Life

“คาดหวังสูงจนผิดหวังบ่อย” 5 วิธีลดละเลิกนิสัยนิยมความสมบูรณ์แบบ

By: unlockmen May 19, 2021

เวลาเราทำงานหรือแข่งขันกับเพื่อน หลายคนมักจะทุ่มเทแรงกายและแรงใจให้กับมันอย่างเต็มที่ เพราะคาดหวังให้ผลงานของตัวเองมีคุณภาพ และสามารถโชว์ให้คนอื่นดูได้แบบไม่เคอะเขิน การตั้งมาตรฐาน หรือ ความคาดหวังไว้สูงเป็นเรื่องที่ดี เพราะมันช่วยให้เรามีแพสชั่นและความตั้งใจ แต่อย่างไรก็ดี ถ้าเราเป็นคนนิยมความสมบูรณ์แบบ หรือ perfectionist (เช่น หวังว่า งานที่ออกมาจะต้องไม่มีข้อผิดพลาด 100% หรือ ทุกคนจะต้องชอบในสิ่งที่ตัวเองทำ เป็นต้น) เราจะมีความสุขได้ยาก และมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีนักกับคนรอบข้าง  UNLOCKMEN เลยอยากให้ทุกคนลองเช็คความเป็น perfectionist ในตัวเอง และลองทำ 5 วิธีกำจัดนิสัยชอบตวามสมบูรณ์แบบกัน

สัญญาณที่บอกว่าคุณนิยมความสมบูรณ์แบบมากเกินไป

ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจก่อนว่า คนที่มีความทะเยอทะยานสูง (High Archiver) กับ Perfectionist มีความแตกต่างกัน แม้คนสองกลุ่มนี้จะมองหาความสำเร็จเหมือนกัน แต่สิ่งที่พวกเขามีต่างกัน คือ ความสามารถในการรับมือกับความล้มเหลวหรือผิดพลาด โดย High Archiver มักจะไม่ด่าตัวเองเมื่อทำผิดพลาด แต่จะเรียนรู้และเติบโตขึ้นจากมัน ส่วน Perfectionist มักจะพยายามอย่างหนัก เพื่อป้องกันหรือหลีกหนีความผิดพลาด เพราะพวกเขากลัวความผิดพลาดนั่นเอง

พฤติกรรมที่เราพบได้บ่อยในกลุ่ม Perfectionist  ได้แก่ วิจารณ์คนอื่นอยู่เสมอ มักเสียเวลาไปกับการแก้ไขงานจนบางครั้งส่งงานไม่ทันกำหนด มักด่าตัวเองอย่างหนักเวลาทำผิดพลาด กลัวว่าความผิดพลาดจะส่งผลให้คนอื่นมองว่าตัวเองแย่ ทำทุกอย่างเพื่อหนีจากความเสี่ยง ไม่เคยพอใจในความสำเร็จของตัวเองเลย ไม่พึงพอใจกับชีวิต และอาจมีปัญหาด้านสุขภาพจิต เช่น ความเครียด วิตกกังวล หรือ ซึมเศร้า ถ้า่ใครมีนิสัยแบบนี้ ควรรีบเปลี่ยนแปลงตัวเองโดยเร็วก่อนที่มันจะส่งผลเสียมากไปกว่านี้ เราจะแนะนำต่อไปว่าจะมีวิธีไหนบ้างที่ช่วยให้คุณเลิกเป็น perfectionist ได้

ตั้งความคาดหวังที่เป็นจริงมากขึ้น

ความคาดหวังที่สูงเกินจริง มักทำให้เราเป็นทุกข์ เพราะมันเป็นเรื่องที่ทำให้สมหวังหรือเป็นจริงได้ยาก และคนที่เป็น perfection มักทำเรื่องนี้บ่อย พวกเขาเลยเจอกับความผิดหวังบ่อยเช่นกัน ดังนั้น การต่อสู่กับนิสัย perfectionist จึงต้องการทักษะการตั้งความความหวังให้สอดคล้องกับความเป็นจริง และสามารถทำได้โดยการทำความเข้าใจตัวเอง (เช่น ข้อดีข้อเสียหรือความสามารถของตัวเอง) และการกำหนดเป้าหมายหลักในการทำทุกเรื่อง

สนใจด้านบวกมากขึ้น

คนที่เป็น perfectionist มักสนใจแต่ข้อผิดพลาดของตัวเองและคนรอบตัว พวกเขาเลยมักจมอยู่ในความเครียดและมองโลกในแง่ลบ ซึ่งปัญหานี้สามารถดีขึ้นได้ หากเราหันมาโฟกัสกับด้านบวกของสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวเองมากขึ้น เช่น ในเวลาที่เรารู้สึกไม่ชอบผลงานของตัวเอง ให้ลองค้นหา 5 สิ่งที่เราชอบเกี่ยวกับมัน เมื่อเรามองเห็นด้านบวกมากขึ้น เราก็จะรู้สึกมั่นคงมากขึ้น และกลัวความผิดพลาดน้อยลง

เปลี่ยนเสียงวิจารณ์ให้กลายเป็นคำชื่นชม

คนที่นิยมความสมบูรณ์แบบมักได้ยินเสียงวิจารณ์ภายในอยู่เสมอ (inner critic) ซึ่งเสียงเหล่านี้มักบอกพวกเขาว่ายังทำได้ไม่ดีพอ หรือ ยังพยายามไม่มากพอ ซึ่งเป็นการทำลายการมองเห็นคุณค่าของตัวเรา และทำให้เราหลุดจากการเป็น perfectionist ได้ยาก ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้หากเราเปลี่ยนเสียงภายใน (self-talk) ของตัวเองใหม่ให้มีความหมายบวกมากขึ้น เช่น เแทนที่เสียงวิจารณ์ด้วยการชื่นชมตัวเองหรืองานที่เราทำ เป็นต้น

สนุกไปกับสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างทาง

บางคนติดนิสัยชอบโฟกัสที่ผลลัพธ์มากเกินไป จนไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างทาง พฤติกรรมแบบนี้สามารถบั่นทอนความสุขของเราได้ เพราะเราจะไม่เผื่อใจเมื่อความผิดพลาดจะเกิดขึ้น สุดท้ายเราก็จะเจ็บหนักเมื่อล้มเหลว ใครที่มีปัญหาแบบนี้ ลองโฟกัสเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างทางมากขึ้น เพราะเวลาที่ทุกอย่างออกมาไม่สมบูรณ์แบบอย่างที่เราหวังไว้ เราจะมองเห็นว่าตัวเองได้เรียนรู้อะไรจากสิ่งที่ตัวเองทำบ้าง และไม่รู้สึกว่าสิ่งที่ทำมาสูญเปล่า

เรียนรู้วิธีรับมือกับคำวิจารณ์

หากเรามองว่าคำวิจารณ์เป็นภัย หรือ เป็นสิ่งที่ทำลายชีวิตของเรา การเปลี่ยนทัศนคติจะช่วยให้เราก้าวข้ามมันไปได้ ลองคิดดูว่าคำวิจารณ์เป็นโอกาสที่จะทำให้เราได้เรียนรู้สิ่งใหม่ หรือ พัฒนาตัวเองมากขึ้น เพียงเท่านี้คำวิจารณ์ก็จะกลายเป็นแรงบันดาลใจให้เราพัฒนาตัวเองได้แล้ว

ทั้งหมดนี้ก็เป็นวิธีการเอาชนะนิสัย perfectionist แบบง่ายที่เราอยากให้ทุกคนได้ลองทำตามกัน เราหวังว่าหากทุกคนนำมันไปใช้กับตัวเองแล้ว จะสามารถมองโลกตามความเป็นจริง และมีความสุขกับชีวิตได้มากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า


Appendix: 1/2

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line