

Life
HERO: JARED LETO การต่อสู้วิ่งตามความฝัน ความสำเร็จจากการทำสิ่งที่เชื่อมั่นอย่างสุดกำลัง
By: unlockmen February 24, 2018 40159
แม้ว่าเสียงวิจารณ์จะไปในทางผิดหวังสำหรับหนังรวมยอดวายร้ายอย่าง Suicide Squad แต่สำหรับทีมผู้สร้างแล้ว รายรับที่หลั่งไหลเข้ามา หลังจากเปิดตัวกวาดรายได้ไปมากกว่า 384 ล้านเหรียญสหรัฐ คงจะไม่แยแสพร้อมเดินหน้าลุยโปรเจกต์ต่อไปทันที
จากหนังเรื่องนี้ก็ยังมีอีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจ คือการกลับมาขึ้นจอของตัวละคร Joker ที่รับบทโดย Jared Leto หนุ่มหล่อมากความสามารถ แม้ว่าจะเป็นตัวประกอบโผล่มาเพียงไม่กี่ฉาก แต่ก็สามารถสร้างกระแสดราม่ามากมายบนโลกออนไลน์ถึงความเหมาะสม และถูกนำไปเปรียบเทียบกับเวอร์ชั่น Heath Ledger ว่าใครทำได้ดีกว่ากัน สำหรับเรื่องนี้เราอยากให้ทุกท่านไปตัดสินใจกันเอง เราไม่ขอฟันธง
แต่สิ่งที่ทำให้เราหันมาสนใจในตัว Jared Leto นั่นคือเส้นทางการใช้ชีวิต และความมุ่งมั่นพยายามที่จะผลักดันให้สามารถก้าวขึ้นมาทำตามความฝันจนประสบความสำเร็จทั้งด้านงานแสดง งานดนตรี รวมถึงด้านธุรกิจการลงทุน ซึ่งการที่จะประสบความสำเร็จด้านใดด้านหนึ่งก็ว่ายากแล้ว แต่สำหรับ Jared เขาสามารถทำทุกอย่างออกมาได้ในเวลาเดียวกัน ทำให้วันนี้เราจะนำเอาเรื่องราวของ Jared Leto มาแชร์ให้กับชาว UNLOCKMEN ได้รับรู้กัน
Jared Leto แม้ว่าหน้าตาจะดูละอ่อนใสเหมือนวัยรุ่น แต่จริงๆ เขาอายุย่าง 45 ปีแล้วในปีนี้ ซึ่งชีวิตในวัยเด็กของ Jared Leto ถือว่ายากลำบากพอสมควรเพราะต้องโตมาโดยที่ไม่มีคุณพ่อ เพราะพ่อของ Jared Leto ได้หย่าร้างกับแม่ของเขาตั้งแต่เขายังจำความแทบไม่ได้ และแม่ของ Jared ก็ยังเป็นเพียงวัยรุ่นที่ต้องลาออกจาก High School หลังจากคลอด Jared Leto ออกมา ทำให้เขาต้องย้ายบ้านหลายต่อหลายครั้ง แต่นั่นไม่ได้ทำให้เขารู้สึกว่าเป็นเด็กขาดความอบอุ่นแต่อย่างใด
Jared Leto และ Shannon Leto
ช่วงชีวิตในวัยรุ่นของ Jared Leto มีเส้นแบ่งตรงกลางเล็กๆ ของการก้าวข้ามไปยังเส้นทางอาชญากรกับศิลปิน เขาต้องโตมาในสภาพแวดล้อมที่อยู่ใกล้กับยาเสพติดเพียงแค่เอื้อม ซึ่ง Jared Leto เคยบอกว่า เขาเคยเกือบตัดสินใจที่จะไปค้ายาเสพติดมาแล้วหลายครั้ง เพราะเขาโตมาในยุค Hippie ทุกคนมีอิสระทางความคิด เขาใช้ชีวิตส่วนใหญ่ไปกับนักดนตรี ช่างภาพ นักแสดง ยาเสพติดจึงเป็นของคู่กัน แต่เขาโชคดีอย่างมากที่มีแม่ที่ดี หยิบยื่นทางเลือกดีๆ ให้กับเขา รวมถึงสอนให้รู้จักใช้ความคิดสร้างสรรค์ ทำงานหนักผ่านงานศิลปะเพื่อเป็นการระบายออกในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อในชีวิต
ด้วยเหตุนี้เขาจึงเริ่มใฝ่ฝันที่อยากจะเป็นจิตรกร Jared เลยตัดสินใจสมัครเข้าเรียน University of the Arts ใน Philadelphia แต่แล้วหลังจากที่เข้าเรียนไปได้สักพัก เขาก็เริ่มหลงใหลในการแสดง Jared จึงได้ย้ายไปเรียนโรงเรียน School of Visual Arts ใน New York ที่ซึ่งเขาได้เขียนบทและนำแสดงในภาพยนตร์ของตัวเองเรื่อง Crying Joy ก่อนที่เขาจะย้ายไปอยู่ Los Angeles ในปี 1992 เพื่อทำตามความฝันในการเป็นนักแสดง
หลังจากนั้นสองปี เส้นทางการแสดงก็เปิดกว้าง เมื่อเขาได้รับบทเป็น Jordan Catalano หนุ่มหล่อในซีรีส์สำหรับวัยรุ่นจากช่อง ABC ในเรื่อง My So-Called Life ที่แม้ว่าจะออกอากาศได้ไม่นานเท่าไหร่ ด้วยความหล่อเหลาของเขาทำให้ Jared Leto มีผลงานออกมาเรื่อยๆ อย่างเช่น Cool and The Crazy , How to Make an American Quilt , The Last of the High Kings แม้จะเป็นเพียงบทบาทเล็กๆ แต่ก็ทำให้หน้าตาของเขาเริ่มเป็นที่คุ้นตา และครองใจสาวๆ เป็นจำนวนมาก
ในเวลาเดียวกัน หลังจากชิมลางงานแสดงมาได้สักพัก เขารู้สึกว่ามีความต้องการจะถ่ายทอดเรื่องราว แนวคิดของเขาซึ่งการแสดงไม่สามารถถ่ายทอดมันออกมาได้หมด เขาจึงเลือกที่จะทำวงดนตรี โดยใช้ชื่อว่า Thirty Seconds to Mars ร่วมกับพี่ชาย Shannon Leto ซึ่ง Jared รับหน้าที่แต่งเพลง ร่วมกับร้องนำให้กับวง และได้เซ็นสัญญากับ Immortal Record แต่วงก็ยังคงไม่ได้ออกอัลบั้มเสียที เพราะติดเรื่องปัญหาที่ทางค่ายต้องการจะโปรโมตใช้จุดขายที่ Jared Leto เป็นนักแสดง Hollywood แต่ทาง Jared ไม่ยอมเพราะเขาต้องการเริ่มนับหนึ่งใหม่ในฐานะศิลปิน
กลับกันอาชีพนักแสดงของเขาก็ดูจะรุ่งโรจขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเขาได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์ที่ได้รับเสียงวิจารณ์แง่บวกอย่างท่วมท้น อย่าง Girl, Interrupted ภาพยนตร์ดรามาที่นำแสดงโดยสองสาวสวย Angelina Jolie และ Winona Ryder ตามมาด้วย American Psycho หนังดรามาสยองขวัญกระแสดีอีกหนึ่งเรื่องนำแสดงโดยนักแสดงหนุ่ม Christian Bale ที่เขารับบทเป็นเหยื่อรายแรกของฆาตกรหนุ่มโรคจิตรายนี้
แม้บทบาทที่เขาได้รับส่วนใหญ่จะเป็นบทสมทบ แต่ในที่สุด ในปี 2000 เขาก็ได้รับบทที่เปิดโอกาสให้เขาพิสูจน์ถึงความสามารถในการแสดงอันโดดเด่นของเขา ด้วยการรับบทเป็นหนุ่มติดเฮโรอีนในภาพยนตร์มืดหม่น Requiem for a Dream แสดงร่วมกับสาวสวย Jennifer Connelly ซึ่งเป็นการแสดงที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผลงานการแสดงที่ดีที่สุดของเขา ด้านชีวิตส่วนตัวก็เหมือนจะราบรื่นเมื่อเขาได้ตกลงหมั้นหมายกับดาราสาวที่กำลังดังมากๆ ในเวลานั้นอย่าง Cameron Diaz
Jared Leto ก็ยังคงทำงานหนักอย่างต่อเนื่อง ในปี 2002 เขาได้ตัดสินใจพักงานแสดงทั้งหมดเพื่อมาทุ่มเทให้กับงานเพลงอย่างจริงจัง ซึ่งเขาได้ Producer ฝีมือดีอย่าง Bob Ezrin และ Brian Virtue มาร่วมงานทำให้ Thirty Seconds to Mars จึงได้คลอดอัลบั้มแรกออกมาเสียที แม้ว่าอัลบั้มนี้จะได้รับเสียงวิจารณ์ที่ดีมาก แต่กลุ่มคนฟังยังเป็นเพียงกลุ่มคนเล็กๆ และคงเป็นจริงอย่างที่ใครหลายๆ คนว่า งานรุ่งรักมักจะร่วง เพราะหลังจาก Jared โหมงานหนักทำให้ต้องเลิกรากับ Cameron Diaz ที่คบหากันมายาวนานกว่า 4 ปี
หลังจากนั้น Jared กลับไปรับบทบาทสมทบอีกครั้งหนึ่งในภาพยนตร์ทริลเลอร์ระทึกขวัญ Panic Room ที่เขารับบทเป็นคนร้ายที่เข้าคุกคามสาว Jodie Foster และลูกสาวของเธอในบ้าน และบท Hephaistion ชายคนรักของกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ Alexander ในภาพยนตร์อีพิคประวัติศาสตร์ฟอร์มยักษ์ ซึ่งเป็นหนัง Mass พอสมควร ทำให้คนทั่วโลกเริ่มคุ้นหน้าคุ้นตา Jared Leto แบบจริงจัง บวกกับอัลบั้มที่สอง A Beautiful Lie ได้รับการยอมรับ และสร้างชื่อให้เขาระดับโลก เพราะหลังจากอัลบั้มนี้ วง Thirty Seconds to Mars ได้มีโอกาสไปเล่นยังงานเทศกาลดนตรีใหญ่ๆ อย่าง Pinkpop , Rock am Ring และ Roskilde
เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง ชื่อเสียงเริ่มมีในระดับหนึ่งแล้ว เขาจึงทำตามฝันอีกอย่างคือการเป็นผู้กำกับ โดยเขาเริ่มจากการกำกับ Music Video ของวงตัวเองก่อนอย่างเช่นเพลง The Kill ที่เขาได้ดึงตัวละคร Bartholomew Cubbins จากนิยายของ Dr.Seuss มาไว้ใน MV ของตัวเอง รวมถึงทำหนังสั้นลงไปในเพลงของวงตัวเองอีกคือเพลง From Yesterday ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากพระราชวังต้องห้ามของประเทศจีน
หลังจากนั้นวง Thirty Seconds to Mars ก็ขึ้นชื่อในเรื่องภาพ MV ที่สวยงาม เนื้อเพลงที่กระแทกใจ รวมถึงการแสดงสดที่สุดเร้าร้อน โดยทุกสิ่งที่เรากล่าวมานั้นล้วนเกิดจากความสามารถของ Jared Leto ซึ่งก็เลยส่งให้เขาขึ้นชั้นไปเป็น Frontman แถวหน้าประดับวงการเพลงพร้อมลบคำสบประมาทว่าวง Thirty Seconds to Mars สามารถดังได้เพราะ Jared Leto เป็นดารา Hollywood
ชีวิตของเขาเหมือนไม่เคยหยุดพัก พอว่างจากการทัวร์ เขาก็จะกลับไปทุ่มเทให้กับงานแสดงที่เขารัก และการพลิกบทบาทอีกหนึ่งครั้งของเขาคือการเล่นหนังกึ่งอัตชีวะประวัติของ Mark David Chapman หรือหนุ่มจิตวิปริตที่เป็นคนสังหาร John Lennon ในเรื่อง Chapter 27 ซึ่งในหนังเรื่องนี้เขาต้องเพิ่มน้ำหนักตัวจำนวนมาก เพื่อให้สมบทบาท จนคนแทบจะจำเขาไม่ได้เลย
ในช่วงว่างนี้เอง หลังจากหนัง Chaper 27 เขาได้ทุ่มเทเวลาอย่างหนักให้กับวง และออกอัลบั้มที่ 3 คือ This is War แต่ระหว่างทำอัลบั้มนี้มีปัญหาเกิดขึ้นมากมายถึงขั้นฟ้องร้องกันระหว่างวงกับค่ายเพลง EMI ซึ่งพวกเขาโดนฟ้องด้วยจำนวนเงิน 30 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่สุดท้ายทั้งสองฝ่ายก็เคลียร์กันได้ก่อนออกอัลบั้มนี้ออกมา แล้วก็เป็นอัลบั้มที่ส่งให้พวกเขาดังเป็นพลุแตก จนถึงขั้นมีการบันทึกใน Guinness World Record ว่าเป็นวงที่ทัวร์คอนเสิร์ตอัลบั้มมากที่สุดถึง 309 โชว์ทั่วโลก
แล้วก็มาถึงปีทองของทั้งตัวเขา และวง ในปี 2013 Jared Leto ได้รับบท Rayon สตรีข้ามเพศผู้ติดเชื้อ HIV ในหนังเรื่อง Dallas Buyers Club ในบทบาทนี้ทำให้คนทั้งโลกรับรู้ว่าเขาก็เป็นหนึ่งในนักแสดงมากความสามารถอย่างแท้จริง เพราะ Jared ได้ถ่ายทอดอารมณ์ของสตรีข้ามเพศที่ต้องต่อสู้กับโรคร้าย พร้อมต้องลดน้ำหนักลงกว่า 30 ปอนด์ จากบทบาทนี้ก็ได้ส่งให้เขาได้รับรางวัลมากมาย แต่ที่เป็นไฮไลท์ก็คงเป็นรางวัล Oscars ในสาขานักแสดงสมทบชาย ในระหว่างงานประกาศผลเขาได้กล่าวยกเครดิตในชีวิตของเขาทั้งหมดให้กับแม่ และพี่ชาย
“ในปีค.ศ. 1971 ที่เมืองบอสซิเออร์ รัฐลุยเซียนา มีหญิงสาววัยรุ่นคนหนึ่งกำลังตั้งท้องลูกคนที่ 2 เธอต้องลาออกจากไฮสคูลเพื่อมาเป็น Single Mom แต่เธอก็สามารถสร้างชีวิตที่ดีขึ้นให้กับตัวเองและลูกๆ เธอสนับสนุนให้ลูกรู้จักใช้ความคิดสร้างสรรค์ สอนให้พวกเขาทำงานหนัก และเลือกที่จะทำในสิ่งพิเศษ” จาเร็ดกล่าวพร้อมรางวัลออสการ์ตัวแรกในชีวิตที่อยู่ในมือ “ผู้หญิงคนนั้นก็คือแม่ของผมเองและเธอก็อยู่กับผมในคืนนี้ ผมอยากจะบอกแม่ว่า ผมรักแม่ ขอบคุณที่สอนให้ผมรู้จักที่จะฝัน”
และในปีเดียวกัน Thirty Seconds to Mar ก็ได้ออกอัลบั้มที่ 4 Love , Lust , Faith and Dream พร้อมบ้านหลังใหม่ Universal Music ที่เปิดโอกาสให้ Jared Leto ดูแลทุกขั้นตอนการผลิตเอง มีเพลงฮิตอย่าง Up in The Air , Do or Die และ City of Angels ซึ่งขายได้กว่า 4 ล้าน Copie ทั่วโลก ขึ้นอันดับ 6 ใน Billboard Chart
นอกจากงานแสดง และเพลง Jared Leto ยังใช้เวลาว่างในการเป็นนักลงทุนเกี่ยวกับอุตสาหกรรม IT โดยงานสำคัญๆ ของเขาก็ได้แก่ VyRT ออนไลน์แพตฟอร์มที่ฉายวิดีโอออนไลน์ ซึ่งเขาก็ได้นำไอเดียนี้ไปใช้กับวงของเขาเองเวลาที่ไปเล่นคอนเสิร์ตตามที่ต่างๆ และได้รับรางวัลจาก O Music Awards ในสาขา Best Online Concert ปัจจุบันเขามีธุรกิจที่ลงทุนมากกว่า 50 อย่าง และทำเงินให้เขาอย่างมหาศาล
นับว่าเป็นช่วงขวบปีที่ส่งเขาให้แจ้งเกิดเป็น Superstar ชั้นแนวหน้าของโลกอย่างแท้จริง และล่าสุดอย่างที่เรารู้ๆ กันว่าเขาได้มารับบทเป็น Joker ในหนัง Sucide Squad ที่กำลังฉายในโรงขณะนี้ ที่มีการตีความใหม่โดยตัวเขาเอง ซึ่งใครที่ชื่นชอบในตัว Jared Leto รวมถึงผลงานก็ไปติดตามผลงานของเขาได้ จากประวัติคร่าวๆ ของ Jared Leto ชายหนุ่มมากความสามารถที่สะกดคนทั่วโลกในเวลานี้ UNLOCKMEN ได้รวบรวมกฎ 10 ข้อที่ Jared Leto ยึดและปฎิบัติตามจนสามารถประสบความสำเร็จในชีวิต มาฝากทุกท่านกัน
สุดท้ายนี้เราก็หวังว่าเรื่องราวของ Jared Leto จะสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับชาว UNLOCKMEN ได้ แม้ว่าชีวิตของแต่ละคนอาจจะมีต้นทุนที่มาไม่เหมือนกัน แต่ท้ายที่สุดแล้วเราสามารถเลือกทางเดิน และกำหนดเส้นทางชีวิตเองได้ว่าจะเลือกเดินไปทางไหน ความสำเร็จนั้นทำได้ยากแต่ไม่ใช่ว่ามันจะเป็นไปไม่ได้