Kashia Thomas สาวผิวสีที่ทำให้คนเหยียดผิวต้องละอายใจ

ท่ามกลางกระแสต่อต้านนโยบายขวางโลกของ  45th President of the United States  เที่ยวแบนคนนู้น ไล่คนนี้ กีดกันคนนั้นไปเรื่อยไม่เว้นแต่ละวัน แน่นอนว่าเสียงบ่นด่า  Donald Trump  จากสื่อทั่วโลกมีเต็มหน้าข่าวจนเกือบจะหาเรื่องอื่นอ่านไม่ได้ ทำให้เราไปนึกถึงเรื่องราวดีๆ ที่จะทำให้คุณรู้สึกประทับใจและมีความหวังในโลกใบนี้มากขึ้น

ในโลกที่ดูเหมือนจะมีแต่ความรุนแรง การแบ่งแยกสีผิว ซึ่งในอดีตนั้นมีความรุนแรงยิ่งกว่าหลายเท่านัก โดยเฉพาะขบวนการ  KKK  ที่คอยรุมทำร้ายคนผิวสีอยู่เป็นประจำ และมีการขับไล่ เหยียดหยามกันอย่างออกนอกหน้าเสมอ ท่ามกลางความเกลียดชังและความรุนแรง กลับมีเรื่องสวยงามที่ทำให้ขบวนการ  KKK  ต้องหน้าชา และเริ่มตั้งคำถามว่าการแบ่งแยกคืออะไร เมื่อสาวผิวสีที่โดนดูถูกเหยียดหยาม กลับเอาชีวิตตัวเองเข้าปกป้องชายเหยียดสีผิวขบวนการ  KKK  ที่ออกมาขับไล่พวกเธอนั่นเอง

นี่คือเรื่องราวน่าประทับใจของสาวผิวสี  Keshia Thomas  ในวัยอายุเพียงแค่ 18 ปี ที่เอาตัวเข้าปกป้องกลุ่มเหยียดสีผิวชื่อดัง Ku Klux Klan “KKK” ที่คอยต่อต้านพวกคนดำทุกรูปแบบ โดยใช้ความรุนแรง และตามรังควานอยู่ตลอดเวลา

ในช่วงดือนมิถุนายน ปี 1996 กลุ่ม  KKK  ได้รวมตัวกันประมาณ  17  คน เพื่อออกก่อกวน ขับไล่ การเดินขบวนของกลุ่มต่อต้านการเหยียดผิว ที่มารวมตัวกันได้ร่วม 300 คน แน่นอนว่าน้อง  Keshia Thomas  ของเราก็อยู่ในกลุ่มต่อต้านการเหยียดผิวด้วย

ตอนที่อยู่กันเป็นกลุ่มก้อนก็ไม่เท่าไหร่ แต่ไม่รู้นาย  KKK  คนนี้ไปเดินหลงอีท่าไหน จึงแตกแถวโผล่มาคนเดียวโดดเดี่ยวเดียวดาย เมื่อกลุ่มต่อต้านเหยียดผิวเดินไปเจอสมาชิก  KKK  ที่มีสัญลักษณ์ชัดเจนทั่วตัวว่าเป็นสมาชิกของ  KKK  คนนี้เข้า ก็กรูกันเข้าไปวิ่งไล่กระทืบชาย  KKK  คนนั้นด้วยความโกรธแค้นที่อัดอั้นมานาน ทั้งเตะ ต่อย ตี มั่วซั่วอย่างกับศึก  MMA Deathmatch  วินาทีนั้นเอง ที่ภาพแห่งความประทับใจเกิดขึ้น เมื่อน้อง  Keshia Thomas  ตัดสินใจเอาร่างกายตัวเองเข้าไปบังสมาชิก  KKK  คนนั้นจากการโดนรุมกระทืบ ทำให้ทุกคนถึงกับอึ้ง บรรยากาศที่วุ่นวายและเกลียดชังกลับเงียบสงัด ดูเหมือนทุกคนจะเริ่มรู้สึกตัวในที่สุด ว่าสิ่งที่เค้าทำก็ไม่ต่างกับการใช้ความรุนแรงที่  KKK  ทำกับพวกตนเลยแม้แต่นิดเดียว

ทุกคนในวันนั้นบอกว่า การที่น้อง  Thomas  เอาตัวเข้าไปเสี่ยงปกป้องชายสมาชิก  KKK  ที่จ้องจะทำร้ายคนผิวสี และไม่มีทางที่ปกป้องคนผิวสีแบบเดียวกับที่  Thomas  ทำ เป็นสิ่งที่ทำให้ทุกคนเชื่อว่า ความดีในจิตใจของมนุษย์นั้น สามารถเปลี่ยนแปลงโลกให้ดีกว่าการใช้ความรุนแรงได้อย่างแน่นอน ซึ่งภาพของ  Thomas  ภาพนี้ ก็ยังคงเป็นภาพที่สร้างความหวังให้กับทุกคนได้จนกระทั่งทุกวันนี้ แม้จะผ่านไป  21  ปีแล้วก็ตาม