GADGETs
ที่มาของปืนพกสุดแกร่ง ‘Glock 17’ กับความเข้มแข็งของลูกผู้ชายอย่าง ‘Gaston Glock’
By: HYENA October 19, 2021 59522
ใครจะคิดว่าปืนพกสั้นที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมมากที่สุดในโลกอย่าง Glock 17 จะเกิดขึ้นจากมันสมองของผู้ชายที่อยู่ในวัย 52 ปี และนั่นคงไม่ใช่ปัญหา แถมยังเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำไป เพราะการผลิตปืนซึ่งเป็นอุปกรณ์สำหรับส่งลูกกระสุนออกไปพรากชีวิตคนนั้น จำเป็นต้องคำนึงถึงหลายองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็นความแม่นยำ ความปลอดภัย และการใช้งานที่ลื่นไหลไร้ปัญหาขัดลำกล้อง เพราะอาวุธปืน เมื่อถูกควักออกมาขึ้นลำป้องกันตัวเมื่อไหร่ นั่นหมายความว่า ต้องเป็นช่วงจังหวะสำคัญที่ชีวิตใครคนใดนึงที่กำลังจะจบลง
อาวุธปืนจึงจำเป็นที่จะต้องใช้ผู้มีประสบการณ์เป็นอย่างดีเท่านั้น ถึงจะทำมันออกมาได้สมบูรณ์แบบ เราไม่เถียงว่า คนที่เคยศึกษาเรื่องการทำงานของกลไกล หรือเรียนช่างมาก็อาจจะผลิตปืนเองได้ สามารถบรรจุกระสุนขึ้นลำพร้อมยิงออกมาได้เหมือนกัน แต่ถ้าถามถึงเรื่องความปลอดภัย และประสิทธิภาพของมันแล้วล่ะก็ คงยากที่จะรับประกัน
Gaston Glock คือคนที่ยืนยันว่าการผลิตปืนที่สมบูรณ์แบบออกมากระบอกหนึ่งนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะกว่าจะผ่านแต่ละขั้นตอนออกมาได้นั้น ต้องอาศัยประสบการณ์ ความเข้าใจแบบลึกซึ้ง แต่ถ้าหากมีความมุ่งมั่นตั้งใจอย่างจริงจัง ก็สามารถที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
ทุกวันนี้ ปืนพกที่วิศวกรในโรงงานพลาสติกธรรมดา ๆ ได้สร้างไว้ กลับกลายเป็นปืนพกที่ได้ชื่อว่า ยอดเยี่ยมอันดับต้น ๆ ของโลกเป็นที่เรียบร้อย
เรื่องของผู้ชายเจ้าของปืน Glock คนนี้ สอนให้เรารู้ว่า แม้ความสมบูรณ์แบบและความสำเร็จ อาจต้องใช้เวลารอคอยนานแสนนานเพื่อให้มันปรากฎขึ้นตรงหน้า แต่ก็ยังมีคนบางประเภทที่ไม่เคยรอโชคชะตา แต่กลับวิ่งเข้าหาความสำเร็จด้วยตัวเอง วันนี้เราจึงขอนำเอาเรื่องราวของ Gaston Glock และปืนพก Glock อันเลื่องชื่อของเค้ามาให้กับชาว UNLOCKMEN ได้อ่านกันเพลิน ๆ รับรองว่า คุณจะชอบ Glock ขึ้นมาทันที หลังจากอ่านบทความนี้จบ
Gaston Glock คือ ชายผู้ให้กำเนิดปืนพกสั้นระดับโลกที่ใช้ชื่อเดียวกับนามสกุลของเขา เกิดที่กรุง Viena ในประเทศ Austria เมื่อปี 1929
Glock เป็นวิศวกรที่ทำงานอยู่ในกองทัพ Austria โดยเขามีหน้าที่ผลิตปลอกมีด, เปลือกระเบิด และพัฒนาอุปกรณ์ใหม่ ๆ ให้กับกองทัพ ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว Glock จะเลือกใช้พลาสติก และโพลิเมอร์ มาเป็นวัตถุดิบในการผลิตอยู่เสมอ เนื่องจากเขามีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ
ในเรื่องของอุปนิสัยส่วนตัวนั้น คนส่วนใหญ่รู้กันดีว่านาย Gaston Glock เป็นคนมุทะลุ เอาแต่ใจตัวเอง และเชื่อมั่นในตัวเองสุด ๆ เขาไม่เคยยอมแพ้ใครทั้งนั้น ครั้งหนึ่ง Glock ได้เดินทางไปที่เมือง Lëtzebuerg และที่นั่น เขาโดนคนพยามจะฆ่า Glock โดนค้อนยางตีเข้าที่ศีรษะ จนเกิดเป็นแผลฉกรรจ์ทั่วศีรษะถึง 7 แผล แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่ยอมแพ้ อีกทั้งยังชกเข้าไปที่เบ้าตา และปากของชายคนดังกล่าวจนฟันหลุดหมดสติหนีไปไหนไม่รอด
หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว ก็มีคนไปพบ Gaston Glock นอนสลบทับอยู่บนตัวของชายที่หมายเอาชีวิตเขา จึงเรียกรถพยาบาล และตำรวจมาช่วยเหลือในที่เกิดเหตุ มีเรื่องเล่าต่อ ๆ กันมาว่า ในขณะที่ต่อสู้กันอยู่นั้น Glock เสียเลือดไปประมาณ 1 ลิตร จากบาดแผลที่ศีรษะที่โดนทุบด้วยค้อนยาง แต่ที่น่าทึ่งก็คือ ชายคนดังกล่าวที่เขาซัดจนหลับไปนั้น เป็นชายฉกรรจ์ที่มีอายุน้อยกว่าตัวเค้าถึง 20 ปี อีกด้วย
อย่างที่เราบอกว่า เดิมที Gaston Glock เป็นเพียงผู้ผลิตอุปกรณ์สนาม, ปลอกมีด และเปลือกระเบิด ซึ่งทำจากพลาสติก และโพลิเมอร์ให้กับกองทัพเท่านั้น แต่มีอยู่วันนึงที่ดูเหมือนว่าฟ้าจะเป็นใจ จากการที่กองทัพ Austria ถึงเวลาที่จะเปลี่ยนปืนพกประจำการพอดี และ Gaston Glock ก็เดินไปได้ยินบทสนทนาของผู้พันท่านนึง ที่กำลังบ่นกับลูกน้องคนสนิทเข้าว่า
“ยังไม่สามารถหาปืนพกที่มีคุณสมบัติตามที่กองทัพต้องการได้เลย”
เมื่อเขาได้ยินดังนั้นก็หูผึ่งทันที จึงรีบพูดแทรกขึ้นไปว่า
“ทำได้สิ บริษัทของผมเนี่ยแหละ ทำได้แน่นอน”
เมื่อผู้พันได้ยินเข้า ก็ถึงกับหัวเราะออกมาต่อหน้าเค้าอย่างเหยีดหยาม และนั่นเองที่เป็นตัวจุดประกายให้กับ Gaston Glock มีความคิดที่จะผลิตปืนพกขึ้นมาเป็นครั้งแรก
เพื่อนคนสนิทของ Gaston Glock อย่าง Christopher Edwards ซึ่งเป็นถึงมือปราบ และผู้ช่วยนายอำเภอของ มลรัฐ kentucky เคยกล่าวเอาไว้ว่า “ไม่มีใครที่หัวเราะเยาะเย้ยคนอย่าง Gaston Glock ได้ฟรี ๆ เพราะเขาจะไม่เคยลืมสิ่งเหล่านั้นเขาไม่มีประสบการณ์ใด ๆ เลยเกี่ยวกับปืน จึงบอกกับเพื่อนร่วมงานของว่า
“ก็เพราะเราไม่มีความรู้อะไรเลยนี่แหละ ที่เป็นจุดเด่นของเรา และเป็นสิ่งที่เราได้เปรียบคู่แข่งรายอื่น ๆ เราเปรียบเสมือนผ้าขาวผืนใหม่ ไม่เคยผ่านการขีดเขียนอะไรมาก่อน ดังนั้น เราจะไม่ยึดติดกับการผลิตปืนแบบเดิม ๆ รวมไปถึงเทคโนโลยีของปืนในแบบเก่า ๆ”
เป็นเวลากว่า 2 ปี ที่ Gaston Glock ก้มหน้าก้มตาออกแบบปืนพกของเค้า และ บริษัท Glock อย่างบ้าคลั่ง โดยลูกน้องของเขาได้กล่าวเอาไว้ว่า “Gaston Glock ลงมือทดสอบปืนของเขาด้วยตัวเอง แต่ Glock จะยิงปืนด้วยมือซ้าย เพราะเขาบอกกับเราว่า ถ้าหากปืนที่เค้าทำเกิดผิดพลาด หรือระเบิดตอนที่เค้าเหนี่ยวไก อย่างน้อย ๆ เขาจะได้เหลือมือข้างขวา เอาไว้เขียนบันทึกได้”
เขาจริงจังกับการผลิตปืนมากขึ้นเรื่อย ๆ จนเหมือนกลายเป็นคนบ้า เนื่องจากโดนความเครียดเข้าครอบงำ เขากลายเป็นคนที่หงุดหงิด งุ่นง่าน และครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลา ยิ่งนานวัน อาการก็ยิ่งหนักขึ้นจนแม้แต่ภรรยาของเขา ยังไม่กล้าที่จะเข้าใกล้
ในที่สุด Gaston Glock ก็ทำสำเร็จ เมื่อปืนพกของ บริษัท Glock กระบอกแรกได้ถูกผลิตออกมาอย่างสมบูรณ์แบบ โดยเขาตั้งชื่อมันว่า Glock 17 และติดต่อกลับไปที่กองทัพ Austria เพื่อให้ทำการทดลอง รวมถึงตรวจสอบคุณสมบัติต่าง ๆ ดู ด้วยความที่ Glock 17 ใช้นวัตกรรมใหม่ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน
ชิ้นส่วนประกอบของ Glock 17 ที่มีเพียงแค่ 34 ชิ้น ซึ่งถือว่าน้อยกว่าของเดิมที่กองทัพใช้ นั่นก็คือ S&W ที่มีส่วนประกอบทั้งหมดถึง 60 ชิ้น โครงของปืนก็ผลิตจากวัสดุสังเคราะห์ ที่มีต้นทุนต่ำกว่า และมีน้ำหนักเบากว่าจากการใช้วัสดุอย่างพลาสติก และโพลิเมอร์ ซึ่งส่งผลให้แรงสะท้อนขณะยิงน้อยกว่าปืนที่ทำจากโลหะอีกด้วย
John Farnum ผู้ก่อต้อง บริษัท Defense Training International ได้เคยพูดถึง Gaston Glock และปืนพก Glock 17 เอาไว้ว่า “ไม่แปลกเลยที่ Gaston Glock จะรวยเละเทะ ก็เมื่อปืนที่เขาผลิตนั้นมีต้นทุนแค่ 75 เหรียญ เท่านั้น แต่เมื่อมันเสร็จออกมาเป็นรูปเป็นร่าง และวางขายกลับมีราคาพุ่งสูงถึง 500 เหรียญ ทีเดียว”
ทุกวันนี้ Glock ก็ยังคงเป็นปืนพกที่เจ้าหน้าที่ และผู้รักษากฎหมายภายใน USA ยังคงเลือกใช้ Glock 17 กันอยู่ ปัจจุบันนี้ Glock 17 ก็ได้พัฒนาไปถึง 4th Generation แล้ว และยังมีเพิ่มเป็นออกมาอีกหลาย Glock ทั้งแบบ Standard, Compact, Subcompact, Competition สำหรับการใช้งานและกระสุนขนาดต่าง ๆ
บริษัท Glock ยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกกว่า 25 รุ่น ที่แบ่งแยกออกมาจาก 7 สายพานการผลิต มาถึงประชาชนคนธรรมดา ก็มีจำนวนไม่น้อยเช่นกันที่ตัดสินใจที่จะซื้อ Glock ไว้เป็นปืนพกป้องกันตัว เนื่องจากการดูแลรักษาที่ง่ายกว่าปืนพกจากยี่ห้ออื่นๆ รวมไปแรงสะท้อนกลับที่น้อยกว่าปืนอื่น ๆ กลุ่มกระสุนก็ยังแจ่มแจ้งเข้าเป้าแบบจะ ๆ เมื่อนำมาใช้งานในด้านการกีฬา และเป็นปืนที่แชร์ magazine ข้ามรุ่นกันได้ เรียกว่าใช้ง่าย ใช้คล่อง พร้อมยิง ดังนั้น จึงไม่ต้องสงสัยว่าทำไม Glock จึงได้ชื่อว่าเป็นปืนพกที่ได้รับความนิยมอันดับต้น ๆ ของโลก
อย่างที่เราได้เล่าไปแล้วในตอนต้นว่า Gaston Glock เคยโดนพยายามฆ่ามาแล้ว เรื่องราวในตอนนั้นเริ่มต้นจากที่ มีพนักงานอยู่คนนึงในบริษัทของเค้าพยายามที่จะขอพบ แต่เมื่อ Glock ได้พบกับพนักงานคนดังกล่าว ก็รู้สึกแปลกใจในท่าทางลุกลี้ลุกลน จึงถามไปว่ามีเรื่องอะไร? พนักงานท่าทางแปลก ๆ คนหนึ่งจึงบอกกับเค้าไปว่า “หุ้นส่วนของคุณ กำลังโกงเงินบริษัท” แต่หลังจากที่เขาได้ฟังคำเตือนนั้น แทนที่จะระมัดระวังตัว เขากลับเลือกที่จะไม่ได้สนใจอะไร เพราะเขาเชื่อว่ามันเป็นคำพูดของลูกจ้างแปลกหน้า ที่มีอาการแปลก ๆ เหมือนคนผิดปกติเท่านั้น
แต่เมื่อเวลาผ่านไปไม่นาน Glock ก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติอะไรบางอย่าง เขาจึงเริ่มนึกถึงคำพูดของลูกจ้างแปลกหน้าคนนั้น แต่มันก็ช้าไปซะแล้ว เพราะหลังจากที่ Gaston Glock เริ่มแสดงท่าทีสงสัยในตัวหุ้นส่วนของเค้าอย่างเปิดเผย จนทางฝ่ายหุ้นส่วนเองก็รู้ตัวแล้วว่า Glock รู้ความจริงแล้ว จึงได้วางแผนลวง Glock เข้าไปที่โรงจอดรถแห่งนึง และเมื่อ Glock เดินเข้ามาภายในโรงรถ เขาก็จัดการเอาค้อนยางตีกระหน่ำไปที่ศีรษะ เพื่อที่จะฆ่าปิดปาก ไม่ให้เรื่องราวการโกงเงินบริษัทแพร่กระจายออกไป รวมไปถึงกลัวการที่จะโดนแจ้งความจับในคดีฉ้อโกง
แต่ด้วยคอนเซ็ปต์ประจำตัวของ Gaston Glock ที่ไม่เคยให้ใครทำร้ายฟรี ๆ และไม่เคยปล่อยให้คนที่ทำให้เค้าต้องเจ็บตัว หรือเจ็บใจหนีรอดไปได้ จึงตัดสินใจฮึดสู้สุดกำลัง ด้วยการปล่อยหมัดไปที่เบ้าตา 1 หมัด และแจกไปอีก 1 หมัด ที่บริเวณปากจนหุ้นส่วนของเค้าฟันหลุดนอนสลบไป Glock รอดพ้นเหตุการณ์เลวร้ายนั้นมาได้ และรักษาตัวจนหายเป็นปกติหลังจากนั้น
จากเรื่องราวทั้งหมดที่ผ่านมาในชีวิตของเขา ไม่ว่าจะเป็นความพยายามในการผลิตปืนกระบอกแรก ที่ใช้คำดูถูกเป็นตัวจุดประกาย จนผลสุดท้ายก็ทำให้คนที่เคยหัวเราะเยาะ ต้องเป็นฝ่ายตามง้อแถมควักเงินให้ซะเอง รวมไปถึงความแกร่งของร่างกาย จากการเอาตัวรอดในวินาทีที่เค้าโดนหมายเอาชีวิต จึงทำให้ผู้คนต่างพากันยกย่องในหัวใจ และร่างกายอันแข็งแกร่งด้วยการพูดเปรียบเทียบเอาไว้ว่า
“Gaston Glock คือผู้ชายที่เข้มแข็ง และแข็งแกร่ง เช่นเดียวกับปืนที่เค้าสร้างขึ้นมากับมือ”