10 items ที่ต้องมี สำหรับนักขี่ Touring มือใหม่

จากการสังเกตไลฟ์สไตล์ผู้ชายเมือง สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือความสนใจในการขี่มอเตอร์ไซค์คันใหญ่ไปเที่ยวระยะทางไกลๆหรือที่เรียกว่า Touring มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะคงต้องยอมรับว่าการขึ้นไปคร่อมอยู่บนมอเตอร์ไซค์เท่ๆ สามารถเพิ่มความหล่อให้เราได้ไม่น้อยเลยทีเดียว แต่การขี่รถใหญ่อาจจะไม่ง่ายเหมือนขี่รถมอเตอร์ไซค์ธรรมดาทั่วไป ไม่ใช่ซื้อรถแล้วจบกระบวนการ พร้อมออกไปลุยซะเมื่อไหร่ ด้วยน้ำหนัก ขนาดและความแรงที่จำเป็นต้องเข้าใจมันให้ดี นอกจากนั้นยังมีเรื่องอุปกรณ์ที่จำเป็นต่างๆ เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ รวมไปถึงอุปกรณ์เพิ่มความมันส์ที่จะทำให้การเดินทางเป็นเรื่องสนุกมากขึ้น ดังนั้นสำหรับคนที่กำลังจะเริ่มต้นไลฟ์สไตล์นี้ควรจะต้องพิจารณาอะไร ต้องเตรียมตัวยังไงให้พร้อมและได้อถรรสสูงสุด วันนี้เรามีเช็คลิสต์มาฝากครับ

1. เลือกรถที่เหมาะกับการเริ่ม Touring Lifestyle

ข้อสำคัญที่สุดข้อแรกคือการเลือกรถคู่ใจสักคัน สำหรับผู้ที่กำลังมองหารถมอเตอร์ไซค์ Touring คันแรก สิ่งสำคัญคือการเลือกซื้อรถที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และความต้องการของตัวเองเป็นหลักครับ โดยรถคันแรกสำหรับแนว Touring ที่เน้นใช้งานวันหยุดวันว่าง ไม่ถึงกับลุยน้ำเข้าป่าแบบ adventure มากนัก อาจจะพิจารณารถที่ขับขี่สบายๆประเภท Big Scooter (BSC) ที่ออกแบบท่านั่งให้ขี่ระยะทางไกลๆได้สบายกว่ารถแนวอื่น มีเบาะนั่งใหญ่เพื่อความนุ่มนวล มีพื้นที่เก็บของเยอะ ยกตัวอย่างเช่น Honda Forza 300 ที่นอกจากจะตอบโจทย์ทั้งหมดแล้ว ยังเป็นรุ่นเกียร์ A/T บิดอย่างเดียว ดังนั้นนอกจากจะใช้งานไกลๆได้สบายแล้ว ยังใช้งานชีวิตประจำวันในเมืองได้อีกด้วย จะเรียกว่าเป็นรถสำหรับ Urban Touring Lifestyle ก็ไม่ผิดครับ

2. เรียนรู้รถคู่ใจก่อนออกเดินทาง

ข้อนี้สำหรับมือโปรหรือผู้มีประสบการณ์และคุ้นเคยกับรถ BigBike อยู่แล้วน่าจะไม่มีปัญหา แต่สำหรับคนที่เคยขี่มอเตอร์ไซค์ขนาดเล็กมาก่อนหรือขับรถยนต์ในชีวิตประจำวันจันทร์ถึงศุกร์เป็นหลัก แล้วอยากจะลองขยับไปหาไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ บรรยากาศและประสบการณ์การท่องเที่ยวใหม่ๆแบบ Touring lifestyle ด้วยรถ Big Scooter สิ่งสำคัญคือการเรียนรู้รถคู่ใจของเรา ทำความคุ้นเคยกับขนาด น้ำหนัก ความแรง การขับขี่ การทรงตัว ซึ่งไม่ยากและใช้เวลาไม่นาน แถมในปัจจุบัน ตัวแทนจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์มักจะมีพนักงานที่สามารถให้คำแนะนำเบื้องต้นได้อย่างถูกต้องทั้งก่อนและหลังซื้ออยู่ด้วย เช่นที่ Honda Wing Center ดังนั้นจะซื้อรุ่นไหนก็ขอคำแนะนำและปรึกษาได้ตลอดเวลา ไม่ต้องเกรงใจแต่อย่างใดครับ

Tip : ถ้าอยากลองซ้อมขับขี่เสริมทักษะให้พร้อมก่อนออกเดินทางไกล ก็มีหลักสูตรสอนการขับขี่ปลอดภัยหลายแห่งในประเทศไทย เช่น Honda Safety Riding เป็นต้นครับ

3. Helmets

อุปกรณ์จำเป็นชิ้นแรกและจำเป็นที่สุด แนะนำให้เลือกที่ดีที่สุดแบบไม่ต้องเสียดายเงิน เพราะหมวกกันน็อคเป็นสิ่งเดียวที่ปกป้องศีรษะของเรายามเกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะกับรถที่มีความแรงและหนักกว่ารถมอเตอร์ไซค์ทั่วไป การเลือกหมวกกันน็อคควรจะเลือกแบบเต็มใบเท่านั้น เพราะนอกจากจะป้องกันลมและเศษดินเศษหินไม่ให้เข้าตาในขณะขับขี่แล้ว ยังมีประโยชน์หลักในการป้องกันศีรษะได้รอบด้าน และควรทดลองใส่หลายๆแบบเพื่อให้ได้หมวกทรงที่กระชับขยับพร้อมหน้าเวลาหันซ้ายขวา ช่วงแรกอาจจะรู้สึกคับหน้าไปบ้าง แต่แผ่นโฟมด้านในจะมีความยืดหยุ่นให้พอดีมากขึ้นได้ สุดท้ายและพลาดไม่ได้คือหมวกกันน็อคที่จะเลือกต้องได้มาตรฐานความปลอดภัย SNELL, DOT (Department Of Transportation) หรือ JIS (Japanese Industrial Standard) เพราะผ่านการทดสอบในระดับสูง เพิ่มความอุ่นใจทุกครั้งที่ออกไปขับขี่

Tip : ควรเลือกหมวกกันน็อคสำหรับ Touring โดยเฉพาะ และควรเลือกหมวกที่สีสันสดใส ช่วยเพิ่มความปลอดภัยเวลาขับขี่ตอนกลางคืนได้มาก

4. Jackets

จะบอกว่าสำคัญเป็นอันดับสองก็ไม่ได้ เพราะแจ็คเก็ตก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ถ้าหมวกกันน็อคเป็นพระเอกคอยปกป้องศีรษะ เสื้อแจ็คเก็ตก็เหมือนพระเอกอีกคนที่คอยปกป้องร่างกายเอาไว้ยามเกินเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ไม่ใช่แค่ใส่เพื่อความเท่เท่านั้น และนี่ก็เป็นอีกชิ้นที่เราอยากแนะนำให้ซื้อแบบไม่ต้องเสียดายเงิน การเลือกแจ็คเก็ตควรเลือกแบบที่มีเกราะอ่อนที่หลัง ไหล่และข้อศอกเพื่อความปลอดภัย จะแบบหนังหรือแบบผ้าก็แล้วแต่ความชอบส่วนตัว ถ้าแบบหนังอาจจะร้อนนิดแต่เท่ แลดูคลาสสิคกว่า และแนบชิดฟิตกับร่างกายมากกว่า ลดการต้านลมได้ค่อนข้างดี ส่วนแบบผ้าจะระบายอากาศได้ดีกว่าและราคาไม่แรงเท่าแบบหนัง การเลือกแจ็คเก็ตก็คล้ายกับหมวกกันน็อค ควรลองจนกว่าจะเจอรุ่นที่ถูกใจ

5. Gloves

มือเป็นอวัยวะสำคัญในการควบคุมมอเตอร์ไซค์และมักจะเป็นส่วนแรกที่สัมผัสพื้นในกรณีที่รถล้ม ดังนั้นการจะขี่ BigBike ระยะทางไกลๆ ถุงมือจึงมีความจำเป็นมากเลยทีเดียว นอกจากนี้หน้าที่สำคัญของมันคือการป้องกันเศษดินเศษหิน น้ำ และอื่นๆอีกมากมายที่สามารถปลิวมาโดนมือเราในขณะขับขี่อีกด้วย ถุงมือสำหรับการขับขี่แบบนี้จะมีการ์ดคอยป้องกันบริเวณข้อนิ้ว แบ่งออกเป็นถุงมือสั้นและถุงมือยาว สำหรับการขับขี่ระยะทางไม่ไกลมากอาจจะเริ่มจากถุงมือสั้นก่อน เพราะสามารถระบายอากาศได้ดีกว่าแบบยาว  วัสดุแบ่งออกเป็นถุงมือหนังและถุงมือแบบผ้า แต่แน่นอนว่าแบบหนังอาจจะทำให้เหงื่อออกมากกว่าแบบผ้าสำหรับอากาศบ้านเรา การเลือกถุงมือควรเลือกแบบที่ไม่คับและไม่หลวมมากเกินไปนัก เพราะต้องบีบเบรค กำแฮนด์อยู่ตลอดเวลา อาจะจะทำให้ขยับมือลำบากและรู้สึกไม่สบายในการขับขี่ไกลๆ

Tip : แนะนำให้พกถุงมือสำรองเผื่อไว้ในกรณีที่เหงื่อออกมือจากอากาศและการเดินทางไกลอย่างน้อย 1 คู่

6. Top Box

ข้อดีที่หลายคนนิยมเลือกรถสไตล์ Touring นอกจากความสบายในการนั่งขับขี่ เรื่องความจุพื้นที่เก็บของก็เป็นอีกสิ่งที่รถแนว Touring กินขาด ขนาดที่สามารถเก็บหมวกกันน็อคใต้เบาะได้ 2 ใบไม่ต้องกลัวหาย และยังมีช่องต่างๆอีกหลายจุด แต่สำหรับการเดินทางไกล บางครั้งอาจจำเป็นต้องใช้พื้นที่เก็บของมากกว่านั้น ในกรณีนี้ชาว Touring สามารถติดตั้ง Top Box หรือกล่องอเนกประสงค์เพิ่มเข้าไปได้ ซึ่ง Top Box นี้ ไม่ได้มีประโยชน์แค่เรื่องพื้นที่เก็บของเท่านั้น แต่ยังเป็นที่พิงให้คนซ้อนนั่งสบายกว่าในระยะทางไกลๆอีกด้วย การเลือกก็แล้วแต่รุ่นและความจุที่ต้องการ มักจะมาพร้อมแร็คเข้าชุด ดังนั้นไม่จำเป็นต้องเจาะรถแต่อย่างใด สบายใจได้ แนะนำให้เลือก Top Box ที่วัสดุดี กันน้ำ และแข็งแรงเข้าไว้

7. Backpacks

ข้อดีของการขี่มอเตอร์ไซค์คือ ทันทีที่เราบิดคันเร่ง ความกลุ้มใจทั้งหมดที่มีก็เหมือนจะสลายหายไปทันที ความรู้สึกในหัวขณะนั้นจะเต็มไปด้วยความสนุกสนานแบบที่รถยนต์ให้ไม่ได้ แต่ข้อดีนี้ก็ต้องแลกมาด้วยข้อจำกัดข้อใหญ่ นั่นคือความไม่สะดวกในการพกข้าวของอุปกรณ์ต่างๆไปกับเรา แม้รถแนว Touring จะมีช่องเก็บของมากกว่ามอเตอร์ไซค์สไตล์อื่นๆ แต่การเดินทางไกลบางครั้งก็ต้องการมากกว่านั้น และ Backpack ก็ดูจะเป็นทางออกที่ดีสำหรับผู้เริ่มต้น เพราะสามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้ด้วย การเลือกซื้อ Backpack ขึ้นอยู่กับการใช้งาน สำหรับคนเดินทางไกล Backpack ใบใหญ่น่าจะตอบโจทย์กว่า ในกรณีนี้ควรเลือกกระเป๋าที่มีสายรัดแน่นกระชับ ไม่ปลิวหรือกระเด็นกระดอนขณะขับขี่ และวัสดุต้องทนแดดกันฝนจะเวิร์คมาก แต่ถ้าเราเป็นคนของไม่เยอะมากและเดินทางไม่ไกลเกินไป อาจจะดูเป็นกระเป๋าคาดเอวสำหรับใส่ของจุกจิกก็พอครับ

8. แผนที่

เสน่ห์ของการขี่รถ Touring คือการออกไปผจญภัยหาเส้นทางใหม่ๆที่เราไม่ได้ไปในวันปกติ ดังนั้นการมีแผนที่ GPS ติดรถเอาไว้จะช่วยได้มากและทำให้การขับขี่สนุกสนานมากขึ้น เพราะเราจะสามารถรู้เส้นทางข้างหน้าได้ก่อน สามารถระบุปั้มน้ำมันหรือสถานที่จำเป็นได้ และช่วยให้เราไม่ต้องปล่อยมือจากการควบคุมรถมอเตอร์ไซค์ หรือใครอยากสนุกมากขึ้นไปอีก อาจจะเลือกเส้นทางที่คดเคี้ยวมีทางเลี้ยวเยอะหน่อยก็ยังได้ แต่แน่นอนว่าควรจะเลือกรุ่นที่หน้าจอดูได้ชัดเจนในแสงจ้า ซึ่งในปัจจุบันมี GPS สำหรับมอเตอร์ไซค์โดยเฉพาะให้เลือก แต่คำแนะนำคือควรจะมีแผนที่แบบแผ่นพับดั้งเดิมติดตัวไปด้วย เผื่อขี่ไปในเส้นทางที่สัญญาณไม่ดีนัก Google Map ก็ใช้ไม่ได้ อย่างน้อยจะได้มีตัวช่วยในยามคับขัน

9. Action Camera

ทุกครั้งที่เราออกไปขี่รถผจญภัย เหตุการณ์น่าประทับใจต่างๆสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา หรืออาจจะเป็นเส้นทางสองข้างทางที่สวยงามจนเราอยากจะเก็บเอาไว้ในความทรงจำ การมีภาพวีดีโอบันทึกสิ่งเหล่านี้เพื่ออัพโหลดไว้แชร์กับเพื่อนๆบน Social Network หรือจะเก็บ footage เอาไว้ตัดเป็นหนังสั้นสุดเท่ก็น่าสนใจไม่น้อย การติดตั้ง Action Camera ก็ทำได้ง่าย หลายคนนิยมติดไว้บริเวณหมวกกันน็อค ใครมี GoPro แล้วไม่ค่อยได้ใช้ ลองขี่รถไปเที่ยวแบบ Touring Lifestyle รับรองว่าจะใช้จนวางไม่ลงเหมือนเราแน่นอนครับ

10. กล้องถ่ายรูป

จะออกไปเจออะไรใหม่ๆด้วยมอเตอร์ไซค์คู่ใจในช่วงวันหยุดทั้งที เราอยากแนะนำให้ใช้โอกาสนี้ในการเก็บภาพสวยๆด้วยกล้องถ่ายรูปคู่ใจ เพราะอยู่ในกรุงเทพหลายคนอาจไม่ค่อยได้จับกล้องที่ซื้อมาบ่อยนัก การขี่รถแนว Touring เป็นโอกาสที่ดีในการคว้ากล้องคู่ใจไปใช้งานบันทึกภาพเพื่อรีวิวการเดินทางที่น่าประทับใจอย่างที่หลายคนนิยมทำกันก็ดี ถือเป็นเหตุผลในการออกเดินทางสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ให้ชีวิต ไม่แน่รูปเหล่านั้นอาจจะใช้ทำเป็นอาชีพเสริมใน Blog หรือ Facebook Page ท่องเที่ยวของตัวเองก็ได้นะ

Tip : พกกล้อง Mirrorless ช่วยประหยัดพื้นที่ได้และมีน้ำหนักเบากว่ากล้อง DSLR

เตรียม checklist ครบเรียบร้อยแล้ว จะช้าอยู่ทำไม เราไปเริ่มไลฟ์สไตล์สนุกๆ อย่าง Touring Lifestyle กันเลยครับ อย่าลืมว่าไม่ว่าคุณจะเลือกการขี่มอร์เตอร์ไซด์แนวไหน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเคารพกฎจราจร มีน้ำใจกับเพื่อนร่วมทางนะครับ