Business

อยากได้งานต้องรู้ไว้! อะไรบ้างที่คุณไม่ควรใส่ลงใน Resume

By: unlockmen July 8, 2015

เขาว่างานนั้นหายาก ต้องลำบากขวนขวายหากันหัวฟู คือถ้าพูดกันจริงๆ เลยก็คืองานเนี่ยมีให้ทำอยู่ตลอด แต่งานที่ตรงกับความสามารถของเรา งานในองค์กรที่ดี หรือว่างานที่เราอยากทำเนี่ยมันไม่ได้มีมาบ่อยๆ จะให้มีเว็บไซต์หางานมากมายแค่ไหน ก็อาจจะไม่มีงานที่เราต้องการอยู่ดี เรียกว่าถ้ามีงานที่ใฝ่ฝันมาทีนึง ก็คงไม่มีใครอยากพลาดโอกาสที่จะคว้ามันไว้ สิ่งสำคัญที่จะทำให้เค้าสนใจคุณหรือไม่นั้น ก็คงอยู่ที่สิ่งที่เรียกว่า resume และ cv (Curriculum Vitae) ซึ่งก็คือประวัติส่วนตัวโดยสังเขป แต่ทว่า 2 อย่างนี้ก็มีความแตกต่างกันอยู่

“cv หรือ curriculum vitae” เป็นประวัติส่วนตัวโดยสังเขปที่เราจะใส่พวก ข้อมูลเชิงลึกในการศึกษารวมไปถึงข้อมูลงานด้านจิตอาสา งานรางวัล เกียรติคุณต่างๆ ที่เคยได้รับ มีความยาวสองหน้าขึ้นไป ส่วนมากจะเป็นเอกสารที่ใช้ในการขอทุน สมัครงานในเชิงวิชาการ หรือในหลายบริษัทก็เลือกให้ส่ง cv ไปแทน ส่วน resume จะมีความสั้นกว่า เราจะไม่ใส่ข้อมูลที่ลึกมาก ไม่ใส่สิ่งที่ถือว่าไม่จำเป็นลงไป จึงไม่ควรมีความยาวมากนัก พูดง่ายๆ ก็คือเป็นแบบยาวและแบบสั้นนั่นเองค่ะ

แต่วันนี้เราจะขอพูดถึง resume ที่มีความกระชับ ไม่ต้องร่ายอะไรยืดยาว เห็นปุ๊ป อ่านปั๊ป HR ตัดสินใจได้ไม่ยากว่าจะเรียกคนๆ นี้มาสัมภาษณ์งานดีมั้ย วันนี้ UNLOCKMEN เลยขอหยิบเรื่องที่ไม่ควรใส่ไว้ใน resume มาฝาก จะได้กลับไปปรับเปลี่ยน resume ของคุณให้ดูเป็นมืออาชีพขึ้น และแยกแยะได้ว่าอะไรคือ cv และอะไร คือ resume

work

1. ไม่จำเป็นต้องใส่ข้อมูลว่าคุณจบมัธยมมาจากโรงเรียนอะไร

ในหลายบทความที่เราได้อ่านมา ต่างเห็นพ้องต้องกันว่า ถ้าคุณเรียนจบมหาวิทยาลัยมาแล้ว ในสาขาอาชีพที่ตรงกับที่ Job Description ได้ระบุเอาไว้ ก็ไม่มีความจำเป็นเลยที่ต้องใส่ว่ามัธยมต้น-มัธยมปลาย เรียนจบมาจากโรงเรียนอะไร เพราะเขาจะสนใจแค่คณะวิชาและสาขาที่คุณร่ำเรียนมาค่ะ สำคัญคือมันจะทำให้ resume มีเนื้อหาที่เยอะโดยไม่จำเป็น เก็บพื้นที่ไว้ใส่ประสบการณ์ทำงานดีกว่า

2. เกรดเฉลี่ย ยิ่งถ้าเกรดน้อยๆ ไม่ต้องโชว์เลย

หลายบริษัทจะระบุไว้เลยว่าต้องการ Transcripts มั้ย ต้องการทราบเกรดเฉลี่ยหรือเปล่า ซึ่งมันเป็นเอกสารแยกกันอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเอาเกรดเฉลี่ยที่จบมาไประบุใน resume ไม่ว่าจะจบเกียรตินิยม หรือเกือบจะสอบไม่ผ่านก็ไม่จำเป็นต้องใส่ไว้นะ

11

3. อย่าใส่แต่ทักษะพื้นๆ อย่าง Microsoft Word

มีผู้เชี่ยวชาญได้แนะนำไว้ว่า การจะเขียน resume ให้สะดุดตาคนอ่าน หรือช่วยโน้มน้าวให้ HR สนใจ resume ของเราเลยก็คือ ทักษะที่คุณมีมากกว่าคนอื่น ยกตัวอย่างเช่น คุณสามารถใช้โปรแกรมตัดต่ออย่าง Adobe premier pro, final cut pro ได้เป็นอย่างดี หรือพวกโปรแกรมอย่าง Adobe Illustrator เป็นต้นค่ะ ง่ายๆ คือควรทำให้ทักษะการใช้โปรแกรมของเราดูเหนือกว่าคนอื่นสักหน่อย มี word ได้ แต่อย่ามีแค่ word ก็พอ

4. ไม่ควรมีมากกว่า 1 หน้ากระดาษ

ไม่มีใครอยากดู resume ที่เยิ่นเย้อหรอกนะคะ บางคนก็ชอบที่จะใส่ความสามารถอย่าง ร้อง เล่น เต้นรำไว้หมดเลย บางคนก็ถึงขั้นใส่รางวัลชนะเลิศวิ่งเปรี้ยว วิ่งผลัด แบบนั้นไม่จำเป็นต้องใส่เลยค่ะ ต้องเตือนตัวเองว่าคุณกำลังสมัครงานตำแหน่งอะไร ถ้าสมัครเป็นนักเขียน ใส่ผลงานการชนะเลิศแข่งขันวิ่งผลัด แบบนี้ก็ไม่น่าจะเวิคเท่าไหร่นะ

5. ไม่ควรใช้รูปถ่ายประเภท ถ่ายบนโซฟาที่บ้าน หรือรูปเซลฟี่ชูสองนิ้ว

ควรแสดงความเป็นมืออาชีพลงใน resume ซะหน่อย ใช้รูปที่เป็นทางการ หรือรูปใส่ชุดครุยก็ได้ค่ะ แต่อย่าใช้รูปประเภทถ่ายเล่น หรือถ่ายอัพลงเฟสบุ๊คสนุกสนาน บริษัทใหญ่ๆ เขาอาจจะตัด resume คุณทิ้งเลย เรียกว่าเห็นรูปแล้วไม่อยากหยิบมาดูด้วยซ้ำ แบบนี้อาจทำให้เราพลาดงานดีๆ ไปโดยที่เขายังไม่เห็นประสบการณ์หรือทักษะที่เก่งกาจของเราเลย เรื่องนี้ต้องระวัง

photo

6. ไม่จำเป็นที่จะต้องใส่เรื่องส่วนตั้ว ส่วนตัว

อย่างเช่น น้ำหนัก ส่วนสูง ชอบกินอะไร ชอบออกกำลังกายประเภทไหน อันนี้ไม่ควรมีใน resume จริงๆ ค่ะ ประวัติโดยสังเขป ควรมีเรื่องการศึกษา ประสบการณ์ในการทำงาน อะไรแบบนี้มากกว่า อย่าลืมว่ามันไม่ใช่เรียงความเรื่องประวัติชีวิตของคุณนะคะ

ทั้งนี้ทั้งนั้นอยู่ที่บริษัทที่คุณเข้าไปสมัครด้วยนะคะ ว่าเขาให้ส่ง resume หรือ cv ไป เพราะถ้าส่ง resume ไปในบริษัทที่เขาต้องการ cv มันก็แสดงความไม่โปรได้เหมือนกัน หรือถ้าทางบริษัทต้องการความครีเอทีฟหน่อย รูปแบบ resume ของคุณก็ต้องมีความสร้างสรรค์เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามต้องอ่านรายละเอียดการสมัครให้ดีค่ะ ขอเอาใจช่วยทุกคนที่กำลังหางานอยู่นะ

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line