“ไปเจอคนหนึ่ง…” คำพูดจากคนหนึ่ง อาจเปลี่ยนอีกคนหนึ่งสู่ความสำเร็จและการเรียนรู้

ไม่ว่าคุณจะนั่งทำงานอยู่ที่ไหน กำลังจิบกาแฟร้านดังอยู่หรือชงกาแฟกินเอง หากคุณก้าวเท้าออกจากบ้านย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่คุณจะต้องปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น ไม่เราต้องเข้าไปติดต่อเขา พวกเขาก็เป็นคนเดินเข้ามาหาเราเอง และส่ิงเหล่านี้คือตัวแปรที่คุณควบคุมไม่ได้ ซึ่งบางคนในนั้นคือคนสำคัญที่จะเข้ามาเปลี่ยนชีวิตของคุณไปตลอดกาล

หลายครั้งที่เรานั่งฟังคนประสบความสำเร็จเล่าเรื่องราวชีวิตแล้วพบว่า นอกจากการต้องเผชิญหน้ากับปัญหาจากการลงมือทำงานด้วยตัวเองนับครั้งไม่ถ้วนเพื่อปีนป่ายจนถึงยอดเขาแห่งความสำเร็จแล้ว ผู้คนระหว่างทางก็เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เขาเติบโตขึ้นเช่นกัน คำพูดของใครบางคนจึงเป็นจุดเริ่มต้นของ Mind set ที่ยิ่งใหญ่หรือทำให้เขาสามารถก้าวสู่ความสำเร็จได้ และนี่คือ 4 คนดังคุ้นหน้าที่เป็น Iconic ของความสำเร็จและบทสนทนาที่เปลี่ยนชีวิตของพวกเขา

1st World Billionaire: Jeff Bezos

ถ้าพูดถึงความสำเร็จระดับโลกจะลืมผู้ชายคนนี้ไปไม่ได้ เพราะเขาคือเจ้าพ่อเว็บ E-commerce ชื่อดังอย่าง Amazon และได้รับการจัดอันดับจากสื่อใหญ่หลายเจ้าไม่ว่าจะเป็น Forbes และ Bloomberg ให้เป็นมหาเศรษฐีที่มีมูลค่าทรัพย์สินสูงที่สุดของโลกในปีนี้

แน่นอนว่าเรื่องสัญชาตญาณและความเป็นอัจฉริยะของเขาจากการขึ้นตำแหน่งสำคัญตั้งแต่อายุยังน้อยนั้น เป็นเรื่องที่ทุกคนรู้ดี แต่จุดเปลี่ยนหนึ่งของเขาคือการได้พูดคุยกับหัวหน้าในครั้งที่เขาจะเสนอการ E-commerce ด้วยวิสัยทัศน์ที่มองเห็นการเติบโตของธุรกิจกว่า 2300 % ในวันนั้น

เจ้านายมาบอกว่าไม่มีวันทำได้สำเร็จ:

“นายมีงานที่ดี ๆ ทำอยู่แล้วนะ ทั้งรายได้และเงินโบนัส คิดดี ๆ นะ”

จากคำพูดนั้นที่เขาคุยด้วยทำให้เขาตัดสินใจลาออกและเลือกเดินหน้าทำตามฝันของตัวเอง โดยได้รับแรงสนับสนุนจาก Mackenzie ผู้เป็นภรรยาให้ลงมือทำ เขาจึงเดินหน้าบุกเบิกและตะลุยมาเรื่อย ๆ นับตั้งแต่วันที่ Amazon เริ่มต้นการขายหนังสือออนไลน์จนวันนี้ขยายประเภทสินค้าออกลูกออกหลานมากมายหลายประเภท ขายไปเสียทุกอย่างจนประสบความสำเร็จกลายเป็น E-commerce ที่ทั่วโลกสามารถสั่งซื้อสินค้าได้และคิดถึงเป็นอันดับต้น ๆ

Phenomena & Propaganda : Satit Kalawantavanich

มาต่อกันที่แบรนด์เอเจนซี่โฆษณาเนื้อหอมของไทยที่ขึ้นแท่นกวาดมายาวถึง 500 รางวัล อย่าง Phenomena ที่มีผู้ริเริ่มอย่างพี่แก่ สาธิต กาลวันตวานิช ที่ไม่ว่าจะแตะอะไรในสายตาคนภายนอกก็ดูจะมือขึ้นไปหมด ทั้งที่ในความเป็นจริงเขาเองก็เคยมีวันที่เกือบพังไม่ได้กับกิจการดีไซน์กราฟิกและโปรดักดีไซน์บริษัท Propaganda ซึ่งเป็นเจ้าของโปรเจ็กต์การออกแบบพื้นที่สร้างสรรค์มากมาย รวมถึงตึก FYI ที่ตั้งตระหง่านอยู่แถวย่านคลองเตยด้วย

เพื่อนมาบอกว่าเจ๊ง

“คือเริ่มทำไปแล้วเพื่อนก็เดินเข้ามาแล้วบอกว่า ไอ้แก่มึงเจ๊งแน่”

กิจการที่ทำจากไฟและแรงบันดาลใจ แต่โลกของธุรกิจมีเบื้องหลังหลายเรื่องที่หน้าใหม่ไม่รู้ พี่แก่เป็นตัวอย่างหนึ่งของคนเกือบล้มเพราะความไม่รู้เช่นเดียวกับนักธุรกิจอีกหลายคน ถมเงินลงไปในหลุมดำจนเงินจม แต่ผลจากการคุยในครั้งนั้นและการเริ่มต้นธุรกิจที่ก้าวพลาดไปทำให้เขาตระหนักแม้จะก้าวไปทางที่ผิดพลาดแต่เป็นทิศทางที่ถูกต้อง จึงทำให้เขาไม่ประมาทกับเส้นทางธุรกิจที่ลงมือทำและดื้อแพ่งเดินหน้าต่อในสิ่งที่เชื่ออย่างรอบคอบจนในที่สุดสามารถพาเขาผ่านปัญหาธุรกิจได้สำเร็จ รวมทั้งได้เพิ่มมุมมองใหม่ที่กว้างกว่าโลกโฆษณาที่เขาคุ้นเคย

SOURCE

Singer : Pramote pathan

มาถึงสายนักร้องบ้านเรากันบ้าง ตอนนี้เขาถือเป็นเจ้าพ่อความบันเทิงที่เทิร์นความเวิ้งว้างของการจ้างงานเพื่อร้องเพลงปีละไม่กี่ตัว ไปสู่ความสำเร็จได้ด้วยการโชว์คาแรคเตอร์ความเป็นมนุษย์ของตัวเองผ่านรายการทางโซเชียลที่พาเขาดังเป็นพลุแตกอย่าง Paloy’s Diary

ชาวโซเชียลมาด่าผ่านอักษร

“พี่เป็นศิลปิน พี่พูดเหี้ยอะไรวะ ไอ้ควาย หมาเอ๊ย พ่อแม่ไม่สั่งสอน”

แม้จะเป็นคนหัวเราะง่าย อารมณ์ดี ไม่ยี่หระต่อโลกใบนี้ แต่สิ่งที่โอ๊ต ปราโมทย์ ปาทานได้รับจากการทักทายด้วยถ้อยคำแรง ๆ เหล่านี้ ช่วงแรกเขาก็ยอมรับตรง ๆ ว่ามันทำให้เขาที่เป็นคน sensitive รู้สึกนอยด์ไม่น้อย แต่สุดท้ายมันก็กลายบททดสอบสำคัญที่ทำให้เขาจัดการกับ Mind Set ของตัวเองต่อคำคอมเมนต์เหล่านี้ได้ด้วยคำว่า “ช่างแม่งครับ” เลิกให้ค่ากับคอมเมนต์ที่ไม่ใช่การติเพื่อก่อทั้งหลาย และเดินหน้ามอบความสุขผู้คนด้วยความสุขของตัวเองต่อไป ปล่อย Single เพราะ ๆ ให้ฟัง ทอล์กให้เพลิน และอีกหลายบทบาทที่เราเห็นเขาผ่านสื่อหลายช่องทาง

SOURCE

WoodyWorld Founder : Woody Milintachinda

จอมเจาะใจ ไขชีวิตด้วยคำพูดแรง ๆ เรานับถือเขาในฐานะนักค้นแรงบันดาลใจและความในใจของผู้คนด้วยความกล้า ความสามารถล้น สร้างสรรค์ความแปลกใหม่ให้วงการสื่อ “วู้ดดี้” คือชื่อเล่นที่คนเรียกเขา “วุฒิธร- มิลินทจินดา” จนติดปาก เขาคือคนทำงานที่มีทั้งลูกขยันและลูกบ้ามากมายชนิดหาตัวจับได้ยาก แต่วันนี้ความแรงและคำแรงของเขาดรอปลงจากคาแรคเตอร์ที่ทำให้เขาโด่งดังอย่าง “วู้ดดี้ เกิดมาคุย” ซึ่งทั้งหมดมีที่มาจากการพูดคุยกับคนสำคัญที่เข้ามาล้าง Mind set ทั้งหมดของเขา ซึ่งต่างจากคนที่ประสบความสำเร็จทั้งหมดด้านบน เพราะคนคนนั้นคือตัวเขาเอง

ตัวเองมาบอกว่าหยุดเถอะ

“พี่ถามตัวเองว่า เห้ย ทำไมพี่ต้องทำอย่างนั้นอีกอะ วันนั้นพี่รู้สึกว่ามันใช่ เราอยากได้เรตติ้ง เราก็เลยถามแรง ๆ เราคิดว่าคนน่าจะชอบ แต่วันนี้พี่รู้สึกว่ามันแปลก ๆ …เราเสียเวลามาเยอะกับการถามคำถามที่ผิด คำถามที่ควรถามควรเป็นคำถามเชิงคุณภาพ”

ผลลัพธ์จากการพูดคุยกับตัวเองของเขาครั้งนั้นทำให้เขากลายเป็นนักฟังที่ดียิ่งขึ้น และรู้สึกดีต่อการสร้างงานคุณภาพที่มีค่ามากกว่าความแรง เรียกได้ว่าเป็นคนสื่อคุณภาพอย่างแท้จริง และจุดเปลี่ยนความคิดครั้งนี้กลายเป็นพื้นฐานที่เขาใช้ในการทำงานชิ้นอื่นจนประสบความสำเร็จมากมาย

SOURCE

นับเป็นหนทางสู่ความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากการพูดคุยกับผู้คนหลากหลายสถานะรอบข้างเรา เราเชื่อว่าทุกวันนี้หลายคนหลงทางอยู่กับการวิ่งหาแรงบันดาลใจเพื่อผลักดันตัวเองจากภายนอกที่ไกลออกไป ทั้งที่ความจริงบางครั้งมันอยู่ใกล้กว่าที่เราคิด ดูอย่างคนประสบความสำเร็จด้านบนที่เรายกตัวอย่างแต่ละคนคงทำให้เห็นแล้วว่า บางครั้งคนที่เข้ามาเปลี่ยนโลกทั้งใบของพวกเราได้ไม่จำเป็นต้องเป็นคนดังสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนทั้งโลก แต่เป็นใครคนหนึ่งรอบข้างเท่านั้น

แล้วคุณล่ะได้ “ไปเจอคนหนึ่ง” ของคุณแล้วหรือยัง