APPS

ชื้อไม่ชื้อ? สรุปการเปิดตัว iPhone 8, iPhone 8 Plus , iPhone X แบบอ่านรวดเดียวรู้เรื่อง

By: myfifthday September 13, 2017

เรียบร้อยไปแล้วกับงานเปิดตัวของ iPhone 8, iPhone 8 Plus ที่ดูช่างจะตรงตามข่าวหลุดก่อนหน้านี้ซะเหลือเกิน แต่ถือว่าสิ่งที่เปิดเผยในค่ำคืนที่ผ่านมานั้นมีความน่าสนใจ ไม่น่าเบื่ออย่างที่คิด ซึ่งใครที่เห็นข่าวเยอะแยะมากมายแล้วกำลังสับสนว่า iPhone ตัวใหม่มันมีอะไรใหม่บ้าง UNLOCKMEN ได้สรุปมาให้ไว้ทั้งหมดแล้ว ลองมาดูกัน

ตัวเครื่อง

รูปทรงของ iPhone 8, iPhone 8 Plus ใกล้เคียงกับ iPhone 7, iPhone 7 Plus ตัวเก่าประมาณ 95% กันเลย ส่วนใหญ่เป็นการอัปเกรดไส้ในมากกว่า และเปลี่ยนวัสดุตัวเครื่องโดยรอบเป็นโครงอะลูมิเนียมแข็ง ด้านหลังเป็นกระจกทนทาน ลำโพงดังกว่า iPhone 7 25% ตัวเครื่องด้านหลังเป็นกระจกเพื่อรองรับระบบชาร์จไร้สายผ่านแท่นชาร์จ นอกจากนี้เคลือบสี 7 ชั้น เพื่อป้องกันการเป็นรอยมากกว่าเก่า

CPU A11 BIONIC ใน iPhone 8, iPhone 8 Plus เป็นแบบ 6 Core มีพลัง GPU แสดงภาพและประมวลผลที่ดีกว่าเก่า โดยชิพ A11 BIONIC มีประสิทธิภาพแรงมากกว่า A10 ถึง X 2 เท่า และประหยัดพลังงานกว่า

จอภาพ

จอภาพแบบ Retina HD และเพิ่มเทคโนโลยีที่สามารถปรับสภาพสีและแสงของจอตามสภาพแวดล้อมการใช้งานของผู้ใช้ได้ที่เรียกว่า TrueTone Display เข้ามาให้ไว้ในตัวเครื่องเพื่อประสิทธิภาพการใช้งานอย่างเต็มที่ (แบบ iPad Pro)

กล้องหน้า – หลัง

iPhone 8, iPhone 8 Plus มีความแตกต่างกันนิดหน่อยคือกล้องคู่ที่เป็น Telephoto ของ iPhone 8 Plus กับรุ่นธรรมดา นอกจากนั้นกล้องหลังมีความละเอียด 12MP เท่ากันและมี Filter ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น และเพิ่มระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอลมาให้ พร้อมเปลี่ยนเซ็นเซอร์ใหม่หมดเพื่อเก็บสีสันและมิติภาพได้สวยขึ้น ถ่ายในที่แสงน้อยก็ดีกว่าเก่า

– โหมด Portrait Lightning เป็นโหมดถ่ายภาพที่ดีกว่าเก่าเพราะใช้ AI และ Machine Learning มาช่วยปรับการถ่ายภาพในโหมดนี้ได้ดีและสวยกว่าเดิม

– การถ่ายวิดีโอ ปรับปรุงการถ่ายภาพให้คมชัดมากขึ้น พร้อมเพิ่ม Fps ให้ละเอียดและดีกว่าเดิม คือแบบ 4K ที่ 60fps, ถ่ายวิดีโอ Slo-Mo ความละเอียด FULL HD ที่ 240fps

นอกจากนี้ที่เพิ่มเติมมาอีกแต่ช้ากว่าชาวบ้านไปหน่อยคือ ระบบชาร์จไร้สาย (Wireless Charging) ครั้งแรกใน iPhone ที่เป็นเทคโนโลยีแบบ Qi ใช้การชาร์จผ่านแท่นชาร์จไร้สายเหมือน Apple Watch

 

iPhone X (ไอโฟนเท็น)

นอกจากการเปิดตัวรุ่นปกติแล้ว ยังมีการเปิดตัวรุ่นครบรอบ 10 ปี ตามที่คาดการณ์ไว้อย่าง iPhone X (ไอโฟนเท็น) ซึ่งเราจะพูดถึงแค่ฟังก์ชั่นที่เพิ่มเติมจากด้านบนของ iPhone 8, iPhone 8 Plus เท่านั้น

หน้าจอเจ๋งกว่าทุกตัวที่เคยมี

iPhone X ใช้จอ OLED แบบเดียวกับ Apple Watch ที่จะช่วยให้ประหยัดพลังงานในการแสดงผลมากกว่ารุ่นปกติ มีความกว้างถึง 5.8 นิ้ว ใส่ความละเอียดระดับ Super Retina Display 2436×1125 เข้าไปเพื่อการแสดงผลที่คมชัดกว่าเก่า

– High Dynamic Range (HDR) ซึ่ง iPhone X ใส่จอภาพแบบ HDR ไว้สำหรับการดูภาพยนตร์หรือรายการทีวีในรูปแบบ Dolby Vision ให้ดูเด่นและคมชัดน่าใช้มากขึ้น

– Tap to Wake อีกหนึ่งฟังก์ชั่นหน้าจอที่เพิ่มเข้ามา (ทั้งที่ชาวบ้านเขามีกันนานแล้ว) คือการแตะเพื่อปลุกที่หน้าจอ 2ครั้ง ในขณะที่ทำการล็อคอยู่

กล้องใหม่

จัดกล้องหลัง 2 ตัวแนวตั้ง 12MP f/1.8 และ f/2.4 โดยเลนส์เป็นระบบกล้องคู่ที่มีระบบกันภาพสั่น (OIS) ใช้เซ็นเซอร์ใหม่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีกว่า

ส่วนกล้องหน้าใหม่ TrueDepth เป็นการอัดนวัตกรรมใหม่ที่เกิดขึ้นของ iPhone X ที่ช่วยเรื่องการสแกนใบหน้า Face ID, Portrait Selfie มีความละเอียด 7MP มีคุณสมบัติการวัดระยะวัตถุร่วมกับเซ็นเซอร์ต่างๆ ช่วยให้สามารถถ่ายภาพ Portrait Selfie ได้คมชัด มีมิติกว่าเดิม

สแกนใบหน้า

ทดแทนการสแกนนิ้วเปลี่ยนมาเป็น Face ID อย่างเต็มตัว เพราะว่า iPhone X มีการตัดปุ่ม Home ออกไป ซึ่งFace ID นี้จะใช้กล้องหน้า TrueDepth สามารถสแกนหน้าผู้ใช้งานได้รวดเร็วมาก และมีความแม่นยำ 1 ใน 1,000,000 เร็วกว่า Touch ID ซะอีก

ส่วนการใช้ใบหน้าที่ไม่ใช่คนจริง ตัวระบบก็จะเรียนรู้และจดจำใบหน้าผู้ใช้ แล้วแยกได้ว่าใบหน้าไหนคือใบหน้าจริงได้อย่างดี ไม่ว่าจะรูปถ่ายหรือภาพจากกล้องมือถือก็ตาม นอกจากนี้ในที่มืดจะมีอินฟาเรดของกล้องหน้าช่วยสแกนใบหน้าในการปลดล็อคได้อีกด้วย

ปุ่มหาย การใช้งานใหม่

 

 

อย่างที่เราบอกไปว่า iPhone X ถูกตัดปุ่มออกไปเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งทำให้การทำงานแตกต่างจากรุ่นอื่น ๆ เช่น เรียก Control Center โดยลากจากมุมบนขวา, การเรียก Siri ทำได้โดยกดปุ่ม Power ค้างไว้ ฯลฯ

นอกจากนี้ยังรองรับการทำงานของแอปพลิเคชั่นที่เป็น AR ต่าง ๆ ที่ถูกพัฒนามาจาก ARkit อีกด้วย แน่นอนว่ายิ่งมีอะไรมากขึ้น ความสนุกก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นตาม

ทั้ง iPhone 8, iPhone 8 Plus,จะวางจำหน่ายทั้งหมด 3 สี คือ สีทอง Gold, สีเงิน Silver และสีเทาสเปซเกรย์ Space Gray ส่วน iPhone X มีให้เลือก 2 สี คือ สีเทาสเปซเกรย์ Space Gray และสีเงิน Silver

ราคา iPhone 8 64GB $699 (23,200 บาท) แบบ 256GB $849 (28,000 บาท)

ราคา iPhone 8 Plus 64GB $799 (26,400 บาท) แบบ 256GB $949 (31,400 บาท)

ราคา iPhone 8 X 64GB $999 (33,000 บาท) แบบ 256GB $1149 (38,000 บาท)

เปิดขายวันแรก iPhone 8, iPhone 8 Plus คือ  22 ก.ย. 2017 ส่วน iPhone X คือ 3 พ.ย. 2017 คาดว่านับถอยหลังในบ้านเราอีกประมาณ 3-4 อาทิตย์ ก็น่าจะมีค่ายผู้ให้บริการเตรียมวางขาย + โปร กันแล้วแน่นอน งานนี้บอกได้เลยว่าเตรียมเงินรอนวัตกรรมเครื่องใหม่กันได้เลย !

myfifthday
WRITER: myfifthday
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line