Nicolas Cage ชีวิตที่ต้องพิสูจน์ตัวเองมากกว่าคนอื่นเป็นสองเท่า

เชื่อว่าคนที่เป็นแฟนภาพยนตร์ล่าขุมทรัพย์ คงต้องรู้จักชายคนนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เขาเป็นนักแสดงเจ้าบทบาทที่มักปรากฏตัวอยู่ในภาพยนตร์ดราม่าขึ้นหิ้งหลายเรื่อง ด้วยเทคนิคการแสดงที่เหลือล้ำ ไม่แปลกที่เมื่อไหร่ที่ได้ดูหนังที่เขาแสดง เรามักจะเชื่อไปทุกทีว่าเขาคือตัวละครตัวนั้นจริงๆ แต่ใครจะรู้ว่าทักษะต่างๆ ที่เขาได้มา ถูกฝังอยู่ในสายเลือดตั้งแต่เขาเกิดมาแล้ว ภายใต้ครอบครัวที่มีเหล่าศิลปินผู้โลดแล่นอยู่ในวงการมากมาย คนที่เรากำลังพูดถึงคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเขาคนนี้ ชายผู้เติบโตภายใต้ครอบครัวนักภาพยนตร์ Nicolas Cage

Nicolas Kim Coppola หรือชื่อที่เรารู้จักกัน Nicolas Cage เขาเติบโตภายใต้ครอบครัวที่เป็นนักภาพยนตร์อย่างแท้จริง เขาเป็นหลานชายของเจ้าพ่อนักประพันธ์เพลงภาพยนตร์แห่งฮอลลีวู้ดชื่อดัง Carmine Coppola ซึ่งผลงานเด่นๆ ก็คือการประพันธ์เพลงประกอบให้กับภาพยนตร์เรื่อง The God Father ซึ่งผู้กำกับเรื่องนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ซึ่งก็คือ Francis Ford Coppola น้องชายของเขา อีกทั้งพ่อของเคจ August Floyd Coppola ก็ยังเป็นฝ่ายอาร์ทให้กับภาพยนตร์ชื่อดังหลายต่อหลายเรื่อง ไม่เพียงเท่านั้น ญาติคนอื่นๆ ของเคจก็ยังมีความเกี่ยวข้องกับวงการภาพยนตร์ ไม่ว่าจะเป็นนักแสดงอย่าง Talia Shire นักแสดงสาวผู้โลดแล่นอยู่ในวงการฮอลลีวู้ดยุค 70s หรือ Sofia Carmina Coppola ผู้มีผลงานดังๆ อย่าง Lost in Translation หรือ Roman Ford Coppola ผู้กำกับชื่อดัง หรือจะเป็น  Jason Francesco Schwartzman นักแสดงเจ้าบทบาท แห่งช่อง HBO และสุดท้าย  Robert Coppola Schwartzman นักแสดง และนักดนตรีชื่อดัง ยังไม่นับพี่น้องแท้ๆ ของเขา Christopher Coppola นักกำกับภาพยนตร์ และ Marc Coppola นักแสดง และดีเจชื่อดัง แห่งคลื่น KGB-FM ทีนี้เชื่อผมรึยัง ว่ามันอยู่ในสายเลือดอย่างที่ผมบอก

Nicolas Cage เติบโตที่เมือง Long beach มลรัฐ California หนึ่งในเมืองชายหาดที่มีที่ดินแพงที่สุดในโลก โดยที่เขาเติบโตภายใต้ครอบครัวคาโธลิก ผู้เคร่งในศาสนาอย่างมาก โดยเขาเติบโตพร้อมกับน้องชายของคุณตาของเขา ผู้เป็นผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง The godfather และ คุณยายของเขา นักแสดงสาวผู้มีชีวิตโลดแล่นอยู่บนแผ่นฟิล์มยุค 70s อย่างที่บอกไปตอนต้น อาจเป็นเพราะเหตุนี้ ทำให้เคจเป็นคนที่เคร่งครัดในกฏระเบียบ อยู่กับร่องกับรอย และเป็นนักแสดงฮอลลีวู้ดคนหนึ่งที่ในช่วงชีวิตวัยรุ่น ชีวิตไม่ต้องพังไปกับสิ่งเสพติด และสิ่งยั่วยุต่างๆ ดั่งที่นักแสดงคนอื่นมักจะเป็นกัน

เคจเริ่มมีบทบาทในภาพยนตร์ครั้งแรกเมื่อช่วงต้นของยุค 80s คนในยุคนี้อาจจะไม่รู้กันว่า แท้จริงแล้วบทที่คนดูมักคุ้นเคยในช่วงชีวิตที่เริ่มต้นอาชีพนักแสดงของเขา ก็คือบทภาพยนตร์แนวโรแมนติก คอมมาดี้ โดยเขามีผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกจากเรื่อง  Fast Times at Ridgemont High ในปี 1982 หลังจากนั้นเขาก็ได้ไปออดิชั่นเพื่อคัดตัวในภาพยนตร์ของลุงของเขา ในเรื่อง The outsiders แต่บทนั้นก็ตกไปเป็นของ Mat Dillion ในที่สุด ทำให้เแฟนๆ มาเห็นเขาปรากฏตัวในภาพยนตร์อีกครั้งในเรื่อง Moonstuck ในปี 1987 หลังจากนั้นเขาก็มีผลงานภาพยนตร์อีกหลายต่อหลายเรื่อง แต่เรื่องที่มาเป็นจุดพลิกชีวิตของเขาก็เกิดขึ้นในปี 1995 โดยเขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมจากเรื่อง Leaving Las vegas และ Adaptation ซึ่งในที่สุด เขาก็คว้ารางวัลจากภาพยนตร์เรื่องแรกมาครองจนได้ จากการได้รับรางวัลนี้ ทำให้ชีวิตในวงการของเขาเป็นที่ยอมรับได้ในที่สุด ปราศจากข้อกังขาว่าแท้จริงแล้วที่เขาได้มาปรากฏตัวอยู่ในวงการก็เพราะครอบครัวของเขา

ทางด้านชีวิตส่วนตัว ในปี 1988 เคจได้แต่งงานกับ  Christina Fulton นักร้องนำสาวแห่งวงแบล้คเมทัลชื่อดัง Eyes of Noctum โดย ในปี 1990 ทั้งคู่ได้ให้กำเนิดลูกชายเป็นทายาทออกมาหนึ่งคนจนกระทั่งเกิดปัญหาทางด้านชีวิตรักส่วนตัวที่พวกเขาไม่ขอเปิดเผย เป็นเหตุให้ชีวิตรักต้องจบลงในปี 2012 ที่ผ่านมานี้เอง โดยเขาได้แต่งงานใหม่อีกครั้งกับ Lisa Marie Presley ผู้เป็นลูกสาวของราชาเพลงร็อคชื่อดัง Elvis Presley อีกทั้งเธอเคยเป็นอดีตภรรยาของ Michael Jackson ราชาเพลงป๊อป อีกด้วย เรียกได้ว่า เห็นทีชีวิตรักของเขาคนนี้ก็ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ

BIRDY, Nicolas Cage, 1984

ตอนนี้เคจผันตัวเองจากการเป็นนักแสดงมากบทบาท ที่มีภาพยนตร์แสดงนับไม่ถ้วน กลายมาเป็น Producer ภาพยนตร์ชื่อดัง ตามสเต็ปของนักแสดงฮอลลีวู้ดยุคนี้ เรียกได้ว่า ถ้าใครเป็นแฟนเขา อยากจะสนับสนุน ไม่เห็นเขาในฐานะนักแสดง ก็สนับสนุนเขาได้จากเสพภาพยนตร์ที่เขาเป็น Producer แทนก็ไม่เสียหลายครับผม

ในปี 2009 เคจถูกนิตยสาร Forbes จัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 นักแสดงที่มีรายได้มากที่สุดในฮอลลีวู้ด โดยในปี 2009 นั้น เคจได้รับเงินจากการแสดงภาพยนตร์สูงถึง 40 ล้านดอลลาห์สหรัฐ หรือราวๆ 1,400 ล้านบาท นอกจากนี้เขายังมีคฤหาสน์ส่วนตัวที่หาดมาลิบู ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่มีราคาสูงถึง 320 ล้านบาทเลยทีเดียว

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับชีวิตของเขาผู้นี้ ชีวิตที่ต้องพิสูจน์ตัวเองมากกว่าคนอื่นเป็นสองเท่า เรื่องของเขาคงย้อนให้ชีวิตของใครบางคนที่กำลังท้อแท้กับการพิสูจน์ตัวเองให้ฮึดสู้อีกครั้งได้บ้างนะครับ เพราะว่าสุดท้ายแล้ว ความสำเร็จที่ได้จากการพิสูจน์ตัวเองก็ไม่ได้ตกที่ใคร นอกจากคุณคนเดียวครับผม