ผีไม่มีจริง และนี่คือเหตุผลสนับสนุนที่เราอยากชวนให้คิดตาม

ย้อนไปตอนที่ยังเด็ก พวกเราล้วนถูกปลูกฝังให้มีความกลัวผีกันเป็นเรื่องธรรมดา อาจจะมีสาเหตุมาจากที่พ่อแม่หรือญาติผู้ใหญ่ ต้องการขู่ให้เรากลัวเพื่อห้ามปรามไม่ให้เราทำอะไรบางอย่าง ซึ่งเป็นการสอนที่ค่อนข้างจะถูกใช้เป็นวงกว้าง บวกกับความที่บ้านเมืองเราเป็นเมืองพุทธ บรรยากาศหลายๆ อย่างยิ่งสนับสนุนแนวคิดว่า ผี มีจริง ไม่ว่าจะเป็น หมอผี ป่าช้า พิธีกรรมต่างๆ ภาพยนตร์ รายการทีวี ทุกอย่างเท่าที่เราจะนึกออก ล้วนต้องมีเรื่องผีสางเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งนั่นคือผลที่ตามมาจากการถูกสั่งสอนแบบ Old School ทำให้ ผี มีตัวตนอยู่ในรากความคิดถึงทุกวันนี้

เราเห็นทั้งคนที่กลัวผี จึงไม่กล้าทำความผิด เราเห็นคนที่ไม่กลัวผี จึงกล้าเอาเรื่องผีมาหากิน ลองดูบรรดาเกจิอาจารย์ ร่างทรงไร้สาระ รายการทีวีท้าผีที่ไม่เคยเจอผี คนมีจิตสัมผัส สาวมีตาทิพย์ แม้พวกเราจะเดินหน้ามาสู่ปี 2016 สิ่งเหล่านี้ก็ยังคงได้รับความนิยมในด้านความคิดอย่างไม่น่าเชื่อ

ตัวผู้เขียนเองก็เคยกลัวผีอย่างหนัก เรียกว่าปิดไฟหรือเจอซอยมืดเป็นไม่ได้ ภาพผีสาง เสียงเคาะเสียงเดินที่แปลกหู กลิ่นเหม็นเน่าที่ไม่มีอยู่จริง ล้วนปรากฏขึ้นในหัวสมองแทบจะทันที บวกกับความหวาดกลัวของคนข้างๆ ยิ่งบิ้วให้เกิดความรู้สึกว่า “เชี่ย ผีชัวร์เลยหวะ” แต่หลังจากผู้เขียนได้อ่านหนังสือเก่าแก่ชื่อ “ปลาที่ว่ายในสนามฟุตบอล” ของ คุณวินทร์ เลียววาริณ นักเขียนมือทองของประเทศไทย ซึ่งเป็นหนังสือที่ว่าด้วยแง่คิดในมุมวิทยาศาสตร์ เพื่ออธิบายเรื่องเหลือเชื่อต่างๆ หนึ่งในนั้นก็คือเรื่อง ผีสางวิญญาณร้าย และมันเป็นตัวตั้งต้นทำให้เราคิดต่อได้ ถึงขั้นตัดสินใจเลิกกลัวผีอย่างถาวร และนี่คือเหตุผลทั้งหมดที่ทำให้เราคิดว่าผีไม่มีจริง

คนตาย อาจจะเป็นวิญญาณได้ แต่เสื้อผ้า ไม่มีทางกลายเป็นวิญญาณได้

ข้อคิดตั้งต้นที่เราได้จากการอ่านหนังสือของคุณวินทร์ เลียววาริณ ทำให้ฉุกคิดได้ว่า ทำไมผีที่ทุกคนเห็นมาตั้งแต่สมัยโบราณกาล ถึงได้มีเสื้อผ้าใส่กันเกือบจะทุกชนิด ถ้ามนุษย์มีดวงวิญญาณที่เปลี่ยนสถานะกลายเป็นพลังงานรูปแบบอื่นได้ ซึ่งอันนี้มีความเป็นไปได้ แต่เสื้อผ้าเป็นสิ่งของที่ไม่มีพลังงาน ไม่มีจิตวิญญาณ เป็นเส้นด้ายหลากหลายชนิดที่ถูกสร้างขึ้นมา จึงไม่มีทางเป็นไปได้เลยว่า ผีที่อาจจะมาหลอกหลอนเรา จะมีเสื้อผ้า เครื่องประดับสวยงาม ใส่มาด้วยได้อย่างแน่นอน

ผี มักมีเงื่อนไขเฉพาะมากเกินไป 

โดยคำนิยามของคำว่า ผี น่าจะเป็นรูปแบบของพลังงานที่มีพลังพิเศษหลายๆ อย่าง การหายตัวได้ การเสกข้าวของให้ลอยได้ แต่กลับมีความขี้อาย ไม่ชอบปรากฏตัวในสถานที่ๆ คนเยอะๆ เช่น ในเครื่องบิน บนทางด่วน ในห้างสรรพสินค้า แต่มักจะมาในห้องเช่า และมักจะเลือกปรากฏตัวเฉพาะเวลากลางคืนและในประเทศไทยเท่านั้น  บางครั้งเราจะได้ยินว่าผีไทยตามไปหลอกหลอนคนไทยถึงต่างแดน แต่ก็ถือว่าเกิดขึ้นน้อยครั้งและไม่เป็นที่ยอมรับด้านการเกิดซ้ำในทางวิทยาศาสตร์ ทำให้เราค่อนข้างเชื่อว่า ผี อยู่ในความคิดมากกว่าที่จะเกาะไหล่ตามไปไหนต่อไหน และถ้าผีไปโผล่ประเทศญี่ปุ่นได้ ผีเจ้าถิ่นจะไม่ว่าอะไรสักคำเลยเชียวหรือ?

เป็นสิทธิพิเศษของมนุษย์ ที่จะกลายเป็นผีได้งั้นหรือ?

น่าแปลกที่ในแต่ละวันมีสิ่งมีชีวิตถูกฆ่าตายมากมาย มากกว่าจำนวนมนุษย์เสียชีวิตแบบเทียบกันไม่ได้ สารพัดสัตว์ที่มีความคิด ความรู้สึกไม่แพ้มนุษย์ กลับไม่เคยมีรายงานว่าปรากฏตัวเป็นผีสัตว์ร้ายตายโหง ไล่ฆ่าล้างแค้นเพชรฆาต หรือรถที่ขับชนพวกมันเสียชีวิตคาที่บ้างเลย โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีการพูดถึงผีสัตว์น้อยครั้งมากจนเกือบจะไม่มีเลยด้วยซ้ำ

ด้วยเทคโนโลยีกล้องที่ทันสมัย แต่ไม่มีหลักฐานการปรากฏตัวของผีเพิ่มขึ้นแม้แต่นิดเดียว

เป็นอีกจุดที่น่าสนใจ และควรจะมีรายงานหรือหลักฐานการเจอผีตามตัวเลขของจำนวนกล้องที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็น กล้องวงจรปิดบนถนน กล้องวงจรปิดจากบ้านเรือน กล้องติดหน้ารถ กล้อง Smartphone ในยุคที่ข้าวเหนียวไก่หาย คนยังรู้ทั้งประเทศ แต่กลับไม่มีการจับภาพผีได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว ที่จริงแล้วในยุคสมัยที่วัฒนธรมและไลฟ์สไตล์ของคนเปลี่ยนไป จาก Gen X สู่ Gen Y และกำลังจะเข้าสู่ Gen Z อัตราการเจอผีหรือการพูดถึงผีกลับลดลงอย่างมากในหมู่คนเมือง นี่อาจจะหมายความว่า เมื่อเด็กรุ่นใหม่ไม่ค่อยได้รับการปลูกฝังให้กลัวผีแบบในสมัยก่อน ผีก็แทบจะหายไปแบบไร้ตัวตนกันเลยทีเดียว

อย่าเข้าใจผิดไปว่าเราต่อต้านแนวคิดหรือหลักการเกี่ยวกับศาสนาแต่อย่างใด เพียงแต่ ณ  ตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานอะไรทำให้เราคิดไปในอีกทางเท่านั้นเอง ซึ่งข้อดีก็มีอยู่หลายอย่าง เช่น ใช้ชีวิตง่ายขึ้น อยู่ในที่มืดคนเดียวได้โดยไม่รนราน แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้เราคิดได้ว่า ในยุคที่เด็กรุ่นใหม่ไม่มี ผี อยู่ในความคิดเหมือนเมื่อก่อน เป็นสาเหตุทำให้เด็กสมัยนี้ทำอะไรน่ากลัวมากขึ้นอย่างน่าตกใจหรือไม่ บางทีการฝังคำว่า ผี ให้อยู่ในหัวแบบสมัยก่อน ก็อาจจะเป็นวิธีที่ถูกต้องแล้วก็ได้