Business

#Thinkต่าง : 3 วิธีคิดดี ๆ เพิ่มความโดดเด่นก้าวหน้าในที่ทำงาน

By: unlockmen June 9, 2017

เคยสงสัยไหมครับว่า คนที่เขามีความก้าวหน้าในที่ทำงานน่ะ เขาทำยังไง คนที่เขาเก่ง ๆ ในที่ทำงาน เขาทำงานกันแบบไหน คนพวกนี้ต้องกิน (อาหารสมอง) อะไร ถึงได้แสดงวิชาการทำงานออกมาได้โดดเด่นขนาดนี้ ผมเองเป็นคนหนึ่งที่สงสัยอะไรพวกนี้มาก ๆ เลยพยายามหาคำตอบให้ตัวเองอยู่เสมอ

นับว่าเป็นความโชคดีของผมที่ตลอดระยะเวลาการทำงานประจำ 7 ปี ผมถูกแวดล้อมไปด้วยคนคุณภาพ ได้ทำงานกับหัวหน้า และคนที่เก่งกว่าซึ่งมีลักษณะความสามารถเฉพาะตัวที่หลากหลาย ทุกครั้งที่มีโอกาสผมจึงพยายามสอบถามถึงหลักความคิด หลักการทำงานที่ทำให้พวกเขาโดดเด่นจนเติบโตได้อย่างรวดเร็วอยู่เสมอ ๆ และนี่คือ 3 วิธีคิดที่ผมได้เรียนรู้มาจากบุคคลเหล่านั้นครับ

1. คิดอย่าง CEO

170613-business-2

เย็นวันหนึ่ง ส่วนงานของเรามีการนัดจัดงานเลี้ยงส่งคนที่กำลังจะลาออก ผมคาดว่าจะทำงานเลิกเย็นกว่าชาวบ้านชาวช่องเล็กน้อย จึงให้คนอื่นออกเดินทางล่วงหน้าไปที่ร้านก่อน เป็นความบังเอิญที่ผู้ช่วยผู้จัดการส่วนอีกทีมซึ่งต้องไปร่วมงานนี้ด้วยดันเลิกเย็นเช่นกัน ผมจึงโชคดีที่ได้เดินทางไปร้านนัดพบนั้นพร้อมกับแก

ระหว่างการเดินทาง ผมถามแกว่า “ความฝันของพี่คืออะไรครับ” ที่ผมถามคำถามนี้ขึ้นมาเพราะอยากรู้ว่า อะไรคือความฝันหรือแรงจูงใจที่ทำให้แกตั้งใจทำงานจนรู้เรื่องทุกอย่างในบริษัท และได้รับความเชื่อใจมากขนาดนี้ แกตอบผมกลับมาว่า “อ๋อ เราอยากเป็น CEO น่ะ” คำตอบของแกทำให้ผมนึกย้อนไปถึงตอนที่ตัวเองได้มีโอกาสเข้าไปทำธุรกิจเครือข่ายค่ายหนึ่ง โดยเป้าหมายหลักอย่างเดียวที่ทำให้ผมตัดสินใจเข้าไปลองดูตอนนั้นคือ ผมอยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง (ตอนนี้ไม่ได้ทำแล้วนะครับ และไม่ได้มีอคติกับวงการนี้แต่อย่างใด)

ธุรกิจเครือข่ายสอนวิธีคิดอย่างหนึ่งที่สำคัญมาก ซึ่งเปลี่ยนวิธีทำงานทุกอย่างของผมไปอย่างสิ้นเชิง และวิธีคิดนั่นคือ “This is your own business” หมายความว่า ไม่ว่าคุณจะทำอะไร ให้คิดเสมอว่าคุณกำลังทำธุรกิจของตัวเอง พูดง่าย ๆ ว่าคุณคือ CEO นั่นแหละ เมื่อคุณคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของในงานที่ทำ มันจะเปิดมุมมองของคุณ จากเดิมที่เห็นแค่งานตรงหน้าในเชิงลึกอย่างเดียว เป็นเห็นความเชื่อมโยงของงานต่าง ๆ ในเชิงกว้างด้วย การมองเห็นภาพใหญ่จะทำให้คุณตัดสินใจทำสิ่งต่างๆโดยไม่ได้ยึดแค่ประโยชน์ของหน่วยงานตัวเองเป็นหลัก แต่ยึดประโยชน์ของบริษัทเป็นหลัก ซึ่งบ่อยครั้งมักเป็นคนละเรื่องกัน

ย้อนกลับไปที่คำตอบของผู้ช่วยผู้จัดการส่วนในวันนั้น มันทำให้ผมมั่นใจว่า วิธีคิดที่ผมได้เรียนรู้มาไม่ผิดเลย เพราะความเก่งและความโดดเด่นของเธอเป็นหลักฐานที่ชัดเจนที่สุดอยู่แล้ว

2. เข้าใจ WHY ขององค์กร

170613-business-3

บริษัทที่คุณทำงานอยู่ในปัจจุบันทำธุรกิจอะไรครับ นี่คือคำถามที่อยากให้คุณลองหลับตาแล้วตอบตัวเองก่อนที่จะเริ่มอ่านประโยคถัด ๆ ไป บริษัทที่ฉันทำงานอยู่ขายของอะไรซักอย่างหนึ่ง บริษัทที่ฉันทำงานอยู่ให้บริการอะไรซักอย่างหนึ่ง กระทั่งบริษัทที่ฉันทำงานอยู่ผลิตอะไรซักอย่างหนึ่ง

เชื่อว่านี่คือคำตอบที่เกิดขึ้นในความคิดของใครหลายๆคน คำถามคือนั่นคือสิ่งที่บริษัททำจริง ๆ ใช่หรือเปล่า คำตอบคือไม่ใช่หรอกครับ สินค้าหรือบริการอะไรก็แล้วแต่ล้วนถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาหรือสร้างคุณค่าอะไรบางอย่างให้กับผู้คนเสมอ ยกตัวอย่างเช่น บริษัทที่ผมทำงานอยู่ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตเครื่องจักรกลการเกษตร บริษัทนี้ไม่ได้ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อตั้งใจจะผลิตเครื่องจักรกลการเกษตรหรอก แต่ต้องการจะช่วยเหลือเกษตรกรให้มีความสะดวกสบาย ลดต้นทุนการเพาะปลูก และมีชีวิตที่อยู่ดีกินดีมากยิ่งขึ้นต่างหาก เราเรียกสิ่งนี้ว่า WHY หรือเหตุที่ทำให้องค์กรใด ๆ เกิดขึ้นมาครับ

คนที่ไม่เข้าใจ WHY ขององค์กรจะไม่เข้าใจว่าแท้จริงแล้วเรากำลังทำอะไร งานที่เราทำมีความสำคัญยังไง และมันสร้างคุณค่าแบบไหนให้กับผู้คน เมื่อไม่รู้ว่าคุณค่าที่เราสร้างคืออะไร จึงมองไม่เห็นคุณค่าในสิ่งที่ตัวเองทำ เมื่อไม่เห็นคุณค่าในสิ่งที่ตัวเองทำ จึงไม่มีความภาคภูมิใจในตัวเอง และไม่มีความมุ่งมั่นที่จะทำงานออกมาให้ดี

ลองถามตัวเองดูอีกซักครั้งครับว่า WHY ขององค์กรคุณคืออะไรกันแน่ คุณจะได้เข้าใจซักทีว่าไอ้ที่คุณทำอยู่ทั้งหมดนี้ คุณกำลังช่วยเหลือใครและขับเคลื่อนสังคมให้ดีขึ้นกว่าเดิมในรูปแบบไหน นั่นคือคุณค่าในงานของคุณ และนั่นคือคุณค่าของตัวคุณเอง นอกจากนี้การเข้าใจ WHY ขององค์กรจะทำให้คุณตัดสินใจสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้องมากขึ้น ที่เป็นแบบนั้นเพราะคุณรู้ว่าเป้าหมายสูงสุดของบริษัทคืออะไรยังไงล่ะครับ

3. เข้าใจผู้คน

170613-business-6

ไม่มีมนุษย์คนไหนเหมือนกันครับ เรามีลักษณะเฉพาะตัว มีความเชื่อ มีหลักการบางอย่างที่ยึดถือซึ่งถูกก่อร่างสั่งสมมาจากประสบการณ์ที่ผ่านมาในอดีตของตัวเอง พูดง่ายๆว่าเราต่างกันครับ นี่คือความจริงของชีวิตที่เราต้องเข้าใจ การทำงานก็เป็นเช่นนั้น Simon Sinek ปรมาจารย์ด้าน Leadership นักเขียน นักพูดชื่อดังเคยพูดไว้ว่า “If you don’t understand people, you don’t understand business” หมายความว่าถ้าคุณไม่เข้าใจผู้คน แปลว่าคุณไม่เข้าใจธุรกิจ สาเหตุที่ Simon พูดแบบนั้นเพราะว่าองค์กรใดๆจะขับเคลื่อนได้ต้องอาศัยหนึ่งในทรัพยากรสำคัญที่เรียกว่าพนักงานเสมอนั่นเอง

ผมโชคดีที่ได้มีโอกาสทำงานร่วมกับหัวหน้าที่หลากหลาย หนึ่งในนั้นมีความสามารถด้านคนที่ยอดเยี่ยม ที่บอกว่ายอดเยี่ยมเพราะแกทำให้ทีมงานรู้สึกสบายใจที่จะทำงานด้วย ไม่ถือตัว ยินดีที่จะให้ทีมงานไปขอคำแนะนำเสมอ และไม่ว่าใครมั่ว ๆ ซั่ว ๆ สิ่งเหล่านี้ทำให้ผมเข้าใจว่าการเข้าใจผู้คนเป็นหนึ่งในวิธีคิดสำคัญที่จะทำให้ใครซักคนมีความโดดเด่นขึ้นมาในองค์กร ทำไมถึงเป็นแบบนั้น เพราะเมื่อคุณเข้าใจความแตกต่างของผู้คน คุณจะสามารถทำงานกับใครก็ได้ในรูปแบบที่เหมาะสม รวมถึงเชื่อมต่อพวกเขาเข้าหากันได้ง่าย เพื่อนร่วมงานจึงรู้สึกสบายใจที่ได้ทำงานกับคุณ

เมื่อเอาวิธีคิดนี้และวิธีคิดอีก 2 ข้อที่ผมเล่าให้ฟังไปข้างต้นมาใช้ร่วมด้วย คุณจึงได้รับความไว้วางใจในการทำงาน และได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนร่วมงานเพราะความสามารถ ทุกคนจึงยินดีทำงานที่ดีให้กับคุณโดยที่คุณไม่ต้องร้องขอแม้แต่นิดเดียว เวลาคุณได้ทำงานร่วมกับคนที่เข้าใจคุณ คุณจะรู้สึกดีและทำงานอย่างมีความสุขเสมอ และเมื่อคุณมีความสุขในการทำงาน คุณก็จะสร้างงานดีๆออกมาได้เอง คุณว่าผมพูดจริงไหมล่ะ

และนี่คือ 3 วิธีคิดที่จะทำให้คุณโดดเด่นในที่ทำงาน ลองเอาไปปรับใช้ดูครับ ผมเชื่อเหลือเกินว่ามันจะเปลี่ยนการทำงานของคุณไปอย่างสิ้นเชิง อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ที่ดีจะเกิดได้ต้องอาศัยการลงมือทำอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ วิธีคิดดีแค่ไหนก็ไม่มีความหมาย ถ้าไม่ได้เอาไปลงมือทำครับ เริ่มสร้างงานที่ทำให้ตัวเองต้องภูมิใจตั้งแต่วันนี้ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนออกไปลงมือสร้างสิ่งดี ๆ คุณค่าดี ๆ ให้สังคม

อ่านบทความดี ๆ เพิ่มเติมได้ที่  Thinkต่าง by เธมส์ DECgeneration

170107-business-1

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line