FASHION

เจาะลึกสงคราม Flyknit vs Primeknit ใครมาก่อนหลัง วันนี้ได้รู้กัน

By: Thada August 19, 2016

ตามหลักทางพันธุกรรมมนุษย์ถูกออกแบบมาให้มีวิวัฒนาการต่อไปเรื่อยๆ เพื่อป้องกันการสูญพันธ์ ของเผ่าพันธ์ุ มนุษย์ในแต่ละยุคถึงมีความชาญฉลาดเพิ่มมากขึ้น สามารถคิดค้นนวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่  ออกมารองรับความต้องการที่มีมากขึ้นไปแบบไม่จำกัด  สิ่งที่ตามมาหลังจากการพัฒนาแบบไม่หยุดหยั้ง คือจะมีคนที่เหนือกว่า  และด้อยกว่า  จนเกิดเป็นการแข่งขันเพื่อหาสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเผ่าพันธุ์

ดังตัวอย่างเช่น  การแข่งขันของวงการรองเท้ากีฬาที่หากถามเรา แบรนด์ไหนดีที่สุด เราคงตอบไม่ได้ เพราะทุกแบรนด์มีจุดเด่น และนวัตกรรมเฉพาะตัว ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล  และตอนนี้ก็มีนวัตกรรมหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในแวดวงรองเท้าคือ นวัตกรรม Knit ( การใช้ผ้าถัก ) ซึ่งเกิดเป็นข้อถกเถียงกันมากมายระหว่างสองค่ายใหญ่ Nike และ Adidas ว่าใครเป็นคนเริ่มต้นคิดค้นเป็นเจ้าแรก วันนี้ทีมงาน UNLOCKMEN รวบรวมข้อมูลเจาะลึกเกี่ยวกับ Knit Technology มาแชร์กัน

160819-flyknitvsprimeknit-23

160819-flyknitvsprimeknit-22

ก่อนอื่นเราขอขยายความคำว่า Knit เสียก่อน นวัตกรรม Knit คือการใช้ผ้าในการทอเป็น บริเวณ Upper ของรองเท้าเพื่อให้รองเท้ามีความเบา หรือกระชับเหมือนกับการใส่ถุงเท้าอย่างใดอย่างนั้น และแบรนด์ที่มีการเปิดตัวการใช้นวัตกรรมที่เราพอจะหาข้อมูลได้คือ Nike เขาใช้เวลากว่า 30  ปีในการศึกษาค้นคว้าข้อมูลของนักวิ่ง กว่าจะประสบความสำเร็จในการสร้าง Nike Flyknit แบบทุกวันนี้

จุดเริ่มต้นมาจาก Nike ได้ทำการค้นคว้าว่านักกีฬาที่ถอดรองเท้าวิ่งสามารถทำเวลาได้ดีกว่าการวิ่งแบบใส่รองเท้า เหล่านักวิ่งจึงร้องขอ Nike ให้ทำรองเท้าที่ให้ความรู้สึกเหมือนกับการใส่เพียงถุงเท้าขณะวิ่ง Nike จึงกลับไปทดลองศึกษาจนกำเนิดเป็นรองเท้ารุ่น Sock Racer ในปี 1985 ที่ทำมาจากเส้นด้าย และไม่มีเชือก โดยเขาให้นักกีฬาไตรกีฬาที่ชื่อว่า Joanne Ernst สวมใส่ลงแข่ง และเขาก็ชนะเลิศ ทำให้เริ่มมีคนพูดถึงอย่างมากเกี่ยวกับนวัตกรรม Sock

160819-flyknitvsprimeknit-12

Nike Sock Racer

หลังจากนั้นนวัตกรรมนี้ก็ห่างหายไปสักพัก  ก่อนจะกลับมาในปี 2002 เพราะโปรเจครวมเทพดีไซเนอร์รองเท้า “HTM” ที่มาจากชื่อของดีไซน์เนอร์หัวกะทิ อย่าง Hiroshi Fujiwara ผู้ก่อตั้ง Fragment Design , Tinker Hatfield รองประธานฝ่ายสร้างสรรค์ และ Mark Parker ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Nike ที่ต้องการทำรองเท้าล้ำสมัยแบบไร้ขีดจำกัด

160819-flyknitvsprimeknit-14

Nike Sock Dart ถูกออกแบบมาเพื่อชาว Sportwears ในปี 2004 โดยผ่านการคำนวณ และสร้างลวดลายจากคอมพิวเตอร์ เพื่อให้รองเท้ากระชับเข้ากับรูปเท้า และมีน้ำหนักเบา จึงเรียกได้ว่า Sock Dart คือต้นแบบของ Flyknit อย่างแท้จริง

160819-flyknitvsprimeknit-13

Original Sock Dart (2004)

ทีมวิจัยของ  Nike ไม่ลืมที่จะนำข้อมูลเหล่านี้เพื่อไปพัฒนาต่อในโปรเจค  Flyknit  และต้องใช้เวลาถึง 4 ปีกว่าจะมาเป็นเทคโนโลยี  Mirco-Engineering  สำหรับผลิตรองเท้าวิ่งที่เบา กระชับ ราวกับใส่ถุงเท้าขณะวิ่ง พวกเขาได้นำรองเท้าต้นแบบคือรุ่น  Racer และ  Trainer ที่มีน้ำหนักเพียง 160 กรัม  ( size 9 us ) ซึ่งเบากว่ารุ่น  Nike Zoom Streak 3 ถึง 19 % ให้กับนักวิ่งมาราธอนลงแข่งขันในรายการ World Championships ในปี 2011 ผลปรากฎว่านักกีฬาที่ใส่รองเท้ารุ่นดังกล่าวสามารถเข้าเส้นชัยในอันดับ 1,2 และ 3

160819-flyknitvsprimeknit-16

160819-flyknitvsprimeknit-15

หลังจากนั้น  Mark Parker ( CEO , Nike ) ได้กล่าวในงานแถลงข่าวแสดงถึงความมั่นใจว่าวงการกีฬาจะเปลี่ยนไปตลอดกาลด้วยนวัตกรรมผ้าถักนี้จาก Nike และก็เป็นจริงดังที่เขากล่าว เพราะในมหกรรมกีฬา  London Olympic 2012  Nike ได้เปิดตัวนวัตกรรม Flyknit อย่างเป็นทางการและได้สนับสนุนเหล่านักกีฬาที่ลงแข่งขันมากมาย

นักกีฬาที่สวมใส่  Flyknit สามารถทำผลงานได้ดี  ทำลายสถิติต่างๆ อย่างเป็นปรากฎการณ์  ไม่ว่าจะเป็นประเภทเดี่ยว หรือทีม อาทิ  Michael Phelps  ที่ชนะ  4 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน  ได้กล่าวว่า  “อุปกรณ์ที่ผลิตมาจาก Flyknit  มีส่วนช่วยทำให้ผมสามารถทำลายสถิติโลก และสร้างผลงานได้ดีขนาดนี้”

160819-flyknitvsprimeknit-4

160819-flyknitvsprimeknit-6

หลังจาก  Olympic  จบลงเกิดเป็นกระแสมากมายให้พูดถึงเกี่ยวกับนวัตกรรมเปลี่ยนโลกชิ้นนี้ Flyknit ได้เข้าไปครองใจคนธรรมดาที่ไม่ใช่นักกีฬาอย่างรวดเร็ว เพราะหลังจากที่พวกเขาได้สวมใส่ ก็รู้สึกถึงความ นิ่ม เบา สบาย กระชับ และพูดกันปากต่อปาก  จนทำให้ทุกคนต้องหามาสวมใส่กันเป็น Key Piece Lifestyle Nike จึงไม่รอช้านำไป Flyknit ไปใส่ในรองเท้าประเภทอื่นอาทิ รองเท้าฟุตบอล รองเท้าบาสเก็ตบอล และรองเท้า Sportwears

160819-flyknitvsprimeknit-2

กลับไปที่แบรนด์  Adidas ในปี 2012 ก่อนที่ Olympic จะเริ่มขึ้น Adidas ก็ได้นำเสนอนวัตกรรมที่มีชื่อว่า Primeknit ที่เป็นการนำขยะเหลือใช้จากโรงงานมาแปรรูปเป็นผ้ามาถักเพื่อถอให้เป็นชิ้นเดียวทั้งหมดมาผลิตเป็น Upper รองเท้าที่ได้จะมีน้ำหนักเบา และใส่สบาย

160819-flyknitvsprimeknit-18

James  Carnes หัวหน้าทีมผลิตอุปกรณ์กีฬาของ  Adidas กล่าวว่า “โปรเจค Primeknit เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2008 ที่ Beijing Olympic ทีมงาน Adidas มองเห็นว่าต้องการทำรองเท้าที่มีน้ำหนักเบากว่า Adizero แต่ยังคงความคิดสร้างสรรค์สวยงาม และ Adidas ต้องการทำรองเท้าที่มีความแปลก แหวกแนวจากตลาดไปเลย เขาเลยเข้าไปคุยกับ Alex Taylor เพื่อเริ่มโปรเจคนี้ ก่อนจะมาเจอกับการ Knitting ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการทอผ้า Alex มองเห็นว่าถ้าสามารถทำให้เกิดขึ้นจริงได้มันจะเป็น นวัตกรรมที่สร้างปรากฎการณ์”

160819-flyknitvsprimeknit-9

AdiZero Primeknit

Adidas ต้องใช้เวลากว่า 4 ปีเช่นเดียวกับ Nike กว่าจะเจอจุดที่ลงตัวที่สุด จนเกิดเป็น AdiZero Primeknit ที่วางขายหลังจาก London Olympic ซึ่งวางจำหน่ายเพียง 2,012 คู่เท่านั้น นั้นแปลว่า ถ้านับจากช่วงเวลาแล้ว Adidas ลอก Nike หรือเปล่า ?

Nike เลยจัดการฟ้อง  Adidas ทันทีเพื่อให้  Adidas หยุดจำหน่าย และผลิตรองเท้า  Primeknit ทุกคู่ทันที โดยโฆษกของ Nike ได้กล่าวว่า  “เราไม่อาจยินยอมให้  Adidas นำความรู้ความสามารถของพวกเราเพื่อนำไปใช้จำหน่ายในตราของ Adidas ได้ ดังนั้นเราคิดว่ามันเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์จึงอยากให้ Adidas เลิกผลิต Primeknit อย่างถาวร”

จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ศาลออกคำสั่งให้ Adidas หยุดการขาย Primeknit ทั้งหมดไว้ชั่วคราว Adidas ปฎิเสธคำตัดสินดังกล่าว และหาข้อมูลหลักฐานมาเพื่ออ้างอิงถึงความชอบธรรมของพวกเขา ซึ่ง Technique ที่ใช้การผลิต Primeknit นั้นพวกเขามีมาตั้งแต่ปี 1940 แล้ว แต่ตอนนั้นยังไม่มีวัสดุที่เป็นเส้นด้ายแบบนี้ และเทคนิคการทอก็มีความต่างกัน ระหว่าง Primeknit กับ Flyknit ศาลเลยยกเลิกคำสั่งฟ้องของ Nike

ทั้งสองยังคงต่อสู้กันอย่างต่อเนื่อง แต่ Nike ก็ไม่สามารถชนะฟ้อง Adidas ได้ หากยึดจากสิทธิที่ Nike ใช้อ้างถึงสิทธิ์ ( สิทธิบัตรหมายเลข 7347011 ) ดังนั้นในเดือน ธันวาคม 2014  Nike ได้จดสิทธิบัตรใหม่โดยอ้างถึงนวัตกรรมที่ใช้ในการผลิตบริเวณ Upper ของรองเท้าภายใต้ชื่อการค้าว่า FLYKNIT สงครามยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง

160819-flyknitvsprimeknit-17

ใน World Cup 2014  Adidas ประกาศสงครามกับ Nike อย่างชัดเจน พวกเขาตอบโต้ Nike โดยการใช้เงินจำนวนมาก ดึงสามนักออกแบบคนสำคัญของ  Nike ได้แก่ Marc Dolce, Mark Miner และ Denis Dekovic  ก่อนมหกรรมบอลโลกจะเริ่มขึ้น และได้นำข้อมูลสำคัญต่างๆ ของ Nike เพื่อมาพัฒนานวัตกรรม Primeknit และออกแบบรองเท้าฟุตบอลรุ่น Primeknit FS ให้กับนักฟุตบอลในค่าย Adidas ใช้ลงเตะในฟุตบอลโลก จัดการเปิดตัวก่อนวันเปิดตัวของ Nike รุ่น Magista ที่เป็น Flyknit เพียงวันเดียว เรียกว่าเป็นการหักกันซึ่งๆ หน้า

160819-flyknit-27

Marc Dolce, Mark Miner , Denis Dekovic

160819-flyknitvsprimeknit-7

Adidas Primeknit FS

160819-flyknitvsprimeknit-11

Nike Magista

Adidas และ Nike  ยังคงมีข้อพิพาทเป็นไม้เบื่อไม้เมากันไม่จบไม่สิ้น  แต่จุดเปลี่ยนที่ทำให้ใครหลายคนอาจรู้จัก Primeknit อย่างจริงจัง คือเรื่องนี้ต้องโทษความสะเพร่าของ Nike ที่ขี้งกจนเกินไปจนสูญเสีย  Kanye West สุดยอด Influencer ของโลกไปให้คู่แข่ง ก่อนหน้านี้ที่เคยร่วมงานกับ Nike มายาวนาน Kanye ได้ร้องขอต่อ Nike ว่าหลังจาก  Nike Yeezy 2 เขาอยากได้ส่วนแบ่งจากการขายรองเท้ารุ่น  Yeezy ที่เขาเป็นผู้ออกแบบ แต่ทาง  Nike มองว่าการที่ให้เกียรติคนที่ไม่ใช่นักกีฬาอย่าง Kanye West มาร่วมออกแบบรองเท้ากับ Nike ตัว Kanye West ควรจะภูมิใจไม่ใช่มาร้องขอเงิน Kanye หัวเสียและประกาศจะไม่ร่วมงานกับ Nike อีกอย่างแน่นอน

160819-flyknitvsprimeknit-19

Nike Yeezy

Adidas เลยใช้จังหวะจากตรงนี้นำโปรเจคในฝันคือ Adidas Boost Technology มาให้ Kanye West ลองใส่ ซึ่ง Kanye ก็หลงรักในทันที บวกกับ  Adidas มอบข้อเสนอตามที่  Kanye West ต้องการคือแบ่งรายได้จากการขายรองเท้า Yeezy Collection พร้อมสนับสนุนการออกแบบเสื้อในไลน์ของเขาเอง  Kanye จึง Say Yes กับ Adidas

160819-flyknitvsprimeknit-20

หลังจากได้ตัว  Kanye West เขาก็จัดการเปิดตัวรองเท้ารุ่น Ultraboost และ NMD สองรุ่นเรือธงที่ใช้นวัตกรรม Primeknit ให้กับ  Kanye West และ Celebrity ใส่ออกสื่อ ซึ่งสามารถเรียกเสียงฮือฮา และกระแส Talk of The Town ให้ได้พูดถึง กลับกัน Nike ไม่ได้มีรองเท้ารุ่นอะไรที่พิเศษ ความนิยมต่างๆ รวมถึง Flyknit ของพวกเขาจึงตกลงไปทันที

160819-flyknitvsprimeknit-21

และสำหรับคนที่ไม่ได้อินกับชื่อแบรนด์เหล่านี้มาก ก็ยังมีแบรนด์รองเท้าอื่นที่เคยใช้นวัตกรรม Knit เช่นกัน เริ่มจากคู่แรกคือ Converse All Star II Knit อย่างที่เรารู้กันว่า  Converse ถูกซื้อไปโดย Nike การ Crossover เทคโนโลยีของสองแบรนด์จึงไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะก่อนหน้านี้ ก็มีการดึงพื้น Lunalorn ไปใช้นำร่องแล้ว คราวนี้จะดึง Knit มาใช้ก็คงไม่แปลก

160819-flyknitvsprimeknit-8

คู่ที่สองเป็นคู่ที่พีคมากๆ สำหรับ UNLOCKMEN เพราะเป็นการ Fusion ระหว่าง Nike และ Adidas  และก็โดน Nike ฟ้องไปแล้วเช่นกัน คือรองเท้าจากแบรนด์ Skechers รุ่น BURST ที่บริเวณ Upper จะเป็นแบบ Nike Flyknit แต่ใช้พื้น Boost แบบ Adidas ไม่รู้ไปรวมกันอีท่าไหน แต่ว่ากันว่าเป็นรองเท้าที่เบา และนิ่มสุดๆ

160819-flyknitvsprimeknit-10

คู่สุดท้ายเป็นรองเท้าจากแบรนด์ Puma Iginite ProKnit รองเท้าวิ่งที่เหมาะแก่การวิ่ง สำหรับคนที่เบื่อแบรนด์ Adidas กับ Nike

160819-flyknitvsprimeknit-1

จากเรื่องทั้งหมดนี้ไม่ว่าจะเป็น Flyknit หรือ Primeknit หรือแบรนด์ไหนๆ เราก็ไม่สามารถตัดสินได้ว่าจริงๆ แล้วใครเป็นคนมาก่อน หรือหลัง เพราะไม่มีหลักฐานที่ยืนยันได้อย่างชัดเจน  แต่สงครามระหว่างสองแบรนด์นี้คงไม่จบลงง่าย ถ้าดูดีๆเรื่องของสองแบรนด์กีฬานี้ก็ไม่ต่างจาก Microsoft และ Macintosh เมื่อสักประมาณ 20 ปีก่อน ที่ต่างฝ่ายต่างหยิบจุดเด่นของศัตรู มาปรับปรุง พัฒนาให้เป็นของตัวเอง แต่ถ้านับเฉพาะชั่วโมงนี้ต้องยอมรับว่า Primeknit กำลังนำขาด Flyknit ไปหนึ่งช่วงตัว

 

 

Thada
WRITER: Thada
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line