Business

#Thinkต่าง : 3 วิธีง่าย ๆ ที่ทำให้หัวหน้าประทับใจในการทำงาน

By: unlockmen March 5, 2017

ขึ้นชื่อว่าเป็นพนักงานประจำ ทุกคนคงต้องมีหัวหน้าเป็นของตัวเองครับ หลาย ๆ คนบอก เออ หัวหน้าของตัวเองก็มี หัวหน้าคนอื่นที่ทำตัวอย่างกับเป็นหัวหน้าตัวเอง นี่ก็มี อะไรก็ว่ากันไป ประเด็นคือ ผมเชื่อว่าเราคงรู้ดีกันอยู่แล้วแหละว่าถ้าอยากก้าวหน้าในการทำงาน หัวหน้าก็เป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่งที่ขาดไม่ได้ เพราะเขาเป็นคนประเมินเราใช่ไหม? เออ นั่นก็ใช่ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด…

โดยส่วนตัวแล้วผมไม่ค่อยสนใจเรื่องการประเมินเท่าไหร่ เพราะเชื่อว่าถ้าผมทำตัวเองให้ดี ส่งงานที่ผลลัพธ์เกินความคาดหมาย ยังไงผลการประเมินมันก็มีโอกาสออกมาดีได้อยู่แล้ว การมองว่าหัวหน้าเป็นคนประเมินผลงานจึงไม่ได้สลักสำคัญอะไร ด้วยสาเหตุนี้ผมจึงมีนิยามของหัวหน้าที่อาจจะแตกต่างออกไปมายกตัวอย่างให้ฟัง เช่น หัวหน้าคืออาจารย์ในที่ทำงาน หัวหน้าเป็นที่ปรึกษา เป็นพี่ที่สนิท กระทั่งเป็นทีมงานที่ต้องร่วมมือกันอย่างแข็งขันเพื่อทำเป้าหมายหลายๆอย่างให้สำเร็จ

และเมื่อนิยามคำว่าหัวหน้าของผมเป็นแบบนี้ ดังนั้นสิ่งที่ผมอยากจะเอามาเล่าให้ฟัง จึงไม่ใช่วิธีการที่ทำให้หัวหน้าประทับใจเพื่อให้คุณได้ผลประเมินดี ๆ แต่เป็นวิธีที่ทำให้หัวหน้าประทับใจเพื่อให้ทั้งเราและหัวหน้ามีความเข้าใจกัน ยินดีที่จะช่วยเหลือกัน และทำให้ทีมงานบรรลุเป้าหมายร่วมกันให้ได้มากที่สุดครับ

1. เข้าใจที่มาและเป้าหมายของงานในทิศทางเดียวกัน

161123-11-things-to-begin-now-your-business-thrives-in-2017-1

ตลอดระยะเวลาที่ผมทำงานประจำมา 6 ปี ผมเคยมีสถานะเป็นทั้งลูกน้อง ลูกกระจ๊อก กระทั่งเติบโตมาเป็นหัวหน้าคน จากประสบการณ์ทั้งสองด้าน บอกได้เลยว่าไม่มีอะไรที่จะทำให้ทั้งลูกน้องและหัวหน้าสบายใจเท่ากับการที่พวกเขาเข้าใจที่มาของงาน และเป้าหมายของงานในแบบเดียวกัน ทำไมเป็นแบบนั้น?

ผมเชื่อว่าทุกคนน่าจะเคยเจอหัวหน้าที่ชอบบอกให้คุณไปทำนู่นนี่นั่น เมื่อคุณรับคำสั่งมา คุณก็แค่ออกไปลงมือทำตามขั้นตอน 1-2-3-4 ปรากฎว่างานที่คุณทำออกมาไม่ตรงกับความต้องการที่หัวหน้าอยากได้ สาเหตุง่าย ๆ คือ คุณไม่เข้าใจว่าที่มาของงานคืออะไร และเขาต้องการเอางานนี้ไปใช้แบบไหน เมื่อไม่เข้าใจทั้งสองอย่างนี้ จึงแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่คุณจะสามารถทำงานออกมาได้ตรงความคาดหมาย กระทั่งดีกว่าความคาดหมายที่หัวหน้าต้องการ

ถ้าคุณเป็นลูกน้อง แล้วเจอหัวหน้าที่ไม่ได้บอกเรื่องเหล่านี้ อย่าไปโทษเขา เพราะเขาเองอาจจะไม่รู้ว่านี่คือเรื่องที่จำเป็น แต่เอาเป็นว่าตอนนี้คุณรู้แล้ว หน้าที่ของคุณคือไปถามเขาว่า ที่มาและเป้าหมายของงานนี้คืออะไร เมื่อคุณเข้าใจคุณถึงจะทำงานดี ๆ ได้มากกว่าที่เป็น

ถ้าคุณเป็นหัวหน้า คุณจำเป็นต้องบอกเรื่องเหล่านี้ให้ทีมงานของคุณฟัง เพราะคุณไม่มีทางจะได้รับงานที่ดีเกินกว่าที่คุณคาดหวัง หรือไม่มีทางจะพัฒนาทีมงานได้ ถ้าเอาแต่ปิดตาเขาให้ทำตามคำสั่งของเราอย่างเดียว คุณก้าวหน้าได้ไม่ใช่เพราะตัวคุณเก่ง แต่ทีมงานคุณเก่งต่างหาก

2. คิดในมุมมองของหัวหน้าได้

160811-8-secrets-mentally-strong-2

ถ้าเราเป็นหัวหน้า เราจะทำอะไร? นี่คือคำถามสำคัญที่อยากให้คุณหยิบออกมาใช้ทุกครั้งเมื่อคุณกำลังเจอปัญหา และอยากเข้าไปขอคำแนะนำจากหัวหน้า

ในฐานะของลูกน้อง เมื่อเจอปัญหาที่ตัวเองตัดสินใจไม่ได้ หรือกลัวตัดสินใจผิดพลาด แน่นอนว่าเราต้องเข้าไปขอคำแนะนำจากหัวหน้าอยู่แล้ว แต่ประเด็นคือ เราเองเป็นคนที่รู้สถานการณ์หน้างานดีที่สุด ว่ากันตามข้อมูลเชิงลึกที่มีในตัว เราควรจะเป็นคนที่สามารถตัดสินใจเรื่องนี้ได้ดีกว่าหัวหน้าที่มองภาพใหญ่เป็นหลักด้วยซ้ำ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ผมจะบอกคุณว่า เราต้องเป็นคนคิดหาแนวทางแก้ปัญหาไปให้กับหัวหน้าก่อน ส่วนหัวหน้าจะเห็นด้วย และว่าตามเราหรือไม่ นั่นมันก็อีกเรื่องนึง

ในฐานะหัวหน้า ก่อนจะตัดสินใจอะไรได้ เราก็ต้องการข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในเชิงลึก เพื่อนำมารวมกับภาพใหญ่ที่เรามองเห็น ยิ่งคิดมาให้เราหนึ่งชั้นก่อน ยิ่งดี เพราะเราจะสามารถคิดต่อได้บนพื้นฐานของวิธีแก้ปัญหาที่ผ่านการวิเคราะห์มาแล้ว เท่ากับว่าเราจะปรับปรุงวิธีการแก้ปัญหานั้นให้ดีได้มากขึ้นไปอีก ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเราเลือกใช้วิธีการที่ทีมงานเสนอมา ยิ่งเป็นการทำให้ทีมงานมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น กล้าเสนอความคิดเห็นมากขึ้น และช่วยพัฒนาทีมให้แข็งแกร่งมากขึ้นไปอีก

3. ไม่คุยกันแต่เฉพาะเรื่องงานเท่านั้น

160905-men-5

ความสัมพันธ์ที่ดีไม่ควรมีเฉพาะเรื่องงาน ที่ผมพูดแบบนี้เพราะเราไม่มีทางจะคุยกันอย่างเข้าใจ และเปิดใจคุยกันเรื่องงานอย่างตรงไปตรงมาได้ ถ้าเราไม่คุยกันเรื่องอื่น ๆ ในชีวิตบ้าง การคุยในเรื่องที่นอกเหนือจากงานจะทำให้ทั้งลูกน้องและหัวหน้ารู้จักกันมากขึ้น สนิทกันมากขึ้น บรรยากาศของการทำงานจึงไม่ได้มีแต่ความตึงเครียดเพราะมีแต่ งานและงาน

ในฐานะลูกน้อง เราอยากได้หัวหน้าที่ไม่ใช่แค่ที่ปรึกษางาน แต่อยากได้รับคำแนะนำบางอย่างที่ดีในการใช้ชีวิต เราอยากได้พี่ชาย พี่สาว ที่มีความเข้าใจ เห็นอกเห็นใจกัน และช่วยเหลือกันเพื่อผ่านปัญหาต่างๆไปได้ด้วยดี

ในฐานะหัวหน้า หรือลูกพี่ เราไม่ได้อยากได้แค่ลูกน้อง แต่เราอยากได้น้องที่เข้าใจเรา เห็นอกเห็นใจเรา กล้าแสดงความคิดเห็น กล้าแนะนำ ติชมเราในขณะที่ก็ยังให้เกียรติเรา เพื่อให้เราเป็นคนที่ดีขึ้นทั้งในฐานะของลูกพี่ และเป็นพี่ที่ดีไปพร้อมๆกัน

Mad Men

เมื่อทุกคนสนิทกัน เห็นอกเห็นใจกัน คิดถึงกันและกัน เราจึงมีความสัมพันธ์ และมีปฏิสัมพันธ์ในการทำงานที่ดีซึ่งเป็นพื้นฐานของการทำงานเป็นทีม ที่จะช่วยแก้ไขปัญหาทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้นในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเองครับ

ติดตามผลงานเพิ่มเติมได้ที่  Thinkต่าง by เธมส์ DECgeneration

170107-business-1

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line