2018 WORLD CUP กับปีทองของ NIKE ที่สร้างสถิติและโอกาสเอาไว้มากมายคุ้มเกินคุ้ม

นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่คู่ชิงชนะเลิศของฟุตบอลรายการใหญ่ที่สุดของโลกต่างใส่ชุดแข่งของไนกี้ และนี่ยังเป็นบทสรุปอันน่าประทับใจของไนกี้ตลอดการแข่งขันฟุตบอลระดับนานาชาติรายการสำคัญที่สุดที่มีการทำสถิติใหม่ๆ มากมาย

ในโอกาสนี้ เอลเลียต ฮิลล์ ประธานฝ่ายผู้บริโภคและช่องทางจัดจำหน่าย (President of Consumer and Marketplace) ของไนกี้ กล่าวว่า “ในการแข่งขันครั้งนี้ ทีมที่ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ 3 ใน 4 ทีม ใส่ชุดแข่งของไนกี้ และทีมที่ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศทั้ง 2 ทีม ต่างสวมชุดแข่งของไนกี้ เราผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆ สำหรับกีฬาฟุตบอลมาแล้วกว่า 2 ทศวรรษ และการแข่งขันครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่คู่ชิงชนะเลิศของฟุตบอลรายการใหญ่ที่สุดของโลกต่างใส่ชุดแข่งของไนกี้”

ในการแข่งขันฟุตบอลระดับนานาชาติรายการสำคัญที่แฟนบอลเฝ้ารอชมนี้ ทีมที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย 10 จาก 32 ทีม เลือกใช้ชุดแข่งของไนกี้ ซึ่งรวมถึง 3 จาก 4 ทีมที่ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ (ได้แก่ ฝรั่งเศส โครเอเชีย และอังกฤษ) และชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของทีมชาติฝรั่งเศสในนัดชิงชนะเลิศส่งผลให้ทีมชาติฝรั่งเศสสามารถปักดาวแชมป์โลกดวงที่ 2 ลงบนเสื้อแข่งของพวกเขาได้สำเร็จ

ฮิลล์กล่าวเพิ่มเติมว่า “นอกเหนือไปจากชุดแข่งแล้ว ไนกี้ยังเป็นแบรนด์ที่ชนะใจนักฟุตบอลมากมาย เพราะนักฟุตบอลระดับชั้นนำหลายต่อหลายคนเลือกใช้รองเท้าฟุตบอลของไนกี้ เวลารวมของการลงเล่นในสนามโดยนักฟุตบอลที่สวมใส่รองเท้าฟุตบอลไนกี้นั้นสูงถึงร้อยละ 65 ของเวลาที่ใช้ในการแข่งขันทั้งหมด”

หนึ่งในนักฟุตบอลที่เลือกสวมใส่รองเท้าฟุตบอลไนกี้นั้นคือ คิลิยัน เอ็มบับเป้ ดาวเตะวัย 19 ปี เจ้าของรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมของการแข่งขันครั้งนี้ และหนึ่งในนักฟุตบอลที่กลายเป็นคนดังในชั่วข้ามคืน โดยประตูอันสวยงามที่เอ็มบับเป้ยิงได้ในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศนั้นคือสิ่งที่แสดงถึงฝีเท้าอันยอดเยี่ยมของเขาได้อย่างชัดเจนที่สุด อีกด้านหนึ่ง ลูก้า โมดริช กองกลางทีมชาติโครเอเชียซึ่งไนกี้เป็นผู้สนับสนุนชุดแข่งด้วยนั้นเป็นผู้ที่ได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยม และนักฟุตบอลที่ไนกี้ให้การสนับสนุนอีกคนหนึ่งคือตีโบ กูร์ตัว ผู้รักษาประตูชาวเบลเยียม ยังได้รับรางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมของการแข่งขันครั้งนี้ด้วย

อีกหนึ่งความสำเร็จของไนกี้คือการคว้าตำแหน่งผู้ทำประตูรวมสูงสุดของ แฮร์รี่ เคน ศูนย์หน้าของทีมชาติอังกฤษที่ทำประตูได้ถึง 6 ลูก และทั้ง 6 ลูกที่เคนยิงได้ส่งผลให้นักฟุตบอลที่สวมใส่รองเท้าฟุตบอลของไนกี้สามารถทำประตูในการแข่งขันฟุตบอลรายการสำคัญที่สุดของโลกได้แล้วถึง 100 ลูก โดย 66 ลูกในจำนวนนี้ทำได้โดยผู้เล่นที่สวมใส่รองเท้าเมอร์คิวเรียล 360 ซึ่งสอดคล้องกับวาระครบรอบ 20 ปีของรองเท้าฟุตบอลตระกูลเมอร์คิวเรียลพอดี

ไนกี้เริ่มสร้างสีสันให้กับการแข่งขันฟุตบอลระดับนานาชาติที่ทั่วโลกเผ้ารอด้วยคอลเลกชั่นชุดแข่งสำหรับทุกชาติที่ไนกี้สนับสนุนและผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายของการแข่งขัน โดยสไตล์ที่ดูคลาสสิกของคอลเลกชั่นชุดแข่งเหย้าและเครื่องแต่งกายของทีมชาติไนจีเรียเป็นที่ชื่นชอบทั่วโลก ส่วนเสื้อซ้อมของทีมชาติอังกฤษนั้นเป็นเสื้อซ้อมสไตล์เรโทรที่แฟนบอลชาวอังกฤษนับแสนเลือกสวมใส่เมื่อออกมาชมฟุตบอลตามลานกว้างหรือสถานที่สาธารณะต่างๆ

ฟุตบอลรายการสำคัญที่สุดของโลกในครั้งนี้เป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำของไนกี้อย่างแท้จริง ตลอด 1 เดือนของการแข่งขันที่จัดขึ้นในประเทศรัสเซีย ไนกี้นำเสนอแคมเปญบีลีฟ (Believe Campaign) ที่พูดถึงเรื่องราวของนักเตะดัง อาทิ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เนย์มาร์ จูเนียร์ และอีกมากมายสู่แฟนบอลทั่วโลก คลิปวิดีโอต่างๆ ของแคมเปญนี้มีผู้เข้าชมกว่า 100 ล้านครั้ง และมียอดปฏิสัมพันธ์กว่า 50 ล้านครั้ง ยิ่งไปกว่านี้ ไนกี้ยังสร้างสีสันตลอดช่วงการแข่งขันด้วยการวางจำหน่ายเครื่องแต่งกายรุ่นพิเศษมากมาย (รวมถึงเครื่องแต่งกายรุ่นพิเศษอันโด่งดังที่ได้รับอิทธิพลจากบรรยากาศของกรุงเบอร์ลิน) และการจัดลานกิจกรรม BOX Msk ที่สวนกอร์กี้พาร์ก กรุงมอสโก (ซึ่งแฟนๆ ให้ความสนใจร่วมแข่งขันและชมฟุตบอลรายการพิเศษ “คอรับก้า รีเบลส์ – Korobka Rebels ที่มีการแข่งขันรวมกว่า 1,000 นัด และมีแฟนๆ อีกว่า 2,500 คนร่วมกิจกรรมคัสตอมเสื้อฟุตบอลอีกด้วย)

คลิกเพื่อชมคลิปวิดีโอพิเศษ “WE WON IT IN FRANCE” โดยไนกี้ฟุตบอล