Entertainment

เป็นแฟน GAMER ต้องอดทน ผลสำรวจเผย FORTNITE ทำให้ผู้ชายเลิกกับภรรยาเพิ่มมากขึ้น

By: SPLESS September 19, 2018

สำหรับผู้ชายทุกคนโดยเฉพาะในวัยทำงาน การจัดสรรเวลาชีวิตประจำวันเป็นสิ่งสำคัญ เพราะนอกจากหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบแล้ว ครอบครัวหรือคนรอบข้างก็มีส่วนสำคัญกับชีวิตไม่แพ้เรื่องอื่น แถมยังต้องเผื่อเวลาไว้ทำกิจกรรมเพื่อการผ่อนคลาย เช่น ออกกำลัง อ่านหนังสือ หรือกระทั่งการเล่นเกม ซึ่งตอนนี้กำลังกลายเป็นประเด็น Talk Of The Town ในประเทศอังกฤษ เมื่อเกมยอดนิยมอย่าง Fortnite กำลังกลายเป็นจำเลยในข้อหาทำให้เกิดการหย่าร้างเพิ่มมากขึ้นในสังคมคนทำงาน

Recode

Fortnite คือวิดีโอเกมเปิดตัวครั้งแรกในปี 2017 โดยค่าย Epic Games เป็นเกมแนว Battle Royale ในมุมมองบุคคลที่สาม มีจุดเด่นคือการเล่นแบบ Open World  แต่ละรอบจะมีผู้เข้าร่วม 100 คน ทุกคนจะต้องเก็บเกี่ยวอาวุธและทรัพยากรเพื่อช่วยในการเอาชีวิตรอด  อารมณ์คล้ายกันกับเกม PUBG (Player Unknown Battlegrounds) แต่ต่างกันตรงที่ Fortnite มีโหมดการสร้าง (Building) สิ่งต่าง ๆเพื่อสนับสนุนการโจมตีหรือป้องกันระหว่างตัวผู้เล่นเอง โดยผู้ชนะจะมีเพียง 1 คนหรือ 1 ทีมเท่านั้น

แม้ในประเทศไทยอาจยังไม่ได้รับความนิยมมากนัก เพราะตอนนี้ Server ของตัวเกมมีการเปิดในโซน Europe, America และ Oceania เท่านั้น ซึ่งคงกำลังรอให้มีการเปิดในพื้นที่ Asia หรือ SEA ซึ่งเป็นตลาดใหญ่อัดแน่นไปด้วย Serious Gamer แม้จะไม่มีกลุ่มบ้านเรา แต่ภายในเวลา 1 ปี Fortnite ดึงดูดนักเล่นเกมทั่วโลกมากกว่า 125 ล้านคนเข้าไปแล้ว ที่น่าสนใจคือผู้เล่นส่วนใหญ่ของเกมนี้ไม่ใช่เด็กและวัยรุ่น แต่เป็นผู้ชายวัยทำงานหรือมีครอบครัวแล้วมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์

fpsnews

ล่าสุด Divore-Online เว็บไซต์เก็บสถิติการหย่าร้างชื่อดังของประเทศอังกฤษ ได้ออกมาเปิดเผยตัวเลขที่น่าสนใจเกี่ยวกับการเลิกรากัน โดยบอกว่าตั้งแต่เดือนมกราคมปี  2018 –ปัจจุบัน มีคู่รักยื่นข้อมูลการขออย่ามากกว่า 300 คู่ คิดเป็นจำนวน 5 เปอร์เซ็นต์จากจำนวน 4,665 คู่ที่เริ่มชีวิตคู่ร่วมกันมาตั้งแต่ต้นปี โดยชี้แจงว่าสาเหตุหลักมาจากผู้ชายมีพฤติกรรมติดเกม Fortnite และเกมออนไลน์อื่น ๆ อย่างหนักมาก ทำให้สูญเสียเวลาที่เคยใช้ร่วมกัน ก่อนจะบานปลายสู่การเลิกกันในท้ายที่สุด เรียกว่าไม่ติดเกมจนไม่เป็นอันทำการบ้านกันเลยว่างั้น

 

Reddit

ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีปัญหาเรื่องของเงิน ๆ ทอง ๆ มาเกี่ยวข้องอีกด้วย เมื่อมีการเปิดเผยเพิ่มเติมว่าผู้เล่นส่วนใหญ่จะใช้จ่ายเงินเฉลี่ยแล้วคิดเป็นจำนวน 85 ดอลล่าร์ เพื่อซื้อชุดหรือไอเทมพิเศษจากเกมดังกล่าว เนื่องจากตัวเกมเปิดให้เล่นฟรีแต่อาจจะต้องเสียเงินพื่อซื้อของอัพสกิลให้เท่กว่าใคร จึงเป็นค่านิยมที่หลายคนทำกัน ล่าสุด Fortnite ฟันรายได้จากนักเล่นได้มากถึง 300 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ และมีจำนวนผู้เล่นเพิ่มขึ้นหลักสิบล้านคนในทุก ๆ เดือนอีกด้วย

ส่ิงที่ตามมาคือคู่รักฝ่ายหญิงมองว่า Fortnite ไม่ได้มีอะไรต่างจากการพนันหรือยาเสพติด ที่ทำให้ฝ่ายชายเสียทั้งเวลาและทรัพย์สินไปพร้อม ๆ กัน

Metro

อันที่จริงเรื่องทั้งหมดหากมองดี ๆ มันแทบไม่ใช่ความผิดของตัวเกมเลย ตรงกันข้ามคนเล่นต่างหากที่ควรเป็นคนกำหนดตารางเวลาของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเวลาหรือเงินที่ใช้ เพราะในปัจจุบันเรื่องของ Gamer ก็กำลังเป็นที่ถกเถียงอย่างมากในบ้านเรา จากความต้องการผลักดันเกมเข้าสู่การเป็น eSport  ซึ่งต้นเรื่องก็เป็นกรณีเดียวกันว่าด้วยเรื่อง คน หรือ เกม มีอำนาจควบคุม เพราะกิจกรรมทุกอย่างล้วนมีประโยชน์ของตัวมันเองหากเราใช้เวลากับมันอย่างถูกวิธี

หวังว่าคงเป็นเครื่องเตือนใจให้กับผู้ชายที่ยังลำดับความสำคัญไม่ถูกต้อง เพื่อเป็นกรณีตัวอย่างป้องกันไม่ให้มีปัญหาแบบเดียวกันนี้เกิดขึ้นกับตัวเองจนถึงขั้นโดนบอกเลิกกันไปให้เจ็บใจในอนาคต

 

 SOURCE1

SPLESS
WRITER: SPLESS
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line