Life

GIVE-UP-ITIS ภาวะยอมแพ้แล้วตาย ความห่อเหี่ยวใจ 5 ขั้นสู่การตายที่แพทย์ชี้ว่าเกิดขึ้นได้จริง

By: anonymK December 27, 2018

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าบทความนี้ไม่ใช่การอุปมาอุปมัยอะไรทั้งนั้น แต่เป็นเรื่องจริงที่วิทยาศาสตร์เข้ามาศึกษาตรวจสอบทั้งสิ้น

ในชีวิตนี้เรามักได้สนทนากับเพื่อนฝูงกันบ่อยว่า “การตรอมใจ” มันทำให้ตายได้จริงไหม หรือการรู้สึกยอมจำนนกับโลกใบนี้และสิ่งที่ถาโถมเข้าใส่แต่ไม่ลุกมาเอามีดกดบนผิวเนื้อมันจะทำให้เราอยู่ต่อไปได้นานแค่ไหน เมื่อในทางการแพทย์เรายังไม่อาจตายได้จนกว่าหัวใจจะหยุดเต้น สมองจะหยุดสั่งการ

แต่วันนี้เราพบคำตอบแล้วว่า คุณตายจริงแน่นอนหากยอมยกธงขาวให้กับการใช้ชีวิตตามระดับขั้นตอนเหล่านี้ ซึ่งวินิจฉัยว่าเป็นอาการที่เรียกว่า Give-up-itis หรือการตรอมใจตาย และจะตายภาย 3 วันหลังจากได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการยอมแพ้ต่อการมีชีวิตอยู่

Dr. John Leach จาก University of Portsmouth ได้ศึกษาปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “give-up-itis” ซึ่งใช้เรียกแทนอาการ “จิตตาย” ทางการแพทย์ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงและแตกต่างจากสิ่งที่เรียกว่าฆ่าตัวตาย แถมมันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องอาการซึมเศร้าด้วยแต่เป็นการหมดอาลัย ยกธงขาวให้กับการใช้ชีวิตเสียเฉย ๆ ซึ่งสิ่งนี้มักเชื่อมโยงกับสมองส่วนหน้าของเราและเป็นเงื่อนไขให้เราตายได้จริง

แพทย์สันนิษฐานความตายจาก give-up-itis ว่ามันคือสิ่งที่เปลี่ยนวงจรของ anterior cingulate cortex ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสมองที่มีส่วนต่อการคาดการณ์การตัดสินใจ การควบคุม และตอบสนองต่อความเครียด

เรียกง่าย ๆ ว่าปกติเวลาที่เราเจอความผิดปกติส่วนนี้ เรามักจะข้ามผ่านมันได้เพราะว่ามีแรงกระตุ้นของความรู้สึกอยากมีชีวิตต่อไปเป็นแรงขับเคลื่อนจูงใจ แต่ถ้าคิดว่าวันนึงมันไม่มีอะไรไปรักษาแล้วเพราะไม่อยากอยู่แล้ว การเยียวยาทั้งระบบก็ไม่เกิด และมันจะยับยั้งการหลั่งสารโดพามีนซึ่งกระทบกับการทำงานของสมองและร่างกายในที่สุด

Dr. Leach ได้อธิบาย 5 ขั้นของการยอมแพ้ทางใจที่จะนำเราไปสู่ความตายตามลำดับดังนี้

  1. Social withdrawal : แม้การหันหลังให้สังคมจะเป็นเรื่องปกติที่คนใช้เยียวยาตัวเองกับบางโรคได้ แต่ถ้ายอมแพ้มาก ๆ ถึงขั้นเลิกปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น ไม่แยแสกับอะไรทั้งนั้น และหมกมุ่นอยู่แต่กับตัวเองก็ต้องระวังไว้ โดยส่วนใหญ่สถานะของขั้นนี้มักจะเกิดขึ้นทันทีกับเชลยที่โดนจับได้
  2. Apathy : คนที่อยู่ในขั้นนี้มักตกอยู่กับความรู้สึกเศร้า ขาดพลังงาน ราวกับไม่อยากจะดูแลตัวเองอีกต่อไป เรียกง่าย ๆ ว่า เริ่มปล่อยตัว ไม่อยากจะทำอะไรแล้วโดยเฉพาะการอาบน้ำ
  3. Aboulia : การไร้แรงจูงใจของขั้นนี้ไม่ใช่แค่คิดงานไม่ออกหรือไร้ความคิดสร้างสรรค์ แต่มันอยู่ในระดับไม่แสดงอารมณ์ในจุดที่ไม่อยากพูดอีกต่อไปเลยทีเดียว คนที่อยู่ในขั้นนี้จะขาดทั้งความปรารถนาและความสามารถที่จะช่วยตัวเองและผู้อื่น ซึ่งเป็นความว่างเปล่าถึงระดับจิตไร้สำนึกเลย
  4. Psychic akinesia : สถานะนี้จะเกิดขึ้นกับคนที่มีสติแต่ไม่แยแสกับอะไรแม้แต่ความเจ็บปวดทรมานอย่างรุนแรงจากการทำร้าย หรือการรักษาความสะอาดระดับที่ไม่ใช่แค่ไม่อาบน้ำเท่านั้น ต่อให้จมอยู่ในกองอาจมที่น่าขยะแขยงของตัวเองก็ไม่ยี่หระ เรียกง่าย ๆ ว่ากายละเอียดออกจากร่างไปแล้วของจริง
  5. Psychogenic death : ขั้นสุดท้ายของการปลิดลมหายใจ ต่อให้เอาอะไรมาแลกก็ไม่มีวันเปลี่ยนใจหรือทำให้พวกเขาอยากอยู่ต่อได้ ซึ่งอาจจะเป็นตอนที่เขาทิ้งตัวไว้ในของเสียของตัวเองและละทิ้งทุกสิ่ง จนไม่มีอะไรที่ทำให้เขาอยากอยู่ต่อไปได้อีก

อย่างไรก็ตามสัญญาณเหล่านี้มักจะพบเห็นกับกลุ่มนักโทษในค่ายกักกันซึ่งเป็นที่รู้กันว่าจะเข้ามาสู่ระดับ 5 ได้เมื่อพวกเขานำบุหรี่ที่ซ่อนไว้ออกมาจุดสูบ บุหรี่ในค่ายถือว่าเป็นของหายาก มีค่าสูงมาก แลกได้กับอาหารและสิ่งของต่าง ๆ ได้ ซึ่งคนที่จุดสูบเขานับว่าเป็นคนที่ยอมแพ้แล้วอย่างแท้จริง ซึ่งหลังจากนั้นอีกไม่นานความตายก็มาเคาะประตู

จิตสั่งกายสามารถเกิดขึ้นได้และส่งผลทางการแพทย์ จึงไม่แปลกที่เวลาที่เราท้อแท้หรือพ่ายแพ้จำเป็นต้องหาบางอย่างเสพเพื่อดึงตัวเองมาจากตรงนั้น ไม่ว่าจะเป็นระดับเบสิคที่ทำได้ด้วยตัวเอง หรือขั้นแอดวานซ์ที่ต้องให้แพทย์เข้ามาร่วมบำบัดอาการ กินยาตามแพทย์ระบุ ดังนั้น ไม่ว่าอะไรก็ตามทำให้คุณและคนรอบข้างต้องรำพึงว่า “ไม่อยากหายใจ” มันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ หมั่นคอยสังเกตกันให้ดีและพาตัวเองออกมา อย่าให้ถึงระดับ 5 เด็ดขาด!

 

SOURCE

anonymK
WRITER: anonymK
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line