Work

GET RESPECT AT WORK: วิธีสร้างความเคารพยอมรับในออฟฟิศ เพื่อชีวิตการงานที่โคตรสนุก

By: PEERAWIT June 23, 2018

สิ่งที่ผู้ชายส่วนใหญ่คาดหวังกับชีวิตการงานคือการเจองานที่ชอบ เอ็นจอยกับงานที่ใช่ และได้รับการยอมรับในสังคมการทำงาน ทว่าการทำงานเก่งเพียงอย่างเดียวอาจไม่ไช่คำตอบของการถูกยอมรับก็ได้ มีบางคนเหมือนกันที่ทุ่มเทกับการทำงานอย่างหนักทุกวัน แต่ก็ยังถูกเพื่อนร่วมงานเบือนหน้าหนี แถมโดนผู้บริหารเพ่งเล็ง แบบนี้มันเป็นเพราะอะไร ?

ถ้าเราทำงานอยู่ในบริษัทหรือองค์กรต่าง ๆ ที่ต้องร่วมงานกับผู้อื่น มันย่อมมีกฏกติการ่วมกัน มีความเป็นสังคม และมันเป็นสิ่งที่ทำให้เรากลายเป็นวิญญาณไร้ความหมาย ไร้คนเคารพได้หากชอบแตกแถว หรือวางตัวไม่เหมาะสม พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นเราก็จะรู้สึกขาดความสุขในการทำงาน แม้ว่าลักษณะงานและรายได้จะดีก็ตาม ชีวิตที่ออฟฟิศก็จะหมดสนุก ถ้าปล่อยไว้แบบนี้รับรองว่าเซ็งแย่ ไม่ก็ท้อแท้จนแค่ทำงานไปวัน ๆ  ความมันส์ก็จะค่อย ๆ ลดลงไปจนเหลือศูนย์

แต่เราจะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นแน่นอน UNLOCKMEN มีวิธีเหมาะ ๆ ที่จะช่วยให้คุณได้รับการยอมรับรอบด้านในที่ทำงานมาฝากกัน

 

อย่าไปจริงจังมากเกิน

ผู้ชายอย่างเรามักจะหมกมุ่นกับเรื่องงาน ราวกับว่างานตรงหน้าคือคู่เดท จนบางครั้งก็เหนื่อยมากเกินไป ถ้ารู้สึกรักงานขนาดนั้นก็อยากให้ลองเปรียบเทียบเรื่องงานกับเรื่องความรักไปเลย คุณต้องแสดงความชัดเจน นายจ้างของคุณก็ต้องเห็นความทุ่มเทของคุณเช่นกัน แต่ไม่ใช่ว่าโหมหนักมากเกินถึงค่ำมืดดึกดื่นไม่เว้นวันหยุด แบบนี้อาจเป็นความรักที่ไม่ค่อยรักตัวเองเท่าไหร่

บนโลกที่โหดร้ายแบบนี้โชคคงไม่ได้เข้าข้างเราเสมอไป ถ้าเราทุ่มเทกับอะไรมากเกินไปแบบไม่เตรียมใจ เกิดพลาดพลั้งขึ้นมาด้วยความซวย ก็ไม่รู้จะช่วยใจของตัวเองอย่างไรเหมือนกัน เพราะฉะนั้นลดความจริงจังเรื่องงานลงมาบ้าง ย้ำว่าลด “ความจริงจัง” ไม่ใช่ลด “ความตั้งใจ”

บางคนอาจจะคิดว่าการทุ่มเทแบบไม่ลืมหูลืมตาจะเป็นเกราะป้องกันไม่ให้เขาตกงาน แบบนี้เป็นการสร้างความกดดันให้กับตัวเอง และถมความเหนื่อยเข้าไปอีก ทางที่ดีควรทำงานให้เต็มที่แบบไม่เกินตัว และหาแผนสำรองให้กับชีวิตบ้าง จะได้ไม่เครียด พอมีข่าวร้ายเรื่องงานแบบเชิงนโยบายออกมา เช่น โดน layoff แบบหมดทางเลือก ใจก็จะได้ไม่ทรุด เราเชื่อมั่นว่าทุกคนยังมีทางไป แค่เตรียมเส้นทางเผื่อไว้ก็ไม่มีอะไรต้องกังวล

 

ห้ามทำงานช้ากว่าเดดไลน์เด็ดขาด!

การที่ “Deadline” ถูกเรียกว่า “เดดไลน์” นั้น ย่อมมีเหตุผลในตัวของมัน แม้ว่าจะไม่มีใครตาย หากคุณทำงานช้ากว่าเดดไลน์ เพื่อนร่วมงานของคุณก็จะหมดความวางใจในตัวคุณ มันเป็นเรื่องของความน่าเชื่อถือ การรักษาคำพูด และความมั่นใจที่คนอื่นจะฝากผีฝากไข้ไว้ ส่วนกรณีที่หัวหน้าของคุณกำหนดเดดไลน์ที่ดูเหมือนกับว่าจะเป็นไปไม่ได้ ก็ควรจะอธิบายถึงเหตุผลว่าทำไมงานนี้ถึงต้องการเวลาเพิ่ม และขอเพิ่มระยะเวลาในการทำงานออกไป แต่ต้องทำได้ตามที่พูด จะได้ไม่ตายทั้งเป็นในออฟฟิศ

 

ห้ามมาไม่ทันเวลานัดหมายเด็ดขาด!

การมาไม่ทันเวลานัดหมายแสดงให้เห็นว่า คุณเชื่อว่าเวลาของคุณมีค่ามากกว่าเวลาของคนที่คุณนัดเจอ แม้ว่าเวลาของคุณจะมีค่ามากกว่าจริง ๆ  แต่อย่าไปทำแบบนั้นเลยนะลูกพี่ ลองคิดกลับกันดู ใช่ มันโคตรเซ็งเลยเวลาที่ตื่นแต่เช้า รีบมาให้ทันเวลา สุดท้ายต้องเป็นฝ่ายมานั่งรอเขาเลท

 

เลิกลับหลัง

การว่าร้ายลับหลังคนในออฟฟิศมักจะเกิดขึ้นไม่มากก็น้อย ซึ่งการจะเป็นคนที่น่าเคารพนั้นก็ควรจะเลิกพฤติกรรมเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นการซุบซิบนินทา แชทลับหลัง นักแคปในตำนาน หรืออาจหาญเผาเครื่องกันทางอีเมล ยิ่งเราทำแบบนี้มากขึ้นเท่าไหร่ เพื่อนร่วมงาน หัวหน้า และลูกน้องก็จะยิ่งเซ็ง แถมไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น ส่วนใครที่ยังทำอยู่ ก็คงห้ามไม่ได้ เราได้แต่ภาวนาว่าอย่าให้คุณแชทผิดกลุ่มเลย แค่คิดก็หวั่นใจแทนแล้ว

 

อย่าขโมยเวลาคนอื่น แต่รู้จักให้เวลากับผู้อื่นบ้าง

เชื่อว่าทุกคนต้องเคยเจอเพื่อนร่วมงานแบบที่ชวนคุณคุยเรื่องไร้สาระไปเรื่อยในช่วงเวลาที่ต้องจริงจัง ทำคุณเสียเวลาเสียสมาธิในการปั่นงานไม่น้อย ไอ้เราก็ต้องเออออไป เขาจะได้ไม่เสียความรู้สึก ทั้งที่ในใจนั้นโคตรรำคาญ เพราะฉะนั้นอย่านำเอาความบันเทิงไปมอบให้ใครในเวลาที่เขายังไม่ต้องการ ถ้าไม่อยากโดนรำคาญเหมือนกัน

แต่ในบางครั้งเราก็ต้องเป็นผู้ฟังที่ดีบ้าง บางที boss ของคุณอาจจะอยากเล่าเรื่องสนุก ๆ ให้ฟังในวันที่คุณยุ่ง ๆ  แบบนี้เราต้องรู้จักศิลปะในการพูดคุย และการตัดบทแบบเนียน ๆ  แนะนำว่าให้ตั้งใจฟังจริง ๆ ตั้งแต่วินาทีแรกที่คู่สนทนาเอ่ยปาก เขาจะรู้สึกพึงพอใจที่เราใส่ใจอย่างรวดเร็ว การสนทนานั้นก็จะสั้นลง อันนี้ไม่ใช่การประจบประแจง แต่มันคือการเอาใจเขามาใส่ใจเรา วิธีนี้สามารถใช้ได้กับทุกคนในที่ทำงาน แม้กระทั่งชายที่น่ารำคาญในย่อหน้าก่อนนี้

 

ดูแลรุ่นน้องให้ดี

ไม่ค่อยมีอะไรแย่ไปกว่าการที่รุ่นเก่าโชว์เก๋าข่มเด็กใหม่ปลามันส์ในออฟฟิศ ใช้ให้ทำนู่นทำนี้ บ้างก็โยนงานให้น้อง ๆ ทำ ส่วนตัวเองสบาย วัน ๆ ไม่ค่อยต้องทำอะไรเท่าไหร่ สิ้นเดือนรอรับเงินแสนอัพ

ถ้าคุณรู้สึกว่าคุณกำลังกินแรง และวางก้ามใส่รุ่นน้องและคนอื่น ก็ควรจะปรับโดยด่วน การโชว์ความเก๋าในออฟฟิศเป็นเชื้อเพลิงแห่งความเกลียดชังที่ลุกลามได้เร็วและแรง ถ้ามี feedback ถึงคุณในทำนองนี้ ลองดึงด้านสว่างของคุณออกมา เราเชื่อว่าทุกคนมีด้านดีที่จะเปลี่ยนอัธยาศัยให้กลายเป็นคนเดิมเวอร์ชั่นใหม่ที่ใส่ใจและเป็นมิตรกับคนรอบข้างอย่างจริงใจ เกิดวันหนึ่งคุณต้องเติบโต จะได้มีน้อง ๆ ที่สนับสนุนคุณอย่างจริงใจเช่นกัน

 

แต่งตัวให้เกียรติสถานที่

ข้อแนะนำนี้ไม่มีสูตรสำเร็จ เพราะว่าแต่ละออฟฟิศย่อมแตกต่าง แต่ละสถานการณ์ก็ไม่เหมือนกัน ถ้าเป็นหน่วยงานราชการ คุณก็คงจะแต่งตัวให้อิสระเกินไปไม่ได้ เพราะต้องการความเชื่อถือ ถูกระเบียบขององค์กร ขณะเดียวกันถ้าคุณทำงานในเอเยนซี่สนุก ๆ ก็ไม่แปลกถ้าคุณจะแนวสุด ๆ ไปเลย แต่ก็คงไม่ดีถ้าเซอร์จัด ๆ จนสกปรก

การแต่งกายเป็นพลังที่สร้างการยอมรับได้ดี ถ้าเลือกสวมใส่ให้เหมาะสม ไม่จำเป็นต้องแต่งไปแข่งกับใคร เราก็แค่ใส่ตามกฏระเบียบของที่นั้น ๆ  และใส่สไตล์ตัวเองลงไปบ้างได้ไม่เบื่อ หรืออาจเตรียมเสื้อเบลเซอร์เอาไว้สักตัวสองตัว เวลาต้องออกไปเจอลูกค้า หรือไปร่วมงานสังคมแบบเร่งด่วน แค่นำเสื้อคลุมสูทตัวนั้นมาใส่ ก็ดูดีขึ้นเป็นกองได้ไม่ยาก

 

รู้ว่าตอนไหนควรพูดไม่ควรพูด

“การยับยั้งชั่งใจถือเป็นส่วนหนึ่งของความองอาจ” แม้ว่ามันอาจดูไม่เหมือนเป็นคนตรงเท่าที่ควร แต่ก็เป็นการให้เกียรติผู้อื่น นำพาสู่การได้รับความเคารพในสถานที่ทำงาน โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ต้องทำงานร่วมกัน เช่น ประชุม หรือ brainstorming

สมมติว่าเพื่อนร่วมงาน หรือลูกน้องสุดมั่นใจของคุณนำเสนอไอเดียที่ผิดจุดอย่างรุนแรง หรือแสดงให้เห็นถึงข้อผิดพลาดแบบเต็ม ๆ  สมควรที่จะเบรกมันเดี๋ยวนั้น อยากให้ตั้งสติ ใช้ความสุขุมรับฟังให้จบก่อน ไม่ใช่สวนแหลกให้พังยับไปเลย จากนั้นค่อยคอมเมนต์แบบสุภาพไม่ให้คนนั้นเสียหน้ากลางที่ประชุม แล้วค่อยไปวิจารณ์แบบตรงไปตรงมาเป็นการส่วนตัวจะดีกว่า ก่อนที่จะคิดดัง ยับยั้งชั่งใจก่อนเถิดจะเกิดผลดี มีแต่คนเคารพและยอมรับ

 

รักษาความสะอาด

บางคนวางตัวดี แต่บริเวณโต๊ะทำงานนี่เรียกว่าแหล่งเสื่อมโทรมชัด ๆ  อย่าตายนำ้ตื้นเพราะความไม่สะอาด ดูแลสเปซการทำงานของคุณให้ไร้สิ่งสกปรก จัดให้เรียบร้อย หาอะไรมาตกแต่งให้เท่ตามสไตล์คุณก็ได้ เวลาใครแวะเวียนมานั่งที่โต๊ะจะได้รู้สึกดีหน่อย อย่าปล่อยให้คนอื่นรู้สึกว่ากำลังนั่งอยู่กับถังขยะในเมืองใหญ่ เอาจริง ๆ การดูแลพื้นที่ของคุณมันสามารถบ่งบอกอะไรได้หลายอย่างนะ อย่าประมาทเด็ดขาด เดี๋ยวจะเสียการปกครอง แถมสาว ๆ ที่ยังไม่มีเจ้าของก็อาจเบือนหน้าหนี

 

ห้ามเมาแอ๋ไปทำงาน

เข้าใจว่า work hard – play hard แต่ใครมันจะไปทนทานเพื่อนร่วมงานที่มีกลิ่นละมุดและทรุดโทรมมาทำงานได้ ไม่ว่าจะปาร์ตี้มาหนักแค่ไหนเมื่อคืน หรือดื่มฉลองกับทีมงานแบบสุดซอย ก็ต้องดูแลตัวเองให้ดี เริ่มตั้งแต่มีสติให้มาก ไม่ปล่อยตัวดื่มจนหัวทิ่ม พักผ่อนให้เพียงพอ อย่าให้สังขารที่เต็มไปด้วยแอลกอฮอล์ไปสร้างความเซ็งให้กับคนที่ทำงาน ถ้าอยากสร่างเร็ว ๆ เรามีวิธีดี ๆ มาแนะนำ อ่านกันได้ที่คอนเทนต์นี้เลย

 

สังสรรค์กับทีมงาน

มันก็ไม่ผิด ถ้าจะคิดว่าเราแค่ไปทำงาน แล้วก็กลับบ้านนอน แต่ชีวิตมันจะไปสมบูรณ์อะไร ถ้าวัน ๆ ไล่ล่าแต่ความสำเร็จอย่างลำพัง

เวลาที่ออฟฟิศมีปาร์ตี้ฉลองวันเกิด หรือนัดกินกันเนื่องในโอกาสอะไรก็ตาม วางงานลงซะ (คนอื่นเค้าก็วางไว้ก่อนเหมือนกัน) แล้วร่วมฉลองไปกับเพื่อนร่วมงาน เฮฮากับน้อง ๆ  และ boss ทั้งหลายให้ไหลลื่น จะได้คุ้นเคยกัน เป็นการละลายพฤติกรรมในตัว อย่ามัวทำตัวฟิตผิดเวลา เดี๋ยวเค้าจะหาว่าคุณนี่มันไร้มนุษย์สัมพันธ์ ไม่น่าเคารพและคบหาเอาซะเลย

 

หวังว่าชาว UNLCOKMEN ทุกคนจะสามารถนำสิ่งที่เราแนะนำไปสำรวจตัวเอง และปรับใช้ได้ดี โดยจากผลสำรวจพบว่า คนไทยทำงานโดยเฉลี่ยสัปดาห์ละเกิน 50 ชั่วโมง เท่ากับว่าทำงานวันละประมาณ 10 ชั่วโมง (จันทร์-ศุกร์) กินเวลาไปเกือบ 1 ใน 3 ของสัปดาห์ไปแล้ว เพราะฉะนั้นความสุข และการได้รับการยอมรับในที่ทำงานจึงเป็นสิ่งสำคัญในชีวิต และเมื่อได้รับการเคารพและยอมรับแล้ว สิ่งที่ผู้ชายอย่างเราควรทำมากที่สุดคือ การเคารพและยอมรับผู้อื่นเช่นกัน แล้วทุกวันจะมันส์แบบ non stop

SOURCE

PEERAWIT
WRITER: PEERAWIT
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line