FASHION

Hiroki Nakamura ดีไซเนอร์ที่ใส่ใจรายละเอียดงาน handmade ทุกขั้นตอนจนมาเป็นแบรนด์อินดี้ Visvim

By: Thada July 29, 2016

หากพูดถึงสินค้าจากประเทศญี่ปุ่น เรามักจะนึกถึงอะไรที่มีค่าเป็นงานฝีมือ ใช้ความประณีตในการประดิษฐ์ประดอยผลงานออกมา ทำให้สินค้าที่ตีตราว่า Craft In Japan มีมูลค่าสูงและเป็นที่ต้องการของนักสะสม เช่นเดียวกับเรื่องของเสื้อผ้า ณ ปัจจุบันแบรนด์ที่เกิดโดยดีไซเนอร์ญี่ปุ่น ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง และก็มีแบรนด์หนึ่งที่วันนี้เราอยากจะมาพูดถึง Visvim

สำหรับ Visvim ในบ้านเราอาจจะไม่ได้เป็นที่คุ้นหูมากนัก เพราะราคาที่ค่อนข้างสูง บวกกับหาซื้อยาก ทำให้เป็นเรื่องไกลตัว แต่สำหรับคนที่คลุกคลีในวงการนี้เป็นอย่างดีต่างชื่นชอบและเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับอย่างมาก เนื่องด้วยคุณภาพของสินค้า และดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เมื่อใครได้ลองแล้ว ต้องติดใจทุกราย

160729-visvim-10

 

Visvim แบรนด์ที่ก่อตั้งโดย Hiroki Nakamura ในปี 2001 โดยผลิตรองเท้าระดับบูติก ที่ใส่เสน่ห์แบบ Workwear American ลงไปในแบบฉบับญี่ปุ่น ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็วมี Stocklist ทั่วโลกกว่า 110 สาขา

160729-visvim-5

Hiroki เติบโตมาในโตเกียวศูนย์กลางแห่งอารยธรรมในภาคพื้นเอเชีย ก่อนจะย้ายไปเรียนต่อที่อเมริกา และเขาชอบซึมซับอารยธรรมมาจากทั่วทุกมุมโลก โดยการออกไปท่องเที่ยว แต่เขาก็ยังไม่ลืมกลิ่นอายบ้านเกิดของตัวเอง พอมีโอกาสได้อยู่ญี่ปุ่นเขา ก็จะไปแสวงหาอารยธรรมอันเป็นมรดกของชาติกำเนิดตัวเอง มาเก็บเป็นข้อมูลไว้เพื่อเป็นต้นทุนของตัวเองในอนาคต

160729-visvim-2

หลังจากนั้นผ่านไปเขาก็พร้อมที่จะเริ่มสานต่อกิจการของครอบครัวต่อไป (บ้านของเขาทำธุรกิจเสื้อผ้า) รวมถึงเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างแบรนด์ของตัวเองด้วยเช่นกัน ซึ่งเขามีโรงงานของตัวเองอยู่แล้ว ความคิดไอเดียสร้างสรรค์ ก็มีแล้วหลังจากไปเก็บประสบการณ์ในโลกกว้างมา ดังนั้นจะมัวรออะไร เริ่มต้นโดยการ Hiroki ต้องคิดชื่อแบรนด์ของตัวเองขึ้นมาซะก่อน

160729-visvim-11

เขามองว่าไม่อยากจะใช้ชื่อตัวเองในแบรนด์ เลยพยายามมองหาชื่อๆ อื่น แต่ต้องให้มีแรงบรรดาใจมาจากตัวเองด้วย เลยไปหยิบ Dictionary ภาษาลาตินมานั่งดู แล้วตั้งใจว่าเราชอบตัว V เลยอยากให้แบรนด์ขึ้นต้นด้วยตัว V  พอเปิดค้นดู ก็ไปสะดุดที่คำว่า “vis” และมองถัดไปเจอคำว่า “vim” ซึ่งเอาสองคำนี้มารวมกันแล้วมันรู้สึกว่าเหมาะสม และดูดีเลยตัดสินใจเอาคำนี้มาใช้ ซึ่งความหมายโดยรวมของ  Visvim หมายถึง “พลังแห่งการสร้างสรรค์” และหลังจาก นั้นไม่นานความฝันเขาก็เป็นจริง Hiroki Nakamura ได้ก่อตั้งแบรนด์ของตัวเองขึ้นมาโดยใช้ชื่อแบรนด์ว่า VISVIM

160729-visvim-12

โดยสินค้าตัวแรกของเขาอย่างที่หลายๆ คนรู้ก็คือ Footwear ซึ่งเขาต้องศึกษา ทำการบ้านอย่างหนักจากบทเรียนของแบรนด์ระดับโลกอย่าง Nike และ Adidas หลังจากวิเคราะห์อย่างดีแล้วสิ่งที่เขาเรียนรู้คือแบรนด์เหล่านี้ขาดการคัดสรรวัสดุ และการออกแบบอย่างพิถีพิถันเนื่องจากใช้ระบบโรงงาน เพราะอยากประหยัดเงินตรงนี้ไปลงในการโฆษณา

160729-visvim-6

อาจเพราะก่อนหน้านี้  Hiroki Nakamura เคยทำงานอยู่กันบริษัท Burton มาก่อน (บริษัทที่ทำ Snowboard ) ซึ่งเขาได้อยู่ในสายงานด้านการดูแล และออกแบบอุปกรณ์กีฬา ในสายงานที่เขารับมานี้จะมีอยู่หัวข้อหนึ่งที่เขาได้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องสายงานการผลิต ก็คือ วัสดุเพื่อผลิตภัณฑ์ เพราะจากจุดเริ่มต้นตรงนี้เลยทำให้เขาได้รู้ว่าวัสดุแต่ละชนิดมีความสามารถไม่เหมือนกัน ดังนั้นการเลือกใช้วัสดุที่มีความเฉพาะตัวสูง มาผลิตสินค้าที่เหมาะสม มันจะมีคุณภาพสูงตามสินค้านั้นไปด้วย จากจุดเริ่มต้นนี้ ทำให้เขาตั้งเป้าหมายไว้ในใจจะนำ Concept นี้ไปใช้กับงานของตัวเอง

160729-visvim-3

เขาเลยเริ่มผลิตรองเท้า และรุ่นที่สร้างชื่อเสียงให้กับ Visvim คือรุ่น FBT ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากรองเท้าของ MBT ซึ่งย่อมาจาก Masai Barefoot Technology ซึ่งเทคโนโลยีรองเท้า MBT นี้จะมีพื้นที่โค้งงอนิดไม่สัมผัสไปกับพื้นผิวในแนวราบ มีความเอกลักษณ์ตรงนี้ Hiroki มองว่าน่านำมาใช้ได้ เพราะมันจะทำให้เราเดินได้เป็นเวลานานและไม่เมื่อยต่างจากรองเท้าทั่วไป Visvim เลยนำการออกแบบนี้มาใช้กับของตนเองในชื่อของตัวเองคือ Folk-Masai Barefoot Technology (FBT) ซึ่งถ้าเราสังเกตดูก็จะพบว่าหัวมันง้อหน่อยๆ และหลังจากนั้นสินค้าประเภทอื่นก็ทยอยตามออกมาในภายหลัง

160729-visvim-9

และอีกหนึ่งตัวอย่างของการใส่ใจลายละเอียดของ Hiroki Nakamura กับการทำแบรนด์ Visvim ที่เขาต้องการทำผ้า Denim ซึ่งกระบวนการขั้นตอนที่ต้องย้อมสีผ้า บริษัทอื่นมักเลือกที่จะใช้ระบบโรงงานในการย้อมสีเพื่อย่นระยะเวลาในการผลิต แต่สีที่ได้จะไม่สดใส และไม่เป็นธรรมชาติ Nakamura เลยเลือกที่จะใช้วิธีย้อมผ้าแบบดั้งเดิม ที่ต้องใช้แรงคนที่มากกว่า และกินเวลาถึง 2 สัปดาห์ เพื่อให้ได้ลายละเอียดของสีในแบบที่เขาต้องการ

160729-visvim-4

แม้ว่าสินค้าภายนอกของ Vivism จะดูธรรมดา แต่ทุกขั้นตอนการผลิตนั้นผ่านการออกแบบโดยใช้องค์ประกอบศิลปะอย่างสูง หลายขั้นตอน เพื่อให้ได้สินค้าที่มีความโดดเด่นพอที่จะสามารถตั้งราคาที่สูงได้ แม้หลายคนอาจจะเคยได้ยินแต่ Visvim Footwear ซึ่งจริงๆ แล้วเขามี Line Product อื่นอย่างเช่น Denim หรือการทำมัดย้อมแบบธรรมชาติ รวมถึงเสื้อผ้าที่ทำมาจาก Cotton ทั้งหลาย

160729-visvim-1

ในปัจจุบัน Visvim ไม่ใช่แบรนด์นอกกระแสอีกต่อ เพราะมันเป็นแบรนด์โปรดของคนดังอย่าง John Mayer ,  Eric Clapton , Kanye West , Kaws นั่นก็เพราะ Visvim คือส่วนผสมที่อยู่ตรงกลางระหว่าง  Street Culture และ  Vintage Culture ซึ่งหาได้น้อยมากที่จะมีสักแบรนด์ที่ทำได้ ทุกคนเลยคาดการณ์กันเล่นๆ ว่า Hiroki Nakamura จะเป็น Yoji Yamamoto คนต่อไปที่จะมาเป็นเกียรติเชิดหน้าชูตาให้กลับคนเอเชีย

160729-visvim-8

สุดท้าย UNLOCKMEN ก็อาจจะฝากถึงผู้อ่านแม้ว่า Visvim อาจจะไกลตัวพวกเราไปสักนิด เนื่องด้วยราคาที่สูง แต่ลองมาเปรียบเทียบดูกับสินค้าแบรนด์ดังอื่นที่ใช้ระบบโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อลดต้นทุนเรื่องคน หรือวัสดุ และนำเงินไปใช้ในการโฆษณาเพื่อสร้างมูลค่าแบรนด์ให้กับตัวเอง แล้วมาขายให้กับเรา กับอีกแบรนด์ที่ใช้คุณภาพของตัวสินค้าในการโฆษณาตัวเอง คุณจะได้รับของดีที่ผ่านทุกขั้นตอนการผลิตมาอย่างดี เพื่อให้ได้ของที่ดีที่สุดแบบไหนคุ้มค่าเม็ดเงินที่จะจ่ายมากกว่ากัน

 

Thada
WRITER: Thada
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line