Guide

GUIDE: กินลมชมม้าที่ THE HAY เคบินสไตล์สแกนดิเนเวียในย่านบางบอน

By: unlockmen December 1, 2020

ม้ากับผู้ชายเป็นของคู่กันก็ว่าได้ เพราะเรามักจะเห็นผู้ชายเท่ ๆ ขี่ม้า อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น เอลวิส เพรสลีย์ ตำนานร็อกแอนด์โรลชื่อดังอันดับโลก, รัสเซล โครว์ นักแสดงชาวนิวซีแลนด์-ออสเตรเลีย หรือ ริชาร์ด แฮมมอนด์ พิธีกรรายการทีวีชื่อดังชาวอังกฤษ ฯลฯ การขี่ม้าจึงเป็นกีฬาแอดเวนเจอร์ที่ผู้ชายหลายคนหลงใหลเลยก็ว่าได้

แต่จะดีสักแค่ไหน ถ้าผู้ชายอย่างเรา ๆ สามารถขี่ม้า ชมม้า และทานอาหารในเคบินสไตล์สแกนดิเนเวียที่เปิดให้สัมผัสแสงแดดอ่อน ๆ ที่ลอดผ่านเข้ามาภายใน และชมความเขียวชะอุ่มของธรรมชาติไปพร้อมกันได้ในที่เดียว

เรากำลังพูดถึง ‘The Hay’ ซึ่งเป็นร้านอาหารครอบครัวที่ซ่อนตัวอยู่ในย่านชานเมืองอย่างบางบอน โดยความพิเศษของที่นี่คือเป็นทั้ง ศูนย์ขี่ม้า (Equestrian Center) และร้านอาหาร (Eatery) ในที่เดียวกัน เดี๋ยวเราจะพาทุกคนไปดูว่าร้านนี้มีความพิเศษและเหมาะกับผู้ชาย UNLOCKMEN อย่างไรบ้าง

จุดเริ่มต้นของ The Hay

ร้านนี้เริ่มต้นขึ้นจากแนวคิดการใช้พื้นที่เปล่าให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตอนแรกพื้นที่ตรงนี้เป็นเพียงที่เลี้ยงม้าเท่านั้น แต่ต่อมาได้มีการเพาะพันธุ์ม้าเพิ่มขึ้น ม้าในพื้นที่จึงมีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ และทำให้ภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นตามมา ทางเจ้าของร้างจึงเกิดไอเดียสร้างสนามฝึกสอนขี่ม้าขึ้น พร้อมดึงคนในครอบครัวมาช่วยทำร้านอาหาร จึงเกิดเป็น The Hay ร้านอาหารและศูนย์ขี่ม้าในที่เดียวกัน

เมื่อเข้าไปภายในร้าน เราสัมผัสได้ถึงความแตกต่างระหว่างภายในและภายนอกอย่างชัดเจน เรือนกระจกที่เปิดให้แสงแดดสะท้อนผ่านเข้ามา และวัสดุไม้สีน้ำตาล ช่วยขับเน้นความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติแม้อยู่ในอาคาร ผสมผสานกับเฟอร์นิเจอร์สีขาว เกิดเป็นบรรยากาศที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เหมือนเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจจากโลกภายนอก ซึ่งการออกแบบร้านแบบนี้ มีที่มาจากความชอบเที่ยวประเทศนอร์เวย์ของเจ้าของร้าน และรู้สึกประทับใจกับทรงเคบินของประเทศแถบสแกนดิเนเวีย ที่มีความโปร่ง ให้แสงอาทิตย์สามารถลอดผ่านเข้ามาได้


ร้านอาหารที่ตอบโจทย์คนหลากหลายกลุ่ม

สำหรับอาหารของร้าน The Hay จะเน้นเมนูที่กินกันได้เป็นครอบครัว จึงมีความหลากหลายเป็นพิเศษ เพื่อตอบรับคนทุกกลุ่มที่มาที่ร้าน  และทำให้พวกเขารู้สึกว่าพื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ของครอบครัวจริง ๆ โดยเมนูของร้านจะมีตั้งแต่อาหารสไตล์ยุโรป ไปจนถึงอาหารไทย เดี๋ยวเราจะพาทุกคนไปดูว่า เมนูซิกเนเจอร์ของร้านในส่วนของอาหารยุโรป จะน่ากิน และน่าดื่มมากขนาดไหน

มาที่เมนูแรก THE HAY EXCLUSIVE COMBINACIÓN ELEGANTE เรียกได้ว่า รวบรวมของสุดพรีเมี่ยมไว้ในจานเดียว ไม่ว่าจะเป็น ฟัวกราเนื้อเด้งแบบสุด ๆ หอยเชลล์ฮอกไกโดสดเหมือนเพิ่งนำขึ้นมาจากน่านน้ำญี่ปุ่น ราดท๊อปปิ้งด้วยเครื่องเคียงสุดหรูอย่างไข่ปลาคาร์เวีย มีฐานเป็นเนื้อเทนเดอร์ลอยน์ของวัวแบล็คแองกัส และมันบดม่วง เรียกได้ว่าอัดแน่นไปด้วยอาหารชั้นยอด เราจึงไม่รู้สึกแปลกใจเมื่อรู้ว่า เมนูนี้ขายดี

ต่อมาเป็นเมนูใหม่ของทางร้าน PORK RIBS WITH BARBECUE SAUCE หรือ ซี่โครงหมูเนื้อนุ่มราดซอสบาร์บีคิวจนเนื้อฉ่ำ และมีกลิ่นหอมของเครื่องเทศ มาพร้อมกับเครื่องเคียงที่สามารถสามารถทานคู่กันได้อย่างลงตัวอย่างข้าวโพดย่างหอมกรุ่น ประดับประดาด้วยไม้ดอกสร้างความรู้สึกแบบทรอปิคอล และถ้าได้เครื่องดื่มที่มีรสชาติของเครื่องเทศหน่อย ๆ มาทานคู่กันแล้ว จะเกิดความยูนีคในรสชาติอาหารมากขึ้น เรียกได้ว่าเป็นเมนูที่ยิ่งทานร่วมกันหลาย ๆ คน ก็ยิ่งฟิน

มาที่เมนูเครื่องดื่มกันบ้างกับ SAVAGE STALLION หรือ ม้ากระทืบโรง เป็น LIQUOR SHOOTER ที่เข้ากับคอนเซ็ปท์ของร้านได้ดีมาก ๆ โดยเกิดจากการผสมพรีเมี่ยมวอดก้าที่ผ่านการหมักกับสารพัดเครื่องเทศ ไม่ว่าจะเป็น ชินนาม่อน โป๊ยกัก โรสแมร์รี่ จนมีรสชาติและความหอมอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เตกิล่ารสชาติหนักหน่วง และความหอมของน้ำผึ้งเป็นตัวตบท้าย เมนูนี้ แม้จะเสิรฟ์ในแก้วช้อต แต่ก็มีรสชาติค่อนข้างแรง เมื่อดื่มหมดแก้ว เราอาจจะร้องฮี่ ๆ เหมือนม้าก็ได้

สุดท้ายเป็นเมนูเครื่องดื่มใหม่ของทางร้าน BLACK STALLION เมนูนี้น่าจะถูกใจผู้ชายสายกาแฟเข้ม เพราะอัดแน่นไปด้วยความเข้มข้นของเอสเปรสโซช้อต ไอริสวิสกี้  น้ำโทนิค และรสชาติของเปลือกส้มแสนดุดันจาก ออเรนจ์ สปริตซ์ ซึ่งหน้าตาโดยรวมจะคล้ายกับกาแฟอเมริกาโน่เย็น ซึ่งหากใครกำลังมองหาเครื่องดื่มคลายร้อนให้ความสดชื่นสักแก้ว แก้วนี้น่าจะตอบโจทย์อยู่

ถือเป็นร้านเท่ ๆ บรรยากาศผ่อนคลายที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนได้ไปกัน สำหรับใครที่อยากไปเยือน ร้านจะตั้งอยู่ใน ซอยเอกชัย 131 เขตบางบอน สามารถมาขี่ม้า ให้อาหารม้า หรือ ทานอาหารกันได้  ตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น. โดยทางร้านจะมีอุปกรณ์ขี่ม้าให้เช่าด้วย หรือจะเอาอุปกรณ์มาเองก็ย่อมได้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติ่มได้ที่เฟซบุ๊ก thehaybkk หรือโทร 02-408-3672

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line