แนะนำหนังสือน่าอ่านของ Haruki Murakami นักเขียนสุดฮิปที่คนเหงาต่างหลงรัก

ถ้าคุณเป็นคนที่ชื่นชอบการอ่านหนังสือ เป็นไปไม่ได้เลยที่คุณจะไม่รู้จักนักเขียนชาวญี่ปุ่นที่มีนามว่า ฮารุกิ มุราคามิ (Haruki Murakami) ที่งานเขียนของเขามีเสน่ห์ชนิดที่ว่าถอนตัวยาก บ้างก็อ่านไป แต่กลับรู้สึกว่าตนเองตีความไม่ออก บ้างก็หลงรักที่งานเขียนของเขาปล่อยให้คนอ่านได้ตีความเองอย่างอิสระ

งานของมุราคามิถือเป็นวรรณกรรมแนวโพสต์โมเดิร์น และมีเอกลักษณ์ชนิดที่ว่า หากอ่านงานของเขาแล้วไม่มีเรื่องของคนเหงา แมว แผ่นเสียง เพลงแจ๊ส หรือคนเหงาที่นั่งดื่มเหล้าอย่างเปล่าเปลี่ยว อาจตีตราไปเลยว่างานชิ้นนั้นไม่ใช่งานของเขาแน่ๆ และด้วยความที่เขามีเอกลักษณ์ถึงเพียงนี้จึงทำให้เขามีแฟนๆ อยู่ทั่วทุกมุมโลก รวมถึงหนังอ่านชาวไทยด้วย แต่ด้วยความที่วรรณกรรมของเขามีเอกลักษณ์และค่อนข้างมีความเป็นตะวันตกอย่างมาก คนที่หลงรักในหนังสือของเขาก็จะหลงรักไปเลย ส่วนคนที่ไม่ชอบก็อาจจะพาลไม่อยากอ่านเล่มอื่นๆ อีกเลยก็ได้

วันนี้ UNLOCKMEN จึงขอหยิบหนังสือของมุราคามิมาฝาก โดยหนังสือที่เราจะนำมาแนะนำวันนี้เป็นหนังสือที่เหมาะสำหรับคนที่อยากเริ่มอ่านผลงานของเขาค่ะ

Norwegian Wood (ด้วยรัก ความตาย และหัวใจสลาย)

มากันที่เรื่องแรก Norwegian Wood หนังสือของมุราคามิที่ถูกนำไปดัดแปลงเป็นภาพยนตร์โดยผู้กำกับชาวเวียดนาม ที่ตัวหนังอาจไม่โดนใจแฟนๆ ของมุราคามิสักเท่าไหร่ ผลงาน Norwegian Wood เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความรัก แน่นอนว่ามันไม่ใช่รักหวานซึ้ง แต่เต็มไปด้วยเรื่องราวของโศกนาฏกรรมความรัก ชีวิต และความตาย เป็นวรรณกรรมที่มีชื่่อของมุราคามิ แต่ก็เป็นผลงานอีกหนึ่งเล่มที่คนเริ่มอ่านหนังสือของเขาอาจไม่ชอบ ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง และก็เป็นหนังสือที่มีเนื้อหาค่อนข้างเครียดและเข้มข้นค่ะ อาจไม่เหมาะที่จะเป็นเล่มแรก แต่ก็เป็นผลงานอีกหนึ่งเล่มที่พลาดไม่ได้

South of the Border, West of the Sun (การปรากฎตัวของหญิงสาวในคืนฝนตก)

เล่มนี้ถูกกล่าวว่าเป็นหนังสือที่อ่านง่ายที่สุดจากแฟนๆ ของมุราคามิ และเป็นหนังสือที่มีสไตล์ของเขาแบบครบครัน เรื่องราวของชายธรรมดาคนหนึ่งที่เป็นเจ้าของบาร์แจ๊ส ที่มีชีวิตแลดูประสบความสำเร็จทุกอย่าง มีครอบครัวที่ดี แต่แล้ววันหนึ่งหญิงสาวในอดีตก็ปรากฎตัวขึ้น ผลงานชิ้นนี้ถือว่าเหมาะกับนักอ่านหน้าใหม่ที่อยากจะอ่านผลงานของเขาค่ะ หลายต่อหลายคนติดใจชนิดที่ว่าวางไม่ลงเลยทีเดียว

After Dark (ราตรีมหัศจรรย์)

หนังสือเล่มบาง ความยาวเพียง 168 หน้า เล่มนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่กลัวว่าตนจะเสียเวลากับการอ่านหนังสือไปโดยที่ไม่รู้ว่าจะดีหรือไม่ จะว่าเป็นหนังสือคั่นเวลาอาจไม่ผิดนัก เล่มนี้น่าจะเหมาะกับคุณค่ะ เรื่องราวว่าภายในเล่มพูดถึงเวลาไม่กี่ชั่วโมงในยามราตรี เรื่องของพี่น้องสองคนเอริ และมาริ คาแรคเตอร์ตัวละครที่มีความแปลกแยก และความปรารถนาภายในจิตใจ

What I talk about When I talk about Running (เกร็ดความคิดบนก้าววิ่ง)

มุราคามิเป็นคนที่ชื่นชอบการวิ่งเป็นอย่างมาก เขาได้เปรียบเทียบการวิ่งเสมือนกับการคิดการใหญ่ ในระหว่างการวิ่งนั้น มีกระบวนการที่ใกล้เคียงกับการเขียนหนังสือ ระหว่างวิ่งไปทำให้ได้คิดเรื่องราวต่างๆ ได้เห็นมุมองที่เกิดขึ้นในชีวิต หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่เรื่องแต่ง แต่เป็นเรื่องราวที่จะทำให้คุณรู้จักนักเขียนคนนี้มากยิ่งขึ้น แน่นอนที่สุดคือเข้าใจง่าย

Sputnik Sweetheart (รักเร้นในโลกคู่ขนาน) 

เรื่องราวของความเหงา ความเหนือจริง และความงุนงนที่ทิ้งไว้ให้เราได้ตั้งคำถาม เรื่องราวของหญิงสาวสุดเซอร์ที่หลงรักสาวที่มีอายุมากกว่าเธอถึง 17 ปี ผ่านมุมมองการเล่าของตัวละครที่เป็นชายหนุ่ม ที่ก็แอบหลงรักเธออยู่ หนังสือเล่มนี้แฝงไปด้วยเรื่องของความรัก และตัวตนผ่านการเล่าเรื่องที่ดูเหนือจริง แฝงไปด้วยความเหงาตามแบบฉบับของมุราคามิ

Lexington Ghosts (ปีศาจแห่งเล็กซิงตัน)

เล่มนี้อยู่ในชุดเรื่องสั้น มีขนาดเล็กน่าพกพา เรื่องสั้นที่ถูกรวบรวมไว้ในเล่มนี้จะพาเราไปพบกับปีศาจที่อยู่ภายใต้จิตใจของเราเอง โดยผ่านเรื่องเล่าเหนือจริงที่รอให้คุณได้ตีความ หนังสือเรื่องสั้นเล่มนี้เหมาะอย่างยิ่งที่จะพกไปอ่านบน BTS MRT หรือรถเมล์ เพราะแต่ละบทมีความสั้นที่พอดิบพอดีต่อการเดินทางค่ะ สำหรับชุดเรื่องสั้นก็ยังมีให้แฟนๆ ได้ตามเก็บอีกหลายเล่มค่ะ

นอกจากนี้ยังมีหนังสือไตรภาคมุสิก ที่เป็นเรื่องราวของตัวละครที่เรารู้จักกันในนามว่าผม และมุสิก ซึ่งมีทั้งหมด 3 เล่ม ได้แก่ สดับลมขับขาน, พินบอล 1973, แกะรอย แกะดาว หรือ 1Q84 ที่มีทั้งหมด 3 เล่ม และถือเป็นนิยายเรื่องยิ่งใหญ่ของเขา ซึ่งฉบับพิมพ์ครั้งแรกได้ขายหมดอย่างรวดเร็วในวันแรกที่เปิดตัว ใครที่ชื่นชอบก็สามารถไปหาอ่านกันได้ค่ะ

หนังสือที่เรานำมาแนะนำกันในวันนี้น่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับนักอ่านหน้าใหม่ที่อยากลิ้มรสความเหงาที่มีเสน่ห์ในหนังสือของมุราคามิ หรือแม้แต่เพลงแจ๊สที่เขาได้พูดถึง เชื่อว่าจะเมื่อคุณอ่านหนังสือของเขาจะต้องตามหาเพลงแจ๊สมาฟังอย่างแน่นอน

Cr. Photo : สำนักพิมพ์กำมะหยี่