ต้องยอมรับว่าเพียงบทสนทนาสั้น ๆ ก็ช่วยให้พนักงานทำงานเข้าขากันและทำให้งานราบรื่นมากยิ่งขึ้น

SOURCES: 1 / 2