FASHION
เจาะลึกสัญญาประวัติศาสตร์ที่พลิกวงการรองเท้าโลก Air Jordan
By: Thada February 23, 2016 26414
กระแส Sneaker ในบ้านเราที่หลายคนอาจจะเพิ่งมาเห็นบูมเป็นพลุแตกตั้งแต่ปีก่อน จนมีเหตุการณ์ซอมบี้ต่างๆ ในบ้านเรา ที่ไม่ว่ามองไปทั้งไหนก็ล้วนเห็นแต่คนหันมาเล่น Sneaker กันมากขึ้นอย่างผิดหูผิดตา และหลายคนก็คงจะโฟกัสไปที่ Adidas กันหมดในช่วงนี้ แต่จริงๆ แล้ววัฒนธรรมนี้มันก่อร่างสร้างตัวเป็นเวลานมนานแล้ว เพียงแต่พ่อค้าแม่ค้าเพิ่งจะมารู้ว่าราคารองเท้า Limited มันสามารถปั่นราคาได้ เลยสร้างกระแสกันขึ้นหมด จนตอนนี้แทบจะพังกันหมดแล้ว
แต่จริงๆ จุดเริ่มต้นของธุรกิจความยิ่งใหญ่ของตลาด Sneaker ที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ คือเราต้องย้อนกลับไปถึงปี 1984 ที่มีนักกีฬาบาสเก็ตบอลรุกกี้คนหนึ่งตัดสินใจเซ็นสัญญาครั้งประวัติศาสตร์ที่ผลิกโฉมวงการรองเท้าโลกไปตลอดกาล และวันนี้ UNLOCKMEN จะขอมาเล่าเรื่องนี้ให้ฟังกัน
จุดเริ่มต้นของกระแส MJ Fever เริ่มต้นตอนที่เขาเป็นนักกีฬารุกกี้ดาวรุ่งที่ได้รับการจับตามองในเวลานั้น แต่ในสมัยที่เขาเรียนที่ North Carolina โค้ชสั่งให้เขาใส่แต่ Converse เพราะในเวลานั้น Converse เป็นที่นิยมมากนักบาสซุปเปอร์สตาร์หลายคนไม่ว่าจะเป็น Magic Johnson , Dr J ก็ล้วนแต่ใส่ Converse ลงสนาม
เมื่อ Jordan ก้าวเท้าเข้าสู่ NBA ก็เกิดศึกแย่งตัวดาวรุ่งคนนี้เกิดขึ้นระหว่างสามค่ายยักษ์อย่าง Adidas , Converse และ Nike โดยทีแรก MJ ตั้งใจว่าจะเซ็นสัญญากับ Adidas เพราะเขาเป็นแฟนตัวยงของ Adidas แต่ Adidas ปัดที่จะยื่นสัญญาก้อนโตในระดับเดียวกับ Nike ด้วยเหตุผลว่าเขามองว่า Jordan ตัวเล็กเกินไป และอาจจะเสี่ยงที่จะไม่ประสบความสำเร็จในระดับ NBA ทำให้ Jordan หันไปซบอกของ Nike และสร้างไลน์ Air Jordan ของตัวเอง
และตำนานก็เริ่มต้นขึ้นเมื่อ Nike ออกแบบรองเท้าพิเศษให้ Jordan เป็นสีดำแดง ซึ่งเป็นโทนที่เข้ากับยูนิฟอร์มของ Chicago Bulls แม้ว่า Jordan จะไม่ค่อยชอบนักเพราะมันดูเหมือนรองเท้าปีศาจ มิหน้ำซ้ำรองเท้าตัวนี้ยังโดน NBA สั่งแบนอีกด้วยเพราะในเวลานั้นนักบาสส่วนใหญ่มักใส่แต่สีขาวลงสนาม และมันดูไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย MJ ก็เลยโดนปรับเงิน 5,000 USD ทุกครั้งที่สวมมันลงสนาม ซึ่ง Nike ก็ไม่แคร์คิดว่ามันเป็นโอกาสดีที่จะได้โปรโมทรองเท้าไปในตัว
แล้วด้วยผลงานระดับ Masterpieces ของ Jordan ในปีนั้นทำให้เขาคว้า Rookie of the Years และลงแข่ง Slam Dunk Contest ด้วยลีลาอันเร้าใจ แม้ว่าเขาจะไม่ได้แชมป์ มันก็ยิ่งทำให้รองเท้ารุ่น Banned นี้น่าสนใจจนคนสร้าง Story มากมายว่า ที่รองเท้าคู่นี้ถูกแบนเพราะมันทำให้ Jordan สามารถสร้างผลงานได้ราวกับพระเจ้าสวมใส่รองเท้าบาสลงสนาม
ทุกอย่างเหมือนจะเป็นไปด้วยดี แต่หลังจากนั้น Jordan ก็เกือบจะสละสัญญาที่มีไว้กับ Nike เพราะ Peter Moore และ Rob Strausse ผู้นำเขาเข้ามาสู่แบรนด์ Nike ลาออกไป แต่ Nike ก็ได้ Tinker Hatfield ขี่ม้าขาวมาช่วยเปลี่ยนใจ Jordan ให้อยู่ต่อเพราะว่าเขาเอาตรา Swoosh ที่เป็นสัญลักษณ์ของ Nike ออกจากรองเท้าต้นแบบของ Air Jordan ซึ่งเป็นเรื่องที่เสี่ยงมาก และแทนที่ด้วยตรา Jumpman ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ประจำตัวของ Jordan ซึ่งถูกใจ Jordan อย่างมากจึงทำให้ Jordan ยังคงอยู่กับ Nike จวบจนจบอาชีพการเล่นของเขา
จนถึงปัจจุบันแม้ว่า Air Jordan จะแยกไลน์ออกมาเป็นแบรนด์ซับของ Nike แต่มูลค่าเครื่องกีฬาภายใต้โลโก้ Jordan ก็มีมูลค่าเกินกว่า 100 ล้าน USD จากเรื่องนี้ก็เป็นอุทาหรณ์สอนให้กับ Adidas ในเรื่องการเซ็นสัญญาคว้าซุปเปอร์สตาร์มาร่วมแบรนด์ที่ว่าอย่าขี้เหนียวและตืดจนพลาดไป และนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นของความคลั่งไคล้ของ Sneakerhead ที่ดำเนินต่อมาอีกมากกว่า 20 ปี จนถึงปัจจุบัน