Entertainment

ชีวิตหลายบทบาทของหนุ่มฮอต “มอร์ Ten To Twelve”

By: unlockmen April 8, 2015

คุณคิดว่าชีวิตคนหนึ่งคนสามารถทำอะไรได้บ้าง มีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหนที่ต้องทำเพียงสิ่งเดียว หรือเป็นอะไรแค่อย่างเดียว ถ้าคุณคิดว่าการทำหลายสิ่งทำให้ผลลัพธ์ออกมาไม่ดี บางทีบทสัมภาษณ์นี้อาจทำให้ความคิดทีมีอยู่เปลี่ยนไป

mor1

เรามีโอกาสได้พูดคุยกับหนุ่มฮอตมากความสามารถคนหนึ่งนามว่า “มอร์ วสุพล เกรียงประภากิจ” ที่หลายคนต่างคุ้นหน้าคุ้นตาในบทบาทนักร้องนำวง Ten To Twelve ที่มีผลงานดังๆ อย่างเพลงภาวนา , ชิด , ปฏิญาณ และล่าสุดเพลงจะเป็นจะตาย เขาเป็นหนุ่มเซอร์มีหนวดพิมพ์นิยมที่สาวสมัยนี้ชอบนักชอบหนา แต่ทว่าเขาไม่ได้สวมบทบาทแค่การเป็นนักร้องเท่านั้น เขายังควบตำแหน่งผู้กำกับโฆษณา และกำกับมิวสิควิดีโอดังๆ หลายตัว เช่น ลมเปลี่ยนทิศ – Bigass, Dancing – Musketeers, เท่าที่มี – ฺBigass และภาพยนตร์เรื่อง Coffee please แก้วนี้หัวใจสั่น ที่เขาร่วมแสดง รวมไปถึงการเล่นโฆษณาที่น่าจะผ่านหูผ่านตาคุณมาบ้าง

ซึ่งหัวข้อที่เราหยิบยกมาพูดคุยกันว่าด้วยเรื่องของบทบาทที่หลากหลายในชีวิตที่มอร์ทำอยู่ ประเด็นฟังดูเหมือนจะเครียด แต่ทุกการสนทนาเต็มไปด้วยอารมณ์ขันเล็กๆ บวกความสดใสเฟรนด์ลี่ที่ผู้ชายคนนี้มี ตอบทุกข้อสงสัยที่ว่าทำไมเขาถึงได้ไปนั่งในใจสาวหลายต่อหลายคน

mor2

เพิ่งเห็น MV ตัวล่าสุดจาก Ten To Twelve ได้ข่าวว่าคุณกำกับเองด้วย ช่วยเล่าให้เราฟังหน่อยว่าเป็นอย่างไรบ้าง

จริงๆ มันเริ่มจากตัวเพลงก่อนครับ เพลงมันชื่อเพลงจะเป็นจะตายซึ่งพูดถึงเราถึงเพื่อนในวงเรา มันพูดถึงวัยเราที่เรียกว่าวัยรุ่นตอนปลาย (หัวเราะ) ยังถือว่าตัวเองเป็นวัยรุ่นนะ คือวัยรุ่นตอนปลายปัจจัยมันมีมากกว่าตอนเรียนแล้วนะ อย่างตอนเรียนทำอะไรก็ได้มันไม่ต้องแลก พอเข้าสู่วัยทำงานทำอะไรมันก็ต้องแลกไปหมด แบบสิ่งที่ใจมันเรียกร้อง สัญชาติญาณมันบอกกับความจริงมันคอนทราสต์กัน เพลงนี้มันเลยจะพูดถึงความรู้สึกอะไรก็ตามที่สัญชาติญาณมันบอก ยิ่งพอมันเป็นเรื่องของจะเป็นจะตายก็จะยอมเนี่ย เราเลยรู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมานั่งทำ MV แบบเพลย์เซฟ เราก็เลยอยากทำอะไรที่แบบชีวิตนึงเราทำได้ครั้งเดียวอะ ก็เลยเอาศิลปะ 3 อย่างมารวมกัน มี Ten To Twelve ที่เป็นดนตรี มี eyedropper fill ที่ทำวิชวลคอนเสิร์ต แล้วก็มี Cake Thatcha ที่มาด้านการเต้น ก็เลยกลายเป็นจะเป็นจะตาย fest ครับ สรุปสั้นๆ ก็คือเราอยากทำ MV ที่บ้ากว่าทุกตัวที่เคยทำ ก็นอนไม่ค่อยหลับไปหลายเดือน MV ออกมาจะเป็นยังไง ก็ถือว่าฟินแล้วครับ

mor3

บทบาทไหนเหนื่อยกว่ากันระหว่างการเป็นนักร้องและผู้กำกับ 

มันเหนื่อยคนละแบบครับ เหมือนการเป็นผู้กำกับมันใช้เหตุผลเยอะ แต่ว่านักดนตรีตอนเล่นคือใช้อารมณ์ล้วนๆ เลย เหตุผลไม่ต้อง เอาอารมณ์เข้าว่า มันคนละส่วนกัน ซึ่งเราว่ามันบาลานซ์ชีวิตเราค่อนข้างดี สนุกครับ

ถ้าให้เลือกเพียงบทบาทเดียวคุณคิดว่าจะเลือกได้ไหม แล้วเลือกอะไร

เราเลือกไม่ได้อะ ฟังแล้วดูจับปลาสองมือมากเลยนะ คือเหมือนเราเป็นคนบ้างานมั้ง เหมือนกับว่าเราคิดอะไรไม่รู้ตลอดเวลาเลย อย่างถ้าเราเหนื่อยจากการเป็นผู้กำกับเราก็จะมาคิดเพลง ถ้าคิดเพลงไม่ออกเราก็จะไปทำงานกำกับ มันอยู่กับเราสองด้านตลอด ซึ่งจริงๆ เราว่ามันเป็นเรื่องเดียวกันด้วยซ้ำ อย่างถ้าเรามีเรื่อง input อะไรเข้ามา มันก็เหมือนกับเป็นช่องทางปล่อยของ อย่างการทำโฆษณาหรือทำ MV มันก็เป็นการเล่าเรื่อง การเขียนเพลงการ perform ก็เป็นการเล่าเรื่อง แค่มันคนละช่องทางกัน

mor4

ในฐานะที่คุณอยู่ในหลายบทบาทไม่ว่าจะเป็นผู้กำกับ และนักร้อง คุณไปหาแรงบันดาลใจในการทำงานมาจากไหน เพราะมันต้องมีช่วงเวลาที่ตัน และคิดไม่ออกจริงไหม 

แรงบันดาลใจมาจากสิ่งรอบๆ ตัว (หัวเราะ) ล้อเล่นครับ! คือโชคดีที่เราทำสองอย่าง เราเขียนเพลงไม่ออก เราไปเจอคนไปออกกองไปกำกับโฆษณาไม่ว่าจะเป็นการคุยกับใคร หรืออ่านหนังสือเล่มไหน มันก็จะกลับมาทำให้เราคิดเพลงออก มันเหมือนกับว่าชีวิตเราไม่สามารถทำอย่างเดียวได้ ถ้าทำอย่างเดียวคนก็จะเกลียดเรา เพราะเราทำอะไรเราโคตรตั้งใจ ตั้งใจแล้วโนวลิมิต บ้างานครับก็เลยต้องแบ่งเป็นสองอย่าง ความคุ้มคลั่งของตัวเองจะได้ลดลงบ้าง (หัวเราะ) คิดไรไม่ออกก็ไปทำอย่างอื่น ไม่ก็อ่านหนังสือครับ

เมื่อกี้บอกว่าอ่านหนังสือด้วยเวลาคิดงานไม่ออก ชอบอ่านแนวไหนเป็นพิเศษไหม

อ่านหมดเลยครับ หลังๆ จะชอบอ่านเป็นบทความมากขึ้น อ่านพวกนิยายน้อยลง บทความก็เริ่มฮาร์ดคอร์ขึ้นเรื่อยๆ เนื้อหาเริ่มลึกขึ้น สนุกดีครับ

mor5

ผู้ชายที่เป็นไอดอล เป็นต้นแบบในการใช้ชีวิตของคุณคือใคร

พอเป็นวัยรุ่นตอนปลายแล้วเนี่ย อารมณ์แบบนี่คือไอดอลเรา! มันก็จะลดน้อยลง เริ่มเห็นว่าคนเรามีสองมิติมันก็จะมีด้านดี ด้านเสีย ไอดอลก็จะเป็นด้านๆ มากกว่าครับ อย่างถ้าด้านกำกับโฆษณาและแนวคิดการทำงานก็ยังเป็นเจ้านายเก่าเรา “พี่ต่อ ธนญชัย” เขาก็สอนอะไรเรามาเยอะมาก แต่ถ้าอย่างเรื่องชีวิตเราคิดว่าได้คุณ”มูราคามิ” (Haruki Murakami) หนังสือเกร็ดความคิดบนก้าววิ่งมันเปลี่ยนชีวิตเรามากเลย มันพูดถึงเรื่องการวิ่งมาราธอนและการทำการใหญ่เป็นเรื่องเดียวกัน มันคือการเอาชนะตัวเองไปเรื่อยๆ เราก็รู้สึกว่า เออว่ะ! บางทีชีวิตมันก็ต้องต่อยไม่หยุด เหนื่อยก็พักแล้วกลับมาต่อยใหม่

mor6

คุณเป็นหนุ่มฮอตในสายตาสาวๆ เป็น 50 หนุ่มโสดคลีโอปี 2010 มีเคล็ดลับดูแลตัวเองอย่างไรให้ดูดี 

ไม่เห็นฮอตเลยครับ (หัวเราะ) ผมวิ่งครับ ออกกำลังกาย พอร่างกายดีทุกอย่างจะดี หน้าก็เริ่มเหี่ยวด้วยช่วงนี้ไปถ่ายงานมาเห็นรูปก็เริ่มทาครีมบ้าง ทาก่อนนอนอย่างเดียว ไม่ได้ทาครีมกันแดด ไม่ได้ทำอะไรเลยครับ แล้วก็นอนวันละ 7 ชั่วโมง ตื่นมาก็ทำงานเลย ผมเป็นคนไม่ปาร์ตี้ ทำงานอย่างเดียว นานๆ ทีจะไปบ้าง

แบ่งเวลาในการทำกิจกรรมต่างๆ อย่างไรบ้าง

อย่างก่อนนอนผมเขียน to do list ใส่โพสอิท แปะไว้หน้าโน๊ตบุ๊คว่าพรุ่งนี้ต้องทำอะไรบ้าง to do list 1-7 พอตื่นมาก็ค่อยๆ ไล่ทำทีละอย่าง ทำกิจกรรมเยอะก็เลยรู้สึกว่าตัวเองมีความสามารถในการแบ่งเวลา ไหนจะต้องหาเวลาออกกำลังกายอีก เราวิ่งเพราะมันเร็ว มันวิ่งที่ไหนก็ได้ จะมีสวนสาธารณะแถวนั้น หรือถ้าไม่มีเราก็วิ่งตามถนนนิดนึงเก็บๆ ไป

mor7

คิดว่าตัวเองประสบความสำเร็จแล้วหรือยัง

ยังครับ อีกยาวไกล มันเป็นอารมณ์แบบก็ชอบตอนนี้ ถ้าสมมุติเป็นต้นไม้ เราปลูกทั้งสองต้นมาเป็นเวลาหลายปี รดน้ำใส่ปุ๋ยมันก็เริ่มออกดอก ถ้าพูดแบบน่าหมั่นไส้หน่อยก็คืออยากเก่งมาก (หัวเราะ) ไม่ได้อยากเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ ไม่เคยคิดอย่างนั้น แค่อยากดูว่าถ้าเราพยายามที่สุดแล้วเราจะไปถึงเลเวลไหนได้บ้าง

กำกับ MV มาก็เยอะแล้ว มีวงอะไรที่อยากไปกำกับให้เขาบ้างหรือเปล่า

ถ้าวงไทยก็อยากทำให้ bodyslam แหละครับ เราก็ฟังเพลงเค้าตั้งแต่เด็ก ถ้าวงนอกก็อยากทำให้ Cold Play, Kodaline, Run River North , Jason Mraz , John Mayer ประมาณนี้ครับ Taylor Swift ก็ได้ครับน่ารัก

mor8

สังเกตเห็นว่าเด็กสมัยนี้อยากสร้างความแตกต่างให้ตัวเอง แล้วหลายคนก็มองคุณเป็นไอดอล มีอะไรอยากจะพูดหรือแนะนำพวกเขาไหม

เราเบื่อคำว่าตัวของตัวเองมากเลย เราไม่รู้ว่าทุกวันนี้เราเป็นตัวของตัวเองหรือเปล่า เราแค่รู้สึกว่าอันนี้ชอบมาก อันนี้ไม่ชอบ คือถ้าอยากลองอะไรก็ลองเลยเดี๋ยวก็รู้เอง เราว่าเราไปแนะนำเขาไม่ได้ เขาต้องรู้ด้วยตัวเองว่าเขาชอบอะไร ก็ทำสิ่งที่เรามีความสุขแหละครับ

มีแฟนหรือยัง 

อ่อ มีแล้วครับ (ยิ้ม)

mor9

สถานที่ถ่ายวีดีโอ : Colors CAFE

สถานที่ถ่ายรูป : Levi’s Commuter Event

Photographer : โจนาธาน ร๊อคไดอารี่

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line