Business

สรุปการเชือด HUAWEI ผลกระทบของ TRADE WAR ที่กำลังกลายเป็นข่าวดังทั่วโลก

By: anonymK May 21, 2019

ตอนนี้เชื่อว่าหลายคนคงกำลังรอการอัปเดตข่าวระดับนาทีต่อนาที หลังจากมีประกาศตัดสัมพันธ์ระหว่าง Google กับ Huawei ออกมาเมื่อวานนี้ เพราะเพิ่งจะไปถอยมือถือ Huawei P30 ตัวใหม่มา ผ่อนก็ยังไม่หมด หรือต่อให้เป็นรุ่นอื่นที่เคยออกมาก่อนก็เริ่มกังวลเหมือนกันว่าการคว่ำบาตรครั้งนี้จะทำให้เราต้องไปซื้อมือถือเครื่องใหม่จากค่ายอื่นมาใช้งานแทนไหม

เราเองก็ใช้ Huawei และติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด แต่เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมามีข่าวว่ากระทรวงพาณิชย์แห่งสหรัฐอเมริกา (US Commerce Department) ได้ประกาศยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทางการค้ากับ Huawei ชั่วคราวเป็นเวลา 90 วัน แปลว่าจากนี้จนถึงเดือนสิงหาทุกอย่างจะยังอยู่ในความสงบ

ข่าวนี้ทำให้เห็นว่าการจับ Huawei เข้ามาเป็นแพะในเกมดูจะไม่หมูอย่างที่คิด ก่อนจะไปลุ้นว่าสุดท้ายงานนี้จะหมู่หรือจ่า UNLOCKMEN ได้นำเรื่องนี้มาสรุปให้เข้าใจง่าย ๆ ด้านล่างแล้ว

FROM TRADE WAR TO ABANDON HUAWEI

สำหรับคนที่ยังไม่เคลียร์ว่าทำไมจีนกับสหรัฐฯ ทะเลาะกัน แต่ Google ดันออกตัวแรงมาประกาศแยกทางก่อนใครเพื่อนนั้น ความจริงแล้ว Google เขาก็ไม่ได้มีประเด็นอะไรกับ Huawei เป็นการส่วนตัว แต่เพราะพ่อเจ้าประคุณประธานาธิบดีอย่าง โดนัลด์ ทรัมป์ ดันออกคำสั่งเรื่องห้ามใช้อุปกรณ์โทรคมนาคมที่เป็นภัยคุกคามจึงทำให้กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ใส่ชื่อของ Huawei และบริษัทที่เกี่ยวเนื่องกับ Huawei กว่า 70 บริษัท ลงในบัญชีดำ Entity List (ทำเนียบรายชื่อบริษัทที่บริษัทอเมริกันไม่สามารถทำการค้าขายได้หากไม่มีใบอนุญาต) ดังนั้น พอรูปการณ์ออกมาเป็นแบบนี้ บริษัทต่าง ๆ ในสหรัฐฯ ก็กลัวผลกระทบที่จะมาถึงตัวเอง จึงต้องเตรียมเลือกข้าง ประกาศตัว “ไม่เอาด้วย” เป็นการใหญ่

ROUND 1 : Huawei คือภัยคุกคาม

กลิ่นที่บอกว่า Huawei จะโดนเล็งจากสหรัฐฯ อย่างแน่นอนออกมาก่อนหน้านี้นานแล้ว ทั้งเรื่องการจับผู้บริหารที่แคนาดา หรือการออกกฎหมายเป็นคำสั่งพิเศษเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา ห้ามบริษัทต่าง ๆ ในอเมริกาใช้อุปกรณ์โทรคมนาคมที่เป็นภัยต่อความมั่นคง ซึ่งแน่นอนว่าต่อให้ไม่ระบุชื่อ เขาก็รู้กันดีว่า Huawei จะต้องติดลิสต์นั้น

คนที่อยู่นอกเกมและติดตามข่าวสารเรื่อง Trade War เป็นระยะ จะเริ่มรู้ว่าความยืดเยื้อของการเจรจาครั้งนี้ Huawei จะเป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญของแดนมังกรที่ต้องได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน เพราะเป็นบริษัทที่เติบโตเร็วและเกี่ยวพันกับเทคโนโลยีซึ่งเป็นหนึ่งในแผน Made in China 2025 ของจีน สหรัฐฯ ที่เป็นพี่ใหญ่ด้านไอทีเลยรีบตัดอู่ข้าวอู่น้ำด้านอะไหล่ ทรัพย์สินทางปัญญา และเทคโนโลยีก่อนเสียเลย ส่วนทาง Huawei เองพอเจอเล็งหลายครั้งเข้าเขาก็พอมองออกและหาทางแก้สถานการณ์นี้ไว้แล้ว พญาอินทรีก็เลยไม่ได้แอ้มพญามังกรง่าย ๆ

ROUND 2 : GOOGLE EFFECT

กลับมาที่การตัดสัมพันธ์จากฟาก Google กันบ้าง หลายคนอยากรู้ว่า Google จะทำอะไรกับ Huawei ได้บ้างจากเหตุการณ์นี้

1. Huawei ไม่สามารถเข้าถึงบริการแอปพลิเคชันจาก Google ได้ เช่น Youtube, Gmail, Google Maps
2. Google ระงับ Android License จาก Huawei ทำให้ไม่สามารถอัปเดตเฟิร์มแวร์ใหม่ของ Android ได้

สำหรับข้อแรกแทบไม่ส่งผลกระทบกันคนในแดนมังกรเลย เพราะเขาก็ไม่ได้ใช้ Search Engine จาก Google อยู่แล้ว หรือแอปฯ ทั้งหมดด้านบนก็ไม่ได้ใช้เช่นกัน แต่จะส่งผลกระทบกับพวกเราชาวไทยหรือชาติอื่น ๆ ที่ใช้โปรดักส์ Huawei นอกจีนเสียมากกว่า ส่วนข้อที่ 2 นับว่ามีผลกระทบค่อนข้างสูงจากมุมมองผู้บริโภค เพราะถ้า Huawei ไม่สามารถเข้าถึง Core ของ Android ได้ เข้าได้เฉพาะ Android Open Source Project (AOSP) ที่ Google เปิดสาธารณะให้ทุกคนสามารถเข้าไปใช้โค้ดได้เพียงอย่างเดียว จะทำให้ Huawei ขาดพวกแพทช์อัปเดตความปลอดภัยที่ตามปกติ Google จะจัดทำและคุยกับแต่ละแบรนด์ รวมทั้งการเข้าถึง Play Store เพื่อโหลดแอปฯ ที่วันนี้ถือเป็นหัวใจหลักของ Android ด้วย

นี่แค่เฉพาะกับฟากของ Google เท่านั้น บริษัทอื่นที่เป็นคู่ค้าประจำกับ Huawei หลายรายทั้ง Qualcomm, TSMC, Intel และ Broadcom เองก็ต้องตัดสินใจห่างกันสักพักแบบไร้กำหนดกับ Huawei เช่นเดียวกัน เพราะบริษัทเหล่านี้เป็นบริษัทผู้ผลิตชิปที่ Huawei ใช้อยู่ในโปรดักส์ต่าง ๆ ของตัวเอง (Huawei ไม่ได้มีแค่สมาร์ตโฟนแต่ยังมี Laptop ฯลฯ)

HUAWEI ในมือยังใช้ได้ ไม่ต้องกลัว

ส่วนสิ่งที่หลายคนอยากรู้คือเรื่องผลกระทบของคนที่ยังใช้โปรดักส์ต่าง ๆ ของ Huawei ในมือวันนี้ ว่าควรจะเอายังไงต่อดี ข่าวหลักออกมาแจ้งแล้วว่ายังไม่ต้องโยนทิ้งไปซื้อใหม่ เพราะแอปฯ และระบบต่าง ๆ ของ Google ยังคงใช้งานได้เนื่องจากสมาร์ตโฟนรุ่นก่อนหน้าที่ออกมาแล้วจนถึงรุ่นปัจจุบันที่อยู่ในมือและในช้อปต่าง ๆ ได้เซ็นสัญญาร่วมกับ Google ไว้ก่อนแล้ว (ไม่มีการฉีกสัญญา) ดังนั้น กรณีการแบนนี้จะมีผลก็ต่อเมื่อ Huawei ออกโปรดักส์ใหม่เท่านั้น

การตอกกลับของ Huawei

แม้สถานการณ์นี้ค่อนข้างจะสาหัสเมื่อมองจากภายนอก แต่ Huawei ออกมายืนยันว่า “ไม่เป็นไร แบนได้แบนไป ไม่มี OS ให้ใช้ เราก็สร้างเองได้” โดยประกาศผ่านเว็บฯ Huawei Central ว่าเราเตรียมระบบปฏิบัติการไว้รองรับสถานการณ์แบบนี้แล้ว พัฒนามาตั้งแต่ปี 2012 และตั้งชื่อเท่ ๆ ของระบบปฏิบัติการนี้ว่า “Hongmeng” เพราะฉะนั้น ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ ต่อให้ไม่มี Android มันก็หยุดสายพานการผลิตเราไม่ได้อยู่ดี

ส่วนเรื่องชิปเซ็ต ฝั่งจีนเขาก็เริ่มออกมาเคลื่อนไหว เห็นได้จากการที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เดินทางไปเยี่ยมโรงงานผลิต แร่แรร์เอิร์ธ (Rare Earth) ที่มณฑลเจียงซี หลายฝ่ายมองว่าสิ่งนี้น่าจะเป็นข้อต่อรองใหญ่ระหว่างสหรัฐฯ กับจีน เพราะแร่นี้เป็นแร่สำคัญที่ใช้ผลิตสินค้าเทคโนโลยีขั้นสูง ถ้าจีนไม่ขาย สหรัฐฯ เองคงต้องลำบาก หรือถ้าจีนพัฒนาวิทยาการการประดิษฐ์เทคโนโลยีขึ้นมาได้เอง จีนก็มีแหล่งที่วัตถุดิบที่ไม่ต้องง้อใครด้วยเช่นกัน

เกมนี้มีคนเจ็บหลายคน ไม่ใช่แค่ฟากจีนเท่านั้น เพราะหลายบริษัทของสหรัฐฯ ที่ทำงานร่วมกับ Huawei ก็ต้องขาดรายได้ไปเช่นกัน ผู้บริโภคทั่วโลกเองก็ได้รับผลกระทบ

เราคงหลีกเลี่ยงการเป็นหมากตัวหนึ่งของสงครามเย็นครั้งนี้ไม่ได้ แต่แนะนำว่าอย่าเพิ่งตื่นตระหนกหรือคล้อยตามข่าวไป รอความชัวร์กว่านี้ออกมาก่อนจะดีที่สุด ไม่แน่มันอาจจะมีทางออกที่ดีกว่าในอนาคตรออยู่ก็ได้ เพราะเกมการค้ามักไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวรให้เห็น ขอแค่ได้ผลประโยชน์ที่พอใจก็พร้อมจะกลับลำได้ทันที

 

SOURCE: 1 / 2 / 3 / 4 / 5

anonymK
WRITER: anonymK
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line